การอพยพของบรรดามุสลิม
  จำนวนคนเข้าชม  6147

การอพยพของบรรดามุสลิม

          หลังจากที่อิสลามได้แพร่ขยายในเมือง“ยัษริบ” และได้มีการทำสัตยาบันของชาวอันศ็อรกับท่านเราะซูลุลลอฮ์ ที่ “อัลอะกอบะฮ์ ”ครั้งที่สอง ในการให้ความสนับสนุนท่านนะบี   เมืองยัษริบได้กลายเป็นสถานที่เตรียมพร้อมสำหรับการอพยพของบรรดาผู้ศรัทธา(มุมินีน)  ส่วนบรรดาหัวหน้าชาวกุเรชเมื่อได้รู้แน่ชัดว่า ชาวอันศ็อรได้ทำสัตยาบันกับท่านเราะซูล จึงเพิ่มความรุนแรงในการทำร้ายบรรดามุสลิมมากขึ้น ท่านเราะซูล จึงมีคำสั่งให้บรรดาซอฮาบะฮ์อพยพไปยังเมือง  “ยัษริบ ”  โดยท่านได้กล่าวว่า :

          (( إن الله عز وجل قد جعل لكم إخوانا ودارا تأمنون بـها ))
 
          “แท้จริงอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงให้พวกท่านมีพี่น้อง และให้พวกท่านมีที่พักพิงที่มีความปลอดภัยแล้ว”

          ต่อมาได้มีวะฮีย์จากอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาว่า  เมืองยัษริบนั้นเป็นสถานที่แห่งการอพยพสำหรับท่าน และบรรดาซอฮาบะฮ์ ดังปรากฏในฮะดีษหลายบทซึ่งระบุว่า :

          “ท่านนะบีได้ฝันเห็นสถานที่อพยพของท่านคือ เมืองยัษริบ” 

          บรรดาซอฮาบะฮ์ได้เริ่มอพยพไปยังเมือง “ยัษริบ” อย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้พวกกุฟฟ๊ารชาวกุเรชรู้  พวกเขาได้ประสบผลสำเร็จในการอพยพจากนครมักกะฮ์สู่นครมะดีนะฮ์ และรอดพ้นจากการคุกคามของพวกกุเรช

          ชาวกุเรชได้พยายามในทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง ยับยั้งการอพยพไปยังเมืองมะดีนะฮ์ และพยายามทำให้เกิดความวุ่นวาย ด้วยการยึดทรัพย์สินมิให้นำติดตัวไป  บางครั้งยึดภรรยาและลูกๆ  โดยใช้อุบาย เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้บรรดาผู้อพยพกลับคืนสู่นครมักกะฮ์ แต่อุปสรรคต่างๆมิได้มีผลต่อการมุ่งมั่นที่จะอพยพแต่อย่างใด   บรรดาผู้อพยพจึงได้เตรียมพร้อมที่จะสละทรัพย์สมบัติหรือแม้แต่ครอบครัว เพื่อตอบสนองการเชิญชวนสู่หลักศรัทธาที่มั่นคง (*1*) 

          การอพยพของบรรดาซอฮาบะฮ์ได้มีอุปสรรคมากมาย  แต่ก็ไม่เหลือผู้ใดอยู่ที่นครมักกะฮ์ นอกจากผู้ที่พวกมุชรีกีนได้กักขังเอาไว้ และผู้ที่ไม่สามารถออกเดินทางไปได้ เช่นเดียวกันท่านเราะซูลุลลอฮ์ ได้รอคอยการอนุมัติจากอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เท่านั้น  ท่านได้สั่งให้ท่านอบูบักรรอฎิยัลลอฮุอันฮุ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในการอพยพพร้อมกับท่าน และสำหรับ อาลี บิน อบีฏอลิบ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ท่านนะบี ให้อยู่ที่มักกะฮ์เพื่อคืนของฝากแก่เจ้าของที่ได้ฝากไว้ โดยให้จัดการคืนของฝากแก่เจ้าของให้เรียบร้อย

          ถนนหนทางในเมืองมักกะฮ์ และพื้นที่ต่างๆว่างเปล่า บ้านเรือนปราศจากบรรดาผู้ศรัทธา(มุมิน) เงียบเหงาซบเซา หลังจากที่เคยมีผู้คนพลุกพล่านมาก่อน บ้านที่ว่างเต็มไปด้วยฝุ่น เห็นแล้วทำให้หัวใจหดหู่ บรรดาเจ้าของบ้านถูกขับออกจากบ้านของตนเอง เพียงเพราะพวกเขากล่าวว่า : “พระเจ้าของพวกเราคืออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา” เท่านั้น สภาพนั้นได้ทำให้ผู้ที่มีความโหดเหี้ยม กลับทำให้จิตใจของพวกเขาอ่อนไหว ทั้งๆที่เคยแข็งกระด้างมาก่อน 

          อุตบะฮ์ บิน ร่อบีอะฮ์ และอัลอับบาส ผู้เป็นลุงของท่านเราะซูล  อีกทั้งอบูญะฮ์ล ได้เดินผ่านบ้านหลังหนึ่งของบนีญะฮ์ชิน แล้วอุตบะฮ์ได้มองดูประตูที่ถูกลมพัดให้ปิดเปิดโดยไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เขาจึงถอนหายใจ และพูดขึ้นว่า :

          (( وكل دار وإن طالت سلامتها  .  يوما ستدركها النكباء والحوب . ))
         
          “แต่ละบ้านเคยอยู่กันมานานอย่างปลอดภัย แต่มาวันหนึ่งก็เหลือแต่ลมหวนและความผุพัง ”

          แล้วก็พูดระบายความในใจว่า:

          “แล้วบ้านของบนี ญะฮ์ชิน  ก็ว่างเปล่า ไม่มีเจ้าของอยู่  มันมีแต่หัวใจอีกหลายดวงที่ประหลาด ไม่มีความดีใดๆเหลืออยู่เลย นอกจากความชั่วร้ายเท่านั้น ”    

          หัวใจของอบูญะฮ์ล เป็นหนึ่งในหัวใจเหล่านั้นด้วย เขาจึงตอบโต้อุตบะฮ์  เพื่อเป็นการปิดบังความเศร้าสลด และความเจ็บปวดว่า :

          “คนที่ไม่โด่งดัง ไม่รู้ว่าเป็นลูกใครนั้น จะไปร้องไห้ให้เขาทำไม? ”

          หมายถึง คนที่ไร้ความหมายจะไปร้องไห้ให้มันทำไม ? ทั้งนี้เป็นการเย้ยหยันของอบูญะฮ์ล ต่อบรรดาเจ้าของบ้านนั่นเอง แล้วอบูญะฮ์ล จึงหันมาทางอัลอับบาส  แล้วพูดว่า :

          “นี่เป็นฝีมือของลูกของน้องชายท่าน ที่เขาได้ทำให้กลุ่มชนของเราแตกแยกทำให้พวกเราต้องระส่ำระสาย  และเขาได้ตัดขาดญาติมิตรในหมู่พวกเรา ” 

          คนชั่วร้ายทั้งหลาย และคนโกงทั้งปวง มันจะก่อกวนทำร้ายอยู่เสมอแล้วจะโยนความผิดให้คนอื่น (*2*)   

ดร.อัดุลลอฮฺ  อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน

 ...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด


  1. ดู ซ่อฮี๊ฮฺ   อัลบุคอรีย์ กิตาบ มะนากิบ อัลอันศ็อรฺ บาบที่ 5 เรื่อง ฮิจญ์ร่อตุรร่อซูล และซ่อฮี๊ฮฺ  มุสลิม 1779/1 ฟัตฮุลบารีย์ เล่ม 7 หน้า 231 อัลอุมรี ซีเราะฮฺฯ 202
  2. ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม 2/79 . อัลฆอซาลี ฟิกฮุซซีเราะฮฺ 166