อัมรฺ อิบนุลอ๊าศ และคอลิด อิบนุลวะลีด
  จำนวนคนเข้าชม  11166

ข่าวดีของบรรดาอันบิยาอฺ 2


การเข้ารับอิสลามของอัมรฺ อิบนุลอ๊าศ และคอลิด อิบนุลวะลีด

มีรายงานจากท่านอบีฮะบี๊บ บิน อะบีเอ๊าซฺ แจ้งว่า ท่านอัมรฺ อิบนุลอ๊าศได้สนทนากับฉันปากต่อปากว่า :

เมื่อพวกเรา(พันธมิตรมักกะห์) ถอนตัวจากสงครามคอนดั๊ก(อะห์ซ๊าบ)* ฉันได้รวบรวมชายฉกรรจ์ชาวกุเรชหลายคน และพวกเขาก็รู้จักฉันดีและเชื่อฟังคำพูดของฉัน ฉันกล่าวกับพวกเขาว่า :

          พวกท่านทราบดีว่าการเผยแพร่ของมุฮัมหมัดกำลังประสบผลสำเร็จ ได้รับความนิยมก้าวหน้าและแพร่หลายออกไปทั่ว ซึ่งฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง สำหรับตัวฉันนั้นมีความเห็นอยู่อย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่าพวกท่านจะเห็นเป็นประการใด

พวกเขากล่าวว่า :
          ท่านเห็นว่าอย่างไรเล่า?

อัมรฺตอบว่า :
          ฉันเห็นว่าพวกเราน่าจะขอลี้ภัยไปอยู่กับนะญาชีย์ที่อบิสซิเนีย หากว่ามุฮัมหมัดชนะ เรายอมอยู่ใต้การปกครองของนะญาชีย์ดีกว่าจะอยู่ใต้การปกครองของมุฮัมหมัด แต่ถ้าพวกเราชนะมุฮัมหมัด ฐานะพวกเราก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เราจะไม่เสียอะไร นอกจากจะได้แต่ที่ดีเท่านั้น

พวกนั้นก็กล่าวว่า :
          แท้จริงนี่เป็นความเห็นที่ถูกต้อง

อัมรฺจึงกล่าวว่า แล้วฉันจึงพูดกับพวกเขาว่า :
          ดังนั้น พวกท่านจงรวบรวมสิ่งที่จะให้เป็นของขวัญจากพื้นบ้านของพวกเราแก่นะญาชีย์ นั่นก็คือแกงชนิดหนึ่ง

           แล้วพวกเราก็ออกเดินทางไปอบิสซิเนีย
          ขณะที่พวกเราพักอยู่ที่นั้นก็พอดีกับท่าน อัมรฺ บิน อุมัยยะห์ อัฎฎอมรีย์ ตัวแทนฝ่ายมุสลิมที่ท่านรอซูลส่งไปพบกับนะญาชีย์ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับเรื่องญะอฺฟัร กับบรรดาผู้อพยพชาวมุสลิม ได้มาถึง

           อัมรฺ อิบนิลอ๊าศ เล่าต่อไปอีกว่า อัมรฺ อิบนุ อุมัยยะห์ อัฎฎอมรีย์ ได้เข้าพบนะญาชีย์แล้วก็กลับออกไป ฉันจึงพูดกับบรรดาพรรคพวกของฉันว่า :

          คนนั้นคือ อัมรฺ อิบนุ อุมัยยะห์ อัฎฎอมรีย์ หากฉันเข้าไปพบนะญาชีย์และขอให้มอบตัวอัมรฺมาให้ฉัน แล้วเขาก็มอบตัวอัมรฺมาให้ฉัน ฉันก็จะตัดคอเขาเสียเลย ถ้าฉันทำได้เช่นนั้น บรรดาชาวกุเรชจะเห็นว่าสิ่งที่ฉันกระทำไปนั้น เป็นปฏิบัติการณ์ล้างแค้นที่สมความปรารถนาของชาวกุเรชทั้งมวล หากฉันสังหารทูตของมุฮัมหมัดได้สำเร็จ

           อัมรฺ อิบนิล อ๊าศ เล่าต่อไปอีกว่า ฉันจึงนำแกงจำนวนมากดังกล่าวไปมอบให้กับนะญาชีย์ ซึ่งเป็นที่พึงพอใจและน่ารับประทานมาก แล้วฉันก็พูดขึ้นว่า :
           โอ้ ท่านผู้เป็นกษัตริย์ แท้จริงฉันเป็นผู้หนึ่งเพิ่งมาจากที่ประทับของท่าน และเขา(อัมรฺ) ก็เป็นทูตของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นศัตรูของเรา ดังนั้น โปรดมอบตัวชายผู้นั้นให้กับเราเพื่อเราจะได้นำไปฆ่าเสียเถิด แท้จริงชายที่เป็นศัตรูของเรา เขาได้หยามผู้มีเกียรติของเรา และผู้มีฐานะของพวกเรา

           อัมรฺกล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อฉันพูดเช่นนั้น นะญาชีย์ก็กริ้วมาก ใช้มือฟาดจมูกตัวเองจนฉันคิดว่าจมูกคงหักเป็นแน่ และถ้าขณะนั้นแผ่นดินแยกได้ ฉันคงต้องแทรกแผ่นดินหนีเพราะความตกใจสุดขีดนั่นเอง

ฉันจึงพูดขึ้นว่า :
          โอ้ท่านผู้เป็นกษัตริย์ หากฉันรู้ว่าท่านไม่พึงพอใจในสิ่งที่ฉันขอต่อท่าน ฉันก็จะไม่ขอสิ่งนั้น

นะญาชีย์กล่าวว่า :
          เจ้าขอให้ข้ามอบตัวทูตของผู้ที่ญิบรีลได้เคยมาหานบีมูซา และมายังเขา เพื่อให้เจ้าฆ่าทูตของบุคคลนั้นกระนั้นหรือ?

อัมรฺจึงพูดว่า ฉันจึงพูดกับนะญาชีย์ว่า :
          โอ้ท่านผู้เป็นกษัตริย์ เขา(มุฮัมหมัด)นั้นมีฐานะถึงขั้นที่ท่านพูดถึงเชียวหรือ?

นะญาชีย์ก็ตอบว่า :
          ขอความพินาศจงประสบกับเจ้าเถิด อัมรฺ ขอให้เจ้าฟังข้า และปฏิบัติตามชายคนนั้น(มุฮัมหมัด)เถิด ขอสาบานต่ออัลเลาะห์ ว่าแท้จริงเขา(มุฮัมหมัด)ตั้งอยู่บนความจริง และแน่นอนเขา(มุฮัมหมัด)จะได้รับชัยชนะเหนือผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเขา เหมือนกับที่มูซาได้รับชัยชนะเหนือฟิรเอาวน์มาแล้ว

อัมรฺ กล่าวต่อไปว่า ฉันจึงกล่าวแก่นะญาชีย์ว่า :
          ดังนั้น ขอท่านช่วยรับสัตยาบันของฉันในการเข้ารับนับถือศาสนาอิสลามแทนเขา(มุฮัมหมัด)ด้วยเถิด

นะญาชีย์ก็ตอบว่า :
          ได้ซิ

          พลางท่านก็ยื่นมือออกมาให้ฉันจับเพื่อทำสัตยาบันในการเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม เสร็จแล้วฉันจึงเดินออกไปพบกับหมู่คณะที่รออยู่ข้างนอก โดยที่ความคิดของฉันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ฉันยังคงปกปิดเรื่องเข้ารับอิสลามไว้เป็นความลับไม่ให้พวกเขารู้ และต่อมาฉันก็เดินทางกลับมักกะห์ ตั้งใจจะไปพบท่านรอซูล ที่มะดีนะห์เพื่อประกาศตนเป็นมุสลิม และฉันก็ได้พบกับท่านคอลิด อิบนิล วะลีด กำลังเดินทางออกจากมักกะห์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงก่อนการพิชิตมักะห์

ฉันจึงถามคอลิดว่า :
          โอ้ อบูสุลัยมาน(คอลิด) ท่านจะไปไหน?

เขากล่าวว่า :
          ขอสาบานต่ออัลเลาะห์ แน่นอนหนทางอันเที่ยงธรรมเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว และแท้จริง ท่านผู้นั้น(มุฮัมหมัด) เป็นนบี(ผู้ประกาศศาสนา)ของอัลเลาะห์ ฉันกำลังจะไปพบท่านผู้นั้นเพื่อประกาศตนเป็นมุสลิม พวกเราจะดื้อรั้นกันไปถึงไหนอีก

อัมรฺกล่าวต่อไปอีกว่า ฉันจึงกล่าวกับคอลิดว่า :
          ฉันขอสาบานต่ออัลเลาะห์ว่า ฉันมิได้มาเพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อประกาศตนเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม

          อัมรฺเล่าต่อไปอีกว่า แล้วพวกเราก็มาพบกับท่านรอซูล คอลิดเดินเข้าไปก่อนแล้ว ประกาศตนเข้ารับอิสลามและทำสัตยาบันต่อท่านรอซูล แล้วฉันก็เดินตามเข้าไปและกล่าวกับท่านรอซูลว่า :
          โอ้ท่านรอซูลลุลลอฮ์ แท้จริงฉันขอให้สัตยาบันแก่ท่านโดยมีเงื่อนไขให้ท่านขออภัยโทษต่ออัลเลาะห์ให้กับฉันด้วยในการกระทำของฉันที่ผ่านมาในอดีต และฉันก็จำไม่ได้ว่า ได้บอกขออภัยในเรื่องอนาคตด้วยหรือเปล่า

อัมรฺเล่าต่อไปว่า และท่านรอซูลจึงกล่าวว่า :
          อัมรฺเอ๋ย จงทำสัตยาบันโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขใดๆเถิด เพราะแท้จริงอิสลามไม่เอาโทษอันเนื่องมาจากการกระทำที่แล้วๆมา และการอพยพนั้นเป็นการยกเลิกการกระทำที่ผ่านมาแล้วในอดีต

อัมรฺจึงกล่าวอีกว่า :
          ฉันขอให้สัตยาบันต่อท่านรอซูล
          ว่าแล้วเขาก็เดินออกมา
         
          ท่านอิบนิ อิสหาก กล่าวว่า :
          มีผู้ที่เชื่อถือได้ กล่าวแก่ฉันว่า ขณะที่คอลิด และอัมรฺ เข้ารับอิสลามนั้น มีท่านอุสมาน บิน อบีฏอลฮะห์ เข้ารับอิสลามร่วมกับท่านทั้งสองด้วย

บันทึกโดย อะห์หมัด ฏ็อบรอนีย์ และอัลฮัยซะมีย์


* สงครามคอนดั๊กเกิดขึ้นในเดือนเชาวาล ฮิจญ์เราะห์ศักราชที่ 5 มีชื่อเรีกอีกชื่อหนึ่งว่า สงครามอะห์ซ๊าบ(พันธมิตร) ซึ่งประกอบไปด้วยพวกมุชริกมักกะห์ที่มาจากตระกูลกุเรช และอาหรับตระกูลอื่นๆ ตลอดจนพวกยิวจากตระกูล บะนีนะฎีรในมะดีนะห์ ได้รวมหัวกันเพื่อทำสงครามกับมุสลิมในมะดีนะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งที่จะทำลายท่านรอซูล และอิสลามให้สิ้นซาก และขณะนั้น ท่าน อัมรฺ อิบนุลอ๊าศ เป็นมุชริกอยู่ร่วมกับฝ่ายกุเรช กุฟฟารมักกะห์อยู่

โปรดติดตามตอนต่อไป


Click <<< ข่าวดีของบรรดาอันบิยาอฺ (อะลัยฮิมุสสลาม)                                      ข่าวดีของบรรดาอันบิยาอฺ (อะลัยฮิมุสสลาม) 3                  

เครื่องหมายการเป็นนบีของท่านนบีมูฮัมหมัด >>>Click