เมื่อ ดารา เข้ารับอิสลาม !
ในหลายบรรทัดต่อไปนี้ ข้าพเจ้าเขียนถึงการเข้ารับอิสลามของสตรีชาวอิตาลีคนหนึ่ง ที่เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะในสถานศึกษา และหลังจากนั้นเธอได้กลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในอิตาลี เธอมีความสวยงามโดดเด่น ชีวิตของเธอได้โลดแล่นไปในสิ่งที่ทำความเสียหายต่อกริยามารยาท วันแล้ววันเล่า ที่สังคมและศิลปะได้มอบความเสียหายให้กับเธอ ในขณะที่อัลลอฮ์
ทรงประสงค์ให้เธอหันหน้าเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลก และได้เปลี่ยนแปลงสภาพของเธอ ตั้งแต่ ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก เธอคือ "มาร์เซลลา อันญโล"
มาร์เซลลา อันญโล ได้เล่าว่า
เธอเกิดที่เมืองเญนัว พ่อ แม่ เป็นชาวอิตาลี คริสเตียน ที่มีทิฐิความเคร่งครัดมาก ฉันได้รับการศึกษาจากโรงเรียนในเมืองเญนัว และครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวง อิตาลี กรุงโรม ฉันได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยทางด้าน ศิลปะต่างๆ
ฉันเป็นสาวสวย ที่ทำให้หลายคนเหลียวหลังหันมามอง เมื่อฉันเป็นนักศึกษา ได้รับข้อเสนอให้ไปทำงานเป็นนางแบบ ให้กับพวกนักวาดภาพ ฉันทำงานไปพร้อมกับเรียนหนังสือ ฉันได้รับชื่อเสียงมากจากการทำงานครั้งนี้ หลังจากนั้น ความสวยงามอันมากมายทำให้ฉันได้งานเป็นนางแบบ เพื่อแสดงเสื้อผ้า ทำให้ฉันได้รับชื่อเสียง และเงินทองมากมาย จนเมื่อสำเร็จการศึกษาทางด้านศิลปะด้วยดี
มาร์เซลลา อันญโล ได้เล่าต่อไปว่า
ฉันมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าการงานที่ผ่านมา มีความฝันที่จะได้แสดงภาพยนต์อิตาลี แล้วฉันก็ได้มีโอกาสพบกับผู้สร้างภาพยนต์ เบตโร ญไรยส์ ที่เสนอให้ฉันได้แสดงภาพยนต์เรื่องหนึ่ง จนฉันได้รับความสำเร็จอย่างมากมาย หลังจากนั้นก็มีภาพยนต์เข้ามามากมาย และได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
และฉันจึงได้แต่งงานกับชายชาวอิตาลี ที่มีฐานะดีคนหนึ่ง ชีวิตของฉันจึงดำเนินไปกับการแสดงภาพยนต์ ความรุ่งโรจน์ ชื่อเสียง เงินทอง และถ้อยคำสรรเสริญ เยินยอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในโลกนี้
ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงนี้ มาร์เซลลา ไม่มีความคิดใดนอกจากการทำงานทางด้านศิลปะภาพยนตร์ ต่อมาในวันหนึ่งมีคำสั่งให้ฉันเดินทางไปยัง เมืองมัรซามัตรูห์ ประเทศอียิปต์ กับบรรดานักแสดงทั้งหญิงและชาย เพื่อแสดงภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง
ณ ที่นั้น ฉันได้เห็นกลุ่มชนจำนวนมาก มุ่งหน้ามายังอาคารหลังหนึ่ง พวกเขาถอดรองเท้า ไว้ที่หน้าประตู แล้วเดินเท้าเปล่าเข้าไป ฉันจึงเดินไปทางด้านหน้าของอาคาร และได้เห็นผู้คนทั้งหมดอยู่ภายในห้องโถงของอาคาร โดยมีความนอบน้อม สงบเงียบ เข้าแถวเพื่อปฏิบัติพิธีกรรมที่ถูกกำหนด มีการก้มกราบ และโค้งคำนับ ขณะนั้นฉันได้ถามและรับรู้เรื่องราวต่างๆ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมัสญิด เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นบรรดามุสลิมทำการละหมาด โดยมีอายุที่แตกต่าง ใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างกัน ทำการละหมาดในขณะที่พวกเขามีความเท่าเทียมกัน เท้าเปล่า ทำการละหมาดด้วยความนอบน้อม และสงบเงียบ
มาร์เซลลา ได้อธิบายเรื่องราวต่อไปว่า
ในวันต่อมา ฉันได้มุ่งไปยังมัสญิดนั้นอีก ได้ไปยืนดูบรรดามุสลิมทำการละหมาด ได้พูดจาทักทายกับบางคนหลังจากพวกเขาละหมาดเสร็จ พวกเขาเป็นคนดี มีความยำเกรง พูดจาตรงไปตรงมา ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในหัวใจของพวกเขาตรงกันกับสิ่งที่พวกเขาพูดออกมา
หลังจากการแสดงภาพยนต์ได้เสร็จสิ้นลง ทุกคนจึงได้กลับไปยังอิตาลีรวมทั้งฉันด้วย เมื่อถึงอิตาลี ฉันได้เห็นการประพฤติตน และการเปลี่ยนแปลงของสามี จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้น ความขัดแย้งได้เพิ่มรุนแรงมากขึ้นจนขยายวงไปมาก จนกระทั่งมีผู้เข้ามาไกล่เกลี่ยเพื่อขจัดปัญหาต่างๆ เหตุการณ์ได้ดำเนินไปตรงตามความต้องการของแต่ละคน เราจึงตกลงที่จะแยกทางกัน และเราก็ได้แยกทางกันจริงๆ
หลังจากนั้น มาร์เซลลา ได้เริ่มปฏิเสธในการแสดงภาพยนต์บางเรื่อง และฉันได้นั่งคิดอยู่หลายชั่วโมงเกี่ยวกับการละหมาดของบรรดามุสลิม ความง่ายดายของการละหมาด ความใจดี และมีมารยาทของพวกเขา
มาร์เซลลา เล่าต่อไปว่า
วันหนึ่งฉันได้ไปทำธุระบางอย่าง และระหว่างที่ขับรถ ฉันได้หยุดอยู่ที่ป้ายศูนย์กลางอิสลาม ในกรุงโรม ฉันลงจากรถอย่างรวดเร็วและได้พบกับมุสลิมบางคน แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรกับพวกเขา เว้นแต่ฉันขอความหมายอัลกุรอานเป็นภาษาอิตาลี และหนังสือที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และท่านนะบีมุฮัมมัด
ที่มีเกียรติ ที่เป็นภาษาอิตาลี ฉันได้ถือขุมทรัพย์อันมีค่านี้ไป และมุ่งหน้าไปยังบ้านของฉันทันที หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันต่อมา อัลลอฮ์
หลังจากที่รับอิสลาม ฉันได้พูดคุยกับมุสลิมบางคน โดยกล่าวว่า "แน่นอน ยิ่งฉันได้พบสิ่งที่กินกับสติปัญญาในศาสนาของท่านทั้งหลาย และเหมือนกับที่ท่านทั้งหลายศรัทธาต่ออัลลอฮ์
มาร์เซลลา ได้รับชื่อใหม่ว่า ฟาฏิมะฮ์ มุฮัมมัด อับดุลลอฮ์ หลังจากที่เธอได้รับอิสลามแล้วเธอได้เน้นย้ำว่า "ฉันรู้สึกเสียใจในวันเวลามากมายที่ผ่านมา ในสิ่งที่ฉันได้กระทำไป จากการประพฤติตัวที่เลวร้ายต่างๆในขณะที่กระทำในฐานะนางแบบ ให้พวกนักวาดภาพ นางแบบ เพื่อแสดงเสื้อผ้า หากว่าอิสลามไม่ลบล้างสิ่งที่ผ่านมา ความเศร้าเหล่านั้นจะกลายเป็นพายุใหญ่เล่นงานฉันต่อไป ฉันได้สวามิภักดิ์ และกลับเนื้อกลับตัวไปยังอัลลอฮ์
เธอได้กล่าวว่า
"ฉันจะพยายามนำเอาศาสนาของฉัน มาเชื่อมติดกับการงานของฉัน การงานของฉันมีสิ่งต่างๆมากมายที่อิสลามปฏิเสธ และเมื่อทั้งหมดมันค้านกับอิสลาม ความเหมาะสม และความประเสริฐที่สุดนั้น ก็จะต้องเป็นไปตามอิสลาม"
เนื่องจาก ฟาฏิมะฮ์ ไม่พบในภาพยนต์และศิลปะที่จะมาช่วยในการรักษาศาสนา และการกลับเนื้อกลับตัวของเธอ ในที่สุด เธอจึงได้สร้างสำนักพิมพ์หนังสือ เพื่อให้ใช้ชีวิตที่ดีมีเกียรติ สะอาดบริสุทธิ์ และผุดผ่อง...
โดย . ญีฮาน อัลบัดรีย อัสไซยยิด อะหมัด
จาก : สันติสุขสาร
