การปรับชีวิตตามหลักศาสนา
  จำนวนคนเข้าชม  7490

การปรับชีวิตตามหลักศาสนา


“และโดยแน่นนอน เราได้บังเกิดมนุษย์มา และเรารู้ดียิ่งที่จิตใจของเขากระซิบกระซาบแก่เขา และเรานั้นใกล้ชิดเขายิ่งกว่าเส้นเลือดเขาเสียอีก”  (Al-Quran 50:16)


          ตามหลักศาสนาอิสลามนั้น ห้ามดื่มเหล้า ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามเสพยาเสพติด ห้ามเล่นการพนัน ห้ามประพฤติผิดในกาม ห้ามมั่วสุมนินทา ห้ามโกหก ห้ามสุรุ่ยสุร่าย ห้ามดูหมอดูดวง ห้ามทรงเจ้าเข้าผี ห้ามแขวนหรือห้อยสิ่งใดตามความเชื่อต่างๆ ห้ามเคารพสักการะเทวรูปหรือสิ่งที่นำมาเทียบเคียงกับอัลลอฮ์    มีหลายอย่างที่เป็นข้อห้ามในชีวิตประจำวัน เป็นกฏระเบียบที่ปกป้องคุ้มครองมนุษย์ ให้พ้นจากความเลวร้ายจากเหล่าชัยฏอนมารร้ายทั้งหลาย


“ ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ที่จริงสุราและการพนัน และแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญ และการเสี่ยงติ้ว นั้น เป็นสิ่งโสมมอันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสียเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ ”      (Al-Quran 5:90)


          ยุซรอเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยที่ไม่ทราบว่ากฎระเบียบในชีวิตจะมากมายอย่างนี้หรือแต่ก่อนไม่เคยมีกฎระเบียบให้ตัวเองนะ แต่นี้เป็นสิ่งหนึ่งที่พร้อมที่จะปฏิบัติและยอมรับเพราะความศรัทธาต่อพระองค์ เพราะถ้าเปลี่ยนศาสนาแล้วยังทำตัวเหมือนเดิมคงไม่เกิดประโยชน์อะไร การมีกฎระเบียบเข้ามาในชีวิตทำให้มีอุปสรรคที่ต้องฟันฝ่า ต้องต่อสู้กับมารร้าย  เดิมทีแล้วชีวิตแต่ก่อนนั้นค่อนข้างเสรี มักจะอยู่ข้างนอกพบปะผู้คน อยากทำอะไรก็ทำ จะกินอะไรก็กิน จะเที่ยวที่ไหนก็ได้ ไม่สนใจใคร

          หลังจากเข้ารับศาสนาอิสลามจะไม่ออกไปไหนเลยถ้าไม่จำเป็น ใช้เวลาส่วนมากในการศึกษาอัลกุรอาน ตอนแรกๆเพื่อนๆโทรมาชวนไปเที่ยวก็ไม่ไปเพราะนี่คือข้อห้ามของศาสนา การที่ผู้หญิงออกจากบ้านไปเที่ยว ต้องแต่งตัวให้สวยงามทำให้เกิดฟิตนะฮ์ต่อคนรอบข้าง คือการทำบาป เมื่อผู้ชายมองก็เป็นบาปเพราะเราอาจจะไปทำให้เขาไปทำร้ายสังคมโดยที่เราไม่รู้ตัว แม้ไม่เกิดขึ้นกับตนเองแต่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม และเริ่มกลัวนรกขึ้นมาในใจแล้ว หลังจากนั้นเพื่อนก็ไม่ชวนและหายหน้าไปกันหมดเลย 


“ ………และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้มิใช่อื่นนอกจากสิ่งอำนวยประโยชน์แห่งการหลอกลวงเท่านั้น ”   (Al-Quran 3:185)


          ยุซรอจะอ่านอัลกุรอานมากเพราะรอบแรกยังไม่สามารถทำให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง จึงต้องอ่านซ้ำและหาข้อมูลต่างๆในการปฏิบัติตนให้เป็นมุสลิมที่ดี แม้จะไม่ออกไปไหนไม่ได้ทำให้เราโง่ลงเลย แต่กลับรู้สึกว่าตนเองฉลาดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ในคัมภีร์อัลกุรอานได้สอนทุกอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ การดำเนินชีวิต ทางที่มนุษย์ควรจะเดิน และศัตรูที่แท้จริงของมนุษย์คือใคร เมื่อไม่ออกไปเดินเตร็ดเตร่จึงไม่โดนสื่อโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวง การอยู่คนเดียว รำลึกถึงอัลลอฮ์   ตลอดเวลา ทำให้ได้คิดทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเขามาในแต่ละช่วงชีวิต และพบว่าแต่ละก้าวของเส้นทางชีวิตนั้น หากพระองค์ไม่ได้ช่วยชีวิตไว้คงไม่มียุซรอในวันนี้เป็นแน่แท้


“สิ่งที่ฉันได้ห้ามพวกเจ้าให้ออกห่างนั้นพวกเจ้าจงออกห่างเถิด และสิ่งที่ฉันได้ใช้พวกเจ้านั้น พวกเจ้าจงนำมันมาปฏิบัติตามที่พวกเจ้าสามารถ แท้จริงคนรุ่นก่อนๆ จากพวกเจ้าได้พินาศมามากต่อมากแล้ว คือ การที่พวกเขาถามมาก และการที่พวกเขาขัดแย้งกับบรรดานะบีของพวกเขา”  (บันทึกโดย บุคอรีย์ และ มุสลิม)


“ ความจริงนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้าของเจ้า ดังนั้นเจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด ”   (Al-Quran 2:147)


          ยุซรอละหมาดมากขึ้นจนครบ 5 เวลา ช่วงแรกไม่ค่อยจะครบเท่าไหร่ต้องปรับตัวอยู่หลายอาทิตย์ การละหมาดและรำลึกถึงอัลลอฮ์   ทำให้มีความสงบทางจิตใจ ไม่สับสนวุ่นวาย ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่มีความกระวนกระวาย อะไรจะเกิดต้องเกิด ทุกอย่างฝากไว้กับพระองค์เพียงแต่ขอความช่วยเหลือให้พระองค์ทรงชี้แนะแนวทางที่ดีที่สุดให้ และช่วยให้พ้นจากสิ่งที่ไม่ดีที่พระองค์ทรงกำหนดไว้โดยการพยายามทำความดี  ไม่ฟังเพลงที่ไร้สาระ ไม่ดูรายการโทรทัศน์ที่ไร้สาระ  รายการโทรทัศน์สมัยนี้พิธีกร ดารา นักร้องหญิงแต่งตัวอวดโฉม โชว์สัดส่วนกันมาก โดยไม่สนใจเยาวชน ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ส่วนข่าวสารก็โดนบิดเบือนจากความจริงและผู้ประกาศข่าวทำตัวเรียกร้องความสนใจ  ยุซรอได้อ่านข่าวทางอินเตอร์เน็ตแทนแต่ก็ต้องเลือกสำนักข่าวอีก  ตอนนี้ทุกอย่างกำลังโดนบิดเบือนเพราะอำนาจเงินเป็นใหญ่ พี่น้องมุสลิมโดนใส่ร้ายป้ายสีโดยพวกสำนักข่าวต่างๆ ที่มีนายทุนจากต่างประเทศหนุนหลัง ไม่มีใครออกมาเรียกร้องได้เพราะทุกคนโดนสกัดกั้นไม่มีสื่อไหนให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน เวลาที่มหาอำนาจเหล่านั้นฆ่าคนตาย ผู้บริสุทธิ์ถูกทารุณกรรม ผู้หญิงโดนข่มขืน เด็กๆมากมายที่ต้องโดนระเบิดสังหาร โดยที่พวกเขาหนุนหลังและสนับสนุนอาวุธให้ฆ่ากันเอง ไม่มีสื่อที่ไหนออกข่าวในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แต่ถ้าคนของเขาได้ตายเพียง 2-3 คนหรือโดนจับไปพวกเขาจะประโคมข่าวราวกับว่าเขาถูกย่ำยีจนเสียหายย่อยยับ


“ ก็จงเนรคุณต่อสิ่งที่เราได้ให้แก่พวกเขา แล้วก็จงร่าเริงกันต่อไปเถิด แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ ”   (Al-Quran 30:34)


          ปัญหาที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ได้ส่งผลทำให้คนที่นับถือศาสนาอิสลาม โดนเหมารวมทั้งหมด แม้แต่ยุซรอเองที่เพิ่งเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามยังไม่น่าไว้ใจ บุคคลคนที่เป็นต้นเหตุของปัญหาคือบุคคลที่มีอำนาจเงินเป็นใหญ่เพียงเพราะต้องการ อำนาจ และเงิน

           พระองค์เท่านั้นที่จะลงโทษพวกโง่เขลาเหล่านั้น   แค่คำว่านับถือศาสนาอิสลามนั้น ทำให้เปลี่ยนจากการที่เคยช่วยเหลือ และอุปถัมภ์เพื่อนบางคนกลับมองไม่เห็นความดีเหล่านั้นอีกเลย ความดีที่ทำมาไม่มีคุณค่าใดๆ ทุกคนมองเพียงความศรัทธาในศาสนาอิสลามเป็นสิ่งที่ขวางกั้นไม่ให้เกิดความเข้าใจกัน แล้วทำไมจึงบอกว่าให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา? แต่เมื่อเปลี่ยนศาสนากลับโดนทำร้ายจากสังคมรอบข้าง นี่หรือสิ่งที่บอกว่าเสรี? นี่หรือที่บอกว่ายอมรับทุกศาสนาแต่จิตใจไม่เคยยอมรับและไม่เคยเปิดเพื่อรับฟัง


“ทั้งนี้เพราะว่า บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ปฏิบัติตามความเท็จ แต่ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาได้ปฏิบัติตามสัจธรรม มาจากพระเจ้าของพวกเขา เช่นนี้แหละอัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ทั้งหลายของพวกเขาแก่ปวงมนุษย์”  (Al-Quran 47:3)

 


          ถ้าคุณได้ศึกษาศาสนาอิสลามอย่างที่ยุซรอศึกษาคุณจะได้เห็นสัจธรรมความจริงที่มีอยู่บนโลกนี้และโลกหลังความตาย คุณจะรู้จักการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  คุณจะรู้จักการให้อภัย คุณจะรู้ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วเงินไม่สามารถซื้อชีวิตได้ ที่สำคัญเหนืออื่นใดคุณจะรู้จักการมีอยู่ของพระเจ้า และรับรู้ได้ว่าความรัก ความสุขอันแท้จริงที่เกิดจากพลังความศรัทธานั้นเป็นเช่นไร


“ สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้า และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์ และถ้าหากพวกเจ้าเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเจ้า หรือปิดมันไว้ก็ตาม อัลลอฮ์จะทรงนำสิ่งนั้นมาชำระสอบสวนแก่พวกเจ้า แล้วพระองค์จะทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ และจะลงโทษแก่ผู้ทีพระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ”(Al-Quran 2:284)

Next >>>>Click