การผสมเทียม ​IVF
  จำนวนคนเข้าชม  9598

 

การผสมเทียม ​IVF

 

ดร.มุฮัมมัด บินอับดุลลอฮ์ อัล ฆอยอาร์น

ณ เมืองริยาฏ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

 

คำถาม
 

          เนื่องจากดิฉันต้องการจะมีลูก แต่เมื่อตั้งครรภ์ได้ไม่ถึง 3 อาทิตย์ก็เกิดการแท้ง เป็นอย่างนี้อยู่ 3 ครั้ง จึงให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียด เมื่อแพทย์ตรวจแล้วปรากฏว่า ปัญหาเกิดจากโคโมโซมของไข่ฝ่ายผู้หญิงผิดปกติ จึงทำให้ตัวอ่อน(ไข่ฝ่ายหญิงผสมกับอสุจิฝ่ายชาย) ไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ จึงเกิดการแท้งขึ้น และโอกาสที่จะได้ไข่ที่สมบูรณ์มีน้อยมาก แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ไข่ฝ่ายหญิงจากผู้ที่บริจาคให้ 
 

จึงอยากจะทราบว่า ดิฉันสามารถที่จะใช้ไข่ที่บริจาคจากญาติได้หรือไม่ ? 
 

หรือสามารถนำตัวอ่อนของสามีภรรยาที่แต่งงานกันโดยถูกต้องมาฝังในมดลูกของดิฉันเพื่อตั้งครรภ์เองได้หรือไม่ ? 


 

คำตอบ

 

        การใช้ไข่ของผู้หญิงอื่นและฝังไว้ในมดลูกนั้น ไม่อนุญาต เพราะมันเหมือนการทำซินา ซึ่ง อัลลอฮ์ตะอาลา ตรัสไว้ว่า


قال تعالى: (وهو الذي خلق من الماء بشراً فجعله نسباً وصهراً وكان ربك قديراً )[ الفرقان : 54 ]

 

"และพระองค์คือผู้ทรงบังเกิดมนุษย์จากน้ำ(อสุจิ) และทรงทำให้มีเชื้อสายและเครือญาติ และพระเจ้าของเจ้านั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพ"

 

         แน่นอนอัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่บ่าวของพระองค์ ในด้านเชื้อสายและเครือญาติและผูกกฏเกณฑ์ต่างๆไว้กับทั้งสอง และยกสถานะของทั้งสอง และด้วยกับความโปรดปรานนี้ การรักษาไว้ซึ่งเชื้อสายจึงเป็นหลักการ ซึ่งเจตนารมณ์อันสูงส่งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ซึ่งกฏเกณฑ์ต่างๆของบทบัญญัติอิสลามได้พุ่งเป้าหมายไปยังกฏข้อนี้ และจากความจำเป็นต่อการรักษาเชื้อสายนี้ อัลลอฮ์ตะอาลา จึงได้วางบทบัญญัติให้มีการแต่งงานเป็นที่อนุมัติ และให้การทำซินาเป็นสิ่งที่ต้องห้าม


قال تعالى:( ومن آياته أن خلق لكم من أنفسكم أزواجاً لتسكنوا إليها وجعل بينكم مودة ورحمة إن في ذلك لآيات لقوم يتفكرون) [ الروم : 21 ] .


"และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์ คือ ทรงสร้างคู่ครองให้แก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้า

เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความสุขอยู่กับนาง และ ทรงมีความรักใคร่และความเมตตาระหว่างพวกเจ้า

แท้จริงในการนี้ แน่นอน ย่อมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ"


وقال تعالى: (ولا تقربوا الزنى إنه كان فاحشة وساء سبيلاً ) [ الإسراء : 32 ] .

 

"และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า"

 

          ดังกล่าวนั้น แท้จริงบุตร คือ ผลผลิตของการแต่งงานที่ถูกต้อง เกิดขึ้นระหว่างผู้เป็นพ่อและแม่ ทั้งสองได้ทำการอบรมเลี้ยงดูเขาทั้งในด้านจิตใจและอุปนิสัย ส่วนลูกซินานั้นนับว่าเป็นความอัปยศของผู้เป็นมารดาเมื่อไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเด็ก และซึ่งจะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และค่อยๆทำให้สังคมพังทลาย แม้ว่าบรรดานักฟุกอฮาฮ์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาพวกเขา ได้นำเสนอถึงเด็กกลุ่มนี้ภายใต้หัวข้อ "เด็กกำพร้า" พวกเขาส่งเสริมให้เอาใจใส่ และอบรมเลี้ยงดูเขา เพราะเขาก็คือมนุษย์ที่มีเกียรติคนหนึ่ง ไม่ให้เพิกเฉยกับพวกเขา และไม่อนุญาตให้ดูถูกพวกเขา และจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูสิ่งดังกล่าว คาดหวังในสิ่งที่ดีงามและปกป้องจากความชั่ว

 

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

وقد قال صلى الله عليه وسلم: "الولد للفراش وللعاهر الحجر" متفق عليه.

“ บุตรเป็นของเจ้าของที่นอน และสำหรับคนพระพฤติชั่วนั้น คือ ก้อนหิน”

        เป้าหมายของคำว่า "เจ้าของที่นอน" คือ การที่ภรรยาตั้งครรภ์จากสามีของนางที่มีความเกี่ยวพันธ์กันจากการแต่งงานที่ถูกต้อง และลูกก็เป็นของสามีโดยถูกต้อง และเป้าหมายของคำว่า “คนประพฤติชั่ว” ก็คือ ผู้ทำซินา ในฮะดิษบทนี้เป็นการยืนยันกฎพื้นฐานในด้านเชื้อสาย ปกป้องขอบเขตสัญญาของการแต่งงานที่ถูกต้อง ดังนั้นการยืนยันหรือปฏิเสธจึงขึ้นอยู่กับสิ่งดังกล่าว

         และสิ่งที่สื่อถึงการปกป้องเชื้อสายอีกประการ คือ การวางบทบัญญัติในเรื่องระยะเวลารอคอย(อิดดะห์)ของผู้หญิงที่ถูกหย่าหลังจากที่ได้ร่วมหลับนอนไปแล้ว หรือ แม้กระทั่งหลังจากการที่ได้อยู่ร่วมกับนางสองต่อสองซึ่งเป็นการอยู่ร่วมกันสองต่อสองตามหลักการที่ถูกต้อง(หลังแต่งงาน) เช่นเดียวกับที่อิสลามห้ามการมีบุตรบุญธรรม หมายความว่า การที่คนๆหนึ่งได้มอบเชื้อสายให้กับอีกคนหนึ่งเสมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ทั้งๆที่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ลูกของเขาแท้ๆ แต่เป็นลูกของคนอื่น และดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันแก่มนุษย์และดูแลเอาใจใส่สิทธิต่างๆของคนในครอบครัว ที่บทบัญญัติได้เรียงลำดับ(ความสำคัญ)ทางด้านเครือญาติ(เกรงว่าจะโดนกันสิทธิ)

         น้ำอสุจิของชายยังไม่ถูกสร้างเว้นแต่เมื่อมีการผสมในรังไข่ของเพศหญิงที่ถูกตระเตรียมไว้ในการตอบรับมัน บางทีจากการร่วมสัมพันธ์ บางทีมาจากการนำตัวอสุจิของผู้ชายไปผสมเทียม(โดยปราศจากการร่วมเพศ) ซึ่งเป็นศาสตร์สมัยใหม่ โดยการนำเอาอสุจิของผู้ชายและไข่ของเพศหญิงมาผสมกัน และฉีดเข้าไปภายนอกมดลูกของเพศหญิง(นำมาผสมภายนอกมดลูก) และนำกลับอีกครั้งสู่มดลูกของผู้หญิงคนเดิม หรือ สู่มดลูกของผู้หญิงคนอื่น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีก็คือ การเช่าครรภ์ หรือ การอุ้มบุญ


قال تعالى: ( إنا خلقنا الإنسان من نطفة أمشاج) [ الإنسان : 2 ] .

"แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์จากน้ำเชื้อผสมหยดหนึ่ง"

        บรรดานักวิชาการ ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาพวกท่าน ได้ยอมรับว่า การที่เพศหญิงได้นำเอาน้ำอสุจิของสามีของนางเข้าสู่อวัยวะเพศของนางโดยที่ไม่มีการร่วมเพศสัมพันธ์ ส่งผลทางด้านบทบัญญัติและทางเชื้อสายหลายประการ และจากวิธีการดังกล่าวเราจะสรุปการผสมเทียมที่มีหลายรูปแบบดังนี้ ซึ่งมีทั้งที่ถูกต้องตามบทบัญญัติ และเป็นที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด และมีทั้งอยู่ระหว่างอนุมัติและไม่อนุมัติ

รูปแบบที่อนุมัติ

          ♥ - ส่วนที่ถูกต้องตามบทบัญญัติ คือ การนำเอาน้ำอสุจิของสามีนำมาฉีดเข้ากับไข่ของผู้หญิง(ภรรยาของตน)ในมดลูกของนาง โดยปราศจากการมีเพศสัมพันธุ์ และเช่นเดียวกันคือ การเอาน้ำอสุจิของสามีและไข่ของภรรยานำมาผสมภายนอกมดลูก หลังจากนั้นก็นำกลับไปสู่มดลูกของภรรยา(ตนเอง) รูปแบบที่ได้กล่าวมานี้เป็นที่ยอมรับ เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องทำสิ่งดังกล่าว


รูปแบบที่ไม่อนุมัติ

          ♣ - ส่วนการเอาน้ำอสุจิของชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่สามีของผู้หญิงคนนั้น หรือนำเอาไข่ของผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นภรรยาของเขา หรือเอาน้ำอสุจิของสามีและภรรยาคู่หนึ่งแต่ไปฝากไว้ที่ครรภ์ของผู้หญิงคนอื่น(เพื่อทำการคลอดแทน)ที่ไม่ภรรยาของตนเอง ไม่ต้องสงสัยในสิ่งต้องห้ามจากสิ่งดังกล่าวเลย เพราะแท้จริงมันจะนำไปสู่การผสมปนเปของเชื้อสาย คือความหมายของคำว่า "ซินา" และวิธีการดังกล่าวนี้ ได้ถูกห้าม ไม่อนุมัติจากการเพาะปลูกในลักษณะดังกล่าวนี้ ดังอายะกุรอานที่ว่า


(نساؤكم حرث لكم)   [البقرة:223]

"บรรดาผู้หญิงของพวกเจ้านั้น คือแหล่งเพาะปลูกของพวกเจ้า"

        ดังนั้นเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ด้วยกับวิธีการใดวิธีการหนึ่งจากรูปแบบที่ต้องห้าม แท้จริงแล้วบุตรนั้นก็ไม่นับว่าเป็นลูกตามบทบัญญัติและไม่อนุญาตให้นำมาเป็นบุตรบุญธรรม


รูปแบบที่ยังเป็นที่ถกเถียงกัน

          ♦ - ส่วนที่ว่าชายคนหนึ่งมีภรรยาสองคน คนหนึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นจึงเอาไข่ของภรรยาอีกคนกับน้ำอสุจิของสามี และนำไปใส่ไว้ในมดลูกของภรรยาอีกคน แท้จริงแล้วสภาพนี้ยังอยู่ในสถานะ ที่ยังต้องพิจารณากันอยู่

 

วัลลอฮุอะอลัม

แปลและเรียบเรียงโดย.. อบูชีส