ความประเสริฐของความเจ็บป่วย และการเยี่ยมผู้ป่วย
  จำนวนคนเข้าชม  17173

ความประเสริฐของความเจ็บป่วย และการเยี่ยมผู้ป่วย


โดย ปริญญา (อิบรอฮีม) ประหยัดทรัพย์


        ท่านฟะกีฮ์ (นักปราชญ์) อบูลัยษ์ อัซซะมัรก๊อนดีย์ (รอหิมาหุ้ลล่อฮฺ) กล่าวว่า : ได้มีรายงานจากอบุลฮาซัน อัลกอซิม อิบนูมูฮัมหมัด อิบนู เราซูบะฮฺ จากอีซา อิบนู ค๊อชนาบ จากซุวัยดฺ อิบนูมาลิก จากเซด อิบนูอัสลัม จากอะฏอฮฺ อิบนูยะซ๊าร ว่า : ท่านรอซู้ลุ้ลเลาะฮฺ  ได้กล่าวว่า :

         "เมื่อบ่าวคนหนึ่งได้ล้มป่วยลง อัลเลาะฮฺ ก็ได้ส่งมลาอีกะฮฺมา 2 องค์ แล้วพระองค์อัลเลาะฮฺ ทรงตรัสแก่มลาอีกะฮฺทั้งสองว่า เจ้าทั้งสองจงเฝ้าคอยดูว่าบ่าวของข้าเขาจะเอ่ยคำใดออกมา อันเนื่องจากความเจ็บปวดที่รุมเร้าเขา ดังนั้นเมื่อความเจ็บปวดได้ประสบกับเขา เขาก็กล่าวคำสรรเสริญต่ออัลเลาะฮฺ ด้วยคำว่า “อัลฮัมดุลิลล่าฮฺ” แล้วมลาอีกะฮฺทั้งสองก็นำเรื่องดังกล่าวทูลต่ออัลเลาะฮฺ ทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งในเรื่องดังกล่าวนั้น

        ครั้นแล้วพระองค์อัลเลาะฮฺ ทรงตรัสว่า : โดยแน่แท้ หากข้าประสงค์ให้เขาได้เสียชีวิตลง (ในยามที่เขาเจ็บป่วย) ข้าจะนำเขาเข้าสู่สวรรค์ และหากเขาหายจากการเจ็บป่วย แน่นอนข้าจะทดแทนให้แก่เขาซึ่งเนื้อหนังมังสา และเลือดที่สมบูรณ์ยิ่งกว่า (ยามที่เขามีสุขภาพดีไม่ได้เจ็บป่วย) และยิ่งไปกว่านั้นข้าจะปลดเปลื้องชำระความผิดบาปต่าง ๆ ให้แก่เขา"


         ท่านฟะกีฮฺ (นักปราชญ์) อบุลลัยษฺ อัซซะมัรก๊อนดีย์ (รอหิมาหุ้ลล่อฮฺ) กล่าวว่า : ได้มีรายงานจากมูฮัมมัด อิบนุลฟัฏลฺ จากมูฮัมมัด อิบนู ญะฟัร จากอิบรอฮีม อิบนูยูซุฟ จากอบูมูอาวียะห์ จากอัล-อะห์มัช จากอิมาเราะฮฺ อิบนูมุมัยร จากสะอีด อิบนูวะห์บิน ได้เล่าว่า : ในวันหนึ่งข้าพเจ้าและซัลมาน อัล-ฟารีซีย์ ได้ไปเยี่ยมเพื่อนของซัลมานที่มีอาการเจ็บป่วยรุมเร้า ดังนั้นซัลมานจึงได้กล่าวว่า :

          อันที่จริงอัลเลาะฮฺ ทรงทดสอบบ่าวผู้ศรัทธาของพระองค์ด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ครั้นเมื่อเขาหายจากการทดสอบ (เช่นความเจ็บป่วย) แล้ว แน่แท้พระองค์อัลเลาะฮฺ จักทรงปลดเปลื้องความผิดบาปที่ผ่านมาให้แก่เขา และหลังจากนั้นเขาก็จะได้รับความเมตตาจากพระองค์อันเหลือล้น และในขณะเดียวกันพระองค์จักทรงทดสอบบ่าวของพระองค์ที่ประกอบกรรมชั่วและมีตราบาปด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ครั้นเมื่อเขาหายจากการทดสอบ (เช่นความเจ็บป่วย) แล้ว แน่นอนเขาก็มีสภาพดุจดั่งกับอูฐที่เจ้าของของมันผูกเอาไว้ แล้วก็ปล่อยมันออกไปโดยที่เขาไม่รู้ว่าเหตุอันใดที่เขาต้องผูกและปล่อยมันออกไปเช่นนั้น


          ได้มีสายรายงานจาก อัล-อะห์มัช จากอิบรอฮีม อัตตัยมีย์ จาก อัล-หัรษฺ อิบนูซูวัยดฺ จาอิบนูมัสอู๊ด รอดิยั้ลล่อฮูอันฮุม ได้กล่าวว่า : ในวันหนึ่งข้าพเจ้าได้เข้าไปพบท่านศาสดามูฮัมหมัด  ในสภาพที่ท่านกำลังป่วยหนัก ดังนั้นข้าพเจ้า (อิบนูมัสอู๊ด) จึงเอามือสัมผัสจับเรือนร่างของท่านศาสดา

แล้วข้าพเจ้าก็กล่าวว่า : โอ้ท่านศาสดา เอ๋ย ท่านกำลังไม่สบายมากเลย

ท่านศาสดา กล่าวตอบว่า : ใช่แล้วฉันกำลังไม่สบายเหมือนกับชายสองคนในหมู่พวกท่านที่กำลังไม่สบายเช่นเดียวกัน

ข้าพเจ้า (อิบนูมัสอู๊ด) จึงกล่าวว่า : ถ้าเช่นนั้นท่านก็จะได้รับผลบุญถึงสองเท่ากระนั้นหรือ ?

       ท่านศาสดา  กล่าวตอบว่า “ใช่แล้ว” ขอสาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ (อำนาจ) ของพระองค์ว่า อันที่จริงไม่มีมุสลิมคนหนึ่งคนใดที่อยู่บนหน้าพื้นแผ่นดินที่เขาได้ประสบกับความเจ็บป่วย นอกจากอัลเลาะฮฺ จักทรงปลดเปลื้องความผิดบาปต่าง ๆ ให้แก่เขาดุจดั่งใบไม้ที่ร่วงหล่นจากกิ่งต้นของมัน


          ได้มีรายงานจากท่าน ญะฟัร อิบนิ ฟาริส จากซัยคินจากชายคนหนึ่งในหมู่ชน มูฮาญีรีน เล่าว่า : ในวันหนึ่งเขาได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย แล้วเขาก็กล่าวว่า

“สำหรับผู้ป่วยนั้นยามที่เขาเจ็บป่วย เขาจะได้รับความดี 4 ประการ

ประการที่ 1  ปากกาจะไม่บันทึกความผิดบาปแก่เขา (ปากกาถูกยกออกจากเขา)

ประการที่ 2  ผลบุญจะหลั่งไหลให้แก่เขา เสมือนหนึ่งเขาได้ปฏิบัติคุณความดีในยามที่เขามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์

ประการที่ 3  ทุก ๆ ข้อต่อจากอวัยวะของเขาที่มีมลทินและตราบาปจะถูกลบล้างออกจนหมดสิ้น
 
ประการที่ 4  หากเขาตายไป (ในสภาพที่เขาเจ็บป่วย) แน่นอนเขาจะได้รับการอภัยโทษจากอัลเลาะฮฺ และหากเขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะได้รับการอภัยโทษจากพระองค์เช่นเดียวกัน


เล่าจากท่านมูอ๊าซ อิบนิ ญะบั้ล รอดิยัลล่อฮูตาอาลาอันฮู ว่า : ท่านรอซูลุลเลาะฮฺ กล่าวว่า :

     "เมื่อพระองค์อัลเลาะฮฺ ทดสอบบ่าวของพระองค์ผู้มีศรัทธาด้วยกับโรคภัยต่าง ๆ แล้ว

     พระองค์ทรงตรัสแก่มลาอีกะฮฺที่ทำหน้าที่จดบันทึกด้านซ้ายว่า : เจ้าจงยกปากกาออกจากเขาเถิด (หมายถึง ปากกาจะไม่บันทึกความผิดบาปของเขา)

     และพระองค์ทรงตรัสแก่มลาอีกะฮฺที่อยู่ด้านขวาว่า : เจ้าจงบันทึกไว้ในบัญชีของเขาเถิดให้แก่บ่าวของข้าซึ่งความดีงามที่ดีที่สุด ยิ่งกว่าเขาได้ปฏิบัติธรรมในขณะที่เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง"


เล่าจากท่านอุมัร รอดิยั้ลล่อฮู่อันฮูมา ว่า : ท่านนบี  ได้กล่าวว่า :

"ท่านทั้งหลายอย่าได้บังคับผู้ป่วยในหมู่พวกท่านให้เขารับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม เพราะแท้ที่จริงอัลเลาะฮฺ ทรงให้อาหารและเครื่องดื่มแก่พวกเขา (ผู้ป่วย) เอง"


ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : ท่านนบี ได้กล่าวว่า :

           "ลมหายใจของเขานั้นย่อมเป็นกุศล และการนอนของเขาเป็นอีบาดะฮฺ การเปลี่ยน (อิริยาบถ) จากสภาพหนึ่งไปสู่อีกสภาพหนึ่งนั้นถือเป็นการต่อสู้ (ญีฮาด) ในหนทางของอัลเลาะฮฺ และพระองค์อัลเลาะฮฺ  จักทรงบันทึกคุณความดีแก่เขา ดีกว่าการปฏิบัติธรรมของเขาในสภาพที่เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์"


ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : ท่านนบี ได้กล่าวว่า :

         "บุคคล 4 จำพวกที่การปฏิบัติธรรมของเขาเพิ่งเริ่มเปิดฉากขึ้น เสมือนหนึ่งว่าเขามีความบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทิน และตราบาป บุคคลเหล่านั้นได้แก่ :

1. ผู้ป่วยเมื่อเขาได้หายจากความเจ็บป่วย

2. ผู้ตั้งภาคีเมื่อเขาได้เข้ารับศรัทธาในศาสนาอิสลามแล้ว

3. ผู้ที่ปฏิบัติละหมาดวันศุกร์ด้วยความศรัทธามั่นและมุ่งหวังในการตอบแทนจากพระองค์อัลเลาะฮฺ

4. ผู้ที่เดินทางประกอบพิธีฮัจย์ ด้วยทรัพย์สินที่ฮาล้าล"


ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : ท่านนบี  ได้กล่าวว่า : ขุมคลังแห่งความดีงามนั้นย่อมได้รับแก่บุคคล 3 จำพวกได้แก่

1. ผู้ที่ประสบกับความเจ็บป่วยแล้วเขาก็มีความอดทนโดยที่เขาไม่พร่ำบ่นใด ๆ ในความเจ็บป่วยที่รุมเร้าเขา

2. ผู้ที่บริจาคทานแบบลับ ๆ โดยไม่มีใครอื่นใดล่วงรู้นอกจากอัลเลาะฮฺ เท่านั้น

3. ผู้ที่มีความอดทนต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ที่ได้มาประสบกับเขา


        ได้มีรายงานจากท่านนบี ว่า : ในวันหนึ่งท่านนบี  ได้ไปเยี่ยมซัลมาน อัล-ฟารีซีย์ รอดิยั้ลล่อฮูอันฮู ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะเจ็บป่วย ครั้นแล้วท่านนบี  ได้กล่าวว่า :

โอ้ซัลมานเอ๋ย ! เจ้ากำลังได้รับความดีงามสามประการในสภาพที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ในขณะนี้

ประการที่ 1 เป็นข้อเตือนใจและบทเรียนจากองค์พระผู้อภิบาลของเจ้าแก่เจ้า

ประการที่ 2 ความผิดบาปต่าง ๆ ของเจ้าที่ผ่านมาย่อมได้รับการปลดเปลื้องและชำระจนหมดสิ้น

ประการที่ 3 ดุอาฮฺ ของผู้ได้รับการทดสอบ (ผู้ป่วย) ย่อมเป็นที่ถูกตอบรับ (มุสตะญาบ) จากอัลเลาะฮฺ

ดังนั้นเจ้าจงวิงวอนขอต่ออัลเลาะฮฺ  เถิด เท่าที่เจ้ามีความสามารถ


เล่าจากอิบนิมัสอู๊ด รอดิยั้ลล่อฮู่อันฮูว่า : ท่านนบี ได้กล่าวว่า :

"อันที่จริงผู้ที่เจ็บป่วยนั้นความผิดบาปต่าง ๆ ของเขาที่ผ่านมาย่อมได้รับการปลดเปลื้อง"


ท่านฟะฮฺกีฮฺ (นักปราชญ์) รอหิมาหุ้ลล่อฮฺ ได้กล่าวว่า :

          คน ๆ หนึ่งผลบุญจะไม่ถูกบันทึกให้แก่เขา อันเนื่องจากความเจ็บป่วยของเขาแต่ทว่ามลาอีกะฮฺจะจดบันทึกให้แก่เขาซึ่งผลบุญที่เขาตั้งเจตนาที่ดีที่จะปฏิบัติธรรมและคุณงามความดีทั้งหลายแต่เขาไม่สามารถปฏิบัติได้เนื่องจากความเจ็บป่วยของเขาและอัลเลาะฮฺ ทรงรอบรู้ยิ่งในเจตนาอันบริสุทธิ์ของเขาว่า :

          หากเขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ แน่นอนเขาก็จะได้ปฏิบัติในคุณความดีนั้น ๆ ที่สุดแล้วอัลเลาะฮฺ ก็จะทรงบันทึกผลบุญของอะมั้ลต่าง ๆ ให้แก่เขาเพราะเขามีเจตนาที่ดี มีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลเลาะฮฺต่อการที่จะปฏิบัติคุณความดีเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งนั้นก็ตาม และความเจ็บป่วยนั้นมันจะปลดเปลื้องความผิดบาปต่าง ๆ ให้แก่ผู้ป่วย นั่นก็หมายความว่า เมื่อผู้ป่วยเขาได้สารภาพผิด กลับตัวกลับใจในความผิดบาปของเขา หากเขาไม่สารภาพผิด และเขาตั้งเจตนาไว้ว่าเมื่อเขาหายป่วยแล้วเขาก็จะหวลกลับไปทำความผิดบาปและความชั่วอีก ดังนั้นเขาก็จะไม่ได้รับการปลดเปลื้องในความผิดบาปของเขาแต่อย่างใดเลย

ได้มีรายงานจากท่านฮาซัน อัล-บัศรีย์ รอดิยั้ลล่อฮู่ตาอาลาอันฮู จากท่านนบี ว่า : ท่านนบี ได้กล่าวว่า :

"ความเจ็บป่วยนั้นเป็นเกราะป้องกันให้มุฮฺมินทุกคนรอดพ้นจากไฟนรก"

ได้มีรายงานจากท่านอบีซะอีด อัล-คุดรีย์ รอดิยั้ลล่อฮู่ตาอาลาอันฮู จากท่านนบี ได้กล่าวว่า :

องค์อภิบาลของพวกท่านทรงตรัสว่า :

          "ด้วยความเกรียงไกรและความสูงส่งของข้า ข้าจะไม่นำบ่าวของข้าออกจากโลกดุนยาแห่งนี้โดยที่ข้าปราถนาที่จะให้ความรักความเมตตาแก่เขาจนกว่าข้าจะได้ปลดเปลื้องมลทิลและความผิดบาปแก่เขาให้บริสุทธิ์โดยที่ข้าให้เขาประสบกับความเจ็บป่วย หรือความแร้นแค้นขัดสนในการดำรงชีวิต และคราใดที่วาระสุดท้ายแห่งความตายมาพรากเขาไป แน่นอนข้าจะนำเขามายังข้าในสภาพที่เขามีความบริสุทธิ์ดุจดั่งวันที่มารดาของเขาได้คลอดเขาออกมาจากครรภ์

          และข้าจะไม่นำบ่าวของข้าออกจากโลกดุนยาแห่งนี้ โดยที่ข้า ปราถนาที่จะลงโทษเขาจนกว่าข้าจะได้ตอบแทนเขาให้สมบูรณ์ในทุก ๆ ความดีงามที่เขาได้ปฏิบัติลงไปในภาวะที่เขามีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง หรือมีริสกีปัจจัยยังชีพที่กว้างขวาง คล่องตัวในการดำรงชีวิต และคราใดที่วาระสุดท้ายแห่งความตายมาพรากเขาไป แน่นอนข้าจะนำเขามายังข้าในสภาพที่ไม่มีคุณความดีใด ๆ แก่เขาเลย"


ท่านนบี  ได้กล่าวว่า :

"บุคคลใดไปเยี่ยมผู้ป่วย แน่นอนเขาก็ยังคงได้รับรัศมีแห่งความเมตตาแผ่ปกคลุม

และเมื่อเขาเข้าไปนั่งใกล้ผู้ป่วย เขาก็ได้รับความรักความเมตตาแผ่ปกคลุมเช่นกัน"

 

เล่าจากท่านอิบนิอุมัร รอดิยั้ลล่อฮูอันฮูมา จากท่านนบี  ว่า : ท่านนบี ได้กล่าวว่า :

          "บุคคลใดที่ไปเยี่ยมผู้ป่วย แน่แท้ (เขาย่อมได้รับผลบุญ) เสมือนหนึ่งเขาได้ถือศีลอดหนึ่งวันในหนทางของอัลเลาะฮฺ หนึ่งวัน ณ องค์อัลเลาะฮฺเท่ากับ 700 วันในโลกดุนยา และบุคคลใดติดตามไปส่งมัยยิตที่กุโบร แน่แท้ (เขาย่อมได้รับผลบุญ) เสมือนหนึ่งเขาได้ถือศีลอดหนึ่งวันในหนทางของอัลเลาะฮฺ หนึ่งวัน ณ องค์อัลเลาะฮฺ เท่ากับ 700 วันในโลกดุนยา"

         ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : มีชายคนหนึ่งมาร้องทุกข์กับมารดาของอบีดัรดาฮฺ รอดิยั้ลล่อฮู่อันฮาว่า โอ้มารดาอบีดัรดาฮฺเอ่ย ! ทำไมหัวใจของข้าพเจ้ามันแข็งกระด้างเหลือเกิน ?

          มารดาของอบีดัรดาฮ์ตอบว่า : ก็หัวใจนั่นไง คือบ่อเกิดอันยิ่งใหญ่แห่งโรค ดังนั้น (สิ่งที่จะมาบำบัดหัวใจมิให้แข็งกระด้าง) ก็คือ ท่านจงไปเยี่ยมผู้ป่วย จงร่วมขบวนไปส่งมัยยิต (ศพ) ที่กุโบร์ และไปเยี่ยมกุโบรอย่างสม่ำเสมอ

           ครั้นแล้วชายผู้นั้นก็ทำตามที่มารดาของอบีดัรดาฮฺได้ชี้แนะเสมือนหนึ่งเขาได้เห็นว่าในตัวของเขานั้นมีความสะดวกง่ายดาย มีจิตใจที่อ่อนโยนไม่แข็งกระด้าง กระทั่งในวันหนึ่งเขาได้กลับไปหามารดาของอบีดัรดาฮฺอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณว่า:“ขออัลเลาะฮฺ ทรงตอบแทนคุณความดีแก่เธอด้วยเถิด”

 

 

สำนักจุฬาราชมนตรี