ความสามัคคีในเดือนรอบิอุ้ลเอาวัล
  จำนวนคนเข้าชม  5525

 

ความสามัคคีในเดือนรอบิอุ้ลเอาวัล


 

โดย… อ.อัชร็อฟ ทับทิม

 

         ขอความสันติสุข  ความผาสุกที่ยั่งยืน จงมีแด่พี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาทุกท่าน ท่านพี่น้องที่เคารพ ขณะนี้พวกเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในเดือน รอบีอุ้ลเอาวัล เดือนแห่งการประสูตินายของท่านนบี  ผู้ที่ถูกส่งมาเพื่อเรียกร้องไปสู่ การศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์  เพียงพระองค์เดียว 
 

          ท่านพี่น้องที่เคารพ ตามการยืนยันของท่าน มะฮ์มูด บาชา นักดาราศาสตร์ ชาวอียิปต์ ได้กล่าวว่า  “ท่าน นบีมูฮัมหมัด   เกิดในช่วงเช้าของวันจันทร์ ที่ ๙ เดือน รอบิอุลเอาวัล ตรงกับวันที่ ๒๐  เมษายน คริสต์ศักราชที่  ๕๗๑ “ ส่วนนักวิชาการท่านอื่นได้กล่าวว่า “ท่าน นบี เกิดวันที่ ๑๒ รอบิอุลเอาวัล”   จะอย่างไรก็ตาม ก็ถือว่า เดือนรอบีอุลเอาวัล เป็นเดือนแห่งการประสูติ ของท่านนบีมูฮัมหมัด เป็นเดือนที่พวกเราสมควรที่จะต้องให้ความสำคัญต่อเดือนแห่งวันเกิด ดังท่านได้ให้ความสำคัญ ต่อวันเกิดของตัวท่านเองด้วยการถือศีลอด 

 

มุสลิมได้รายงานไว้ใน หนังสือของท่าน จากท่าน อบี-กอตาดะห์  กล่าวว่า 
 

ท่านรอซูล ถูกถามถึงสาเหตุการถือศีลอดในวันจันทร์ “ 
 

ท่านรอซูล  กล่าวว่า “ วันดังกล่าวคือ วันที่ฉันเกิด คือวันที่ฉันได้รับการแต่งตั้ง และคือวันที่ วะฮีย์ ได้ประทานลงมายังฉัน”  

 

         ท่านพี่น้องที่เคารพ ในเดือนรอบีอุลเอาวัล มีอีกเหตุการณ์หนึ่ง นับเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ เหตุการณ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ เหตุการณ์ที่เปลี่ยนอิสลามจากที่เคยถูกกดขี่ ข่มเหง จำกัดกรอบแห่งการเผยแพร่ในเมือง มักกะฮ์ สู่อิสรภาพ เสรีภาพในเมือง มะดีนะห์ เหตุการณ์ดังกล่าวคือ การฮิจเราะห์ของท่านนบี  

 

          ซึ่งการฮิจเราะห์ของท่านนบี  สำเร็จลุล่วงได้ โดยการช่วยเหลือจากหลายๆฝ่าย ดังรายละเอียดต่อไปนี้

         หลังจากที่บรรดามุสลิมส่วนใหญ่ได้อพยพเดินทางไปยังเมืองมดีนะห์ ตามการอนุมัติจากอัลลอฮ์  ท่านนบี  ก็ยังคงอยู่ที่เมืองมักกะฮ์ เพื่อรอการอนุมัติจากอัลลอฮ์  ในการที่จะอพยพตามไปยังเมืองมดีนะห์ และผู้ที่ยังอยู่ โดยรอการอพยพพร้อมกับท่านนบี  ก็คือท่าน อบูบักร อัซ-ดีก  ทั้งสองยังคงเก็บตัวอยู่ในเมืองมักกะฮ์ ครั้นเมื่อการอนุมัติได้ มายังท่านนบี  ท่านนบี  จึงรีบมุ่งไปแจ้งข่าวให้ท่านอบูบักร์ ได้รับทราบ เพื่อจะได้เตรียมตัวเดินทาง โดยท่านนบี  ได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลต่างๆ ดังต่อไปนี้


 

 

         ๑. ท่านอบูบักร์  รับหน้าที่เป็นผู้จัดหาพาหนะ ท่านได้หาอูฐมาสองตัว สำหรับเขา และท่านนบี 

 

 

          ๒. ท่าน อับดุลลอฮ์ บุตรของอุรอยกิต เป็นคนนำทางที่ท่านอบูบักร์ ได้ว่าจ้างเพื่อนำทางไปสู่เมืองมะดีนะห์ เพราะการเดินทางในครั้งนี้จะไม่ใช้เส้นทางปกติ เส้นทางที่อาหรับใช้เดินทางกันอยู่ประจำ จึงจำเป็นจะต้องใช้คนนำทางที่มีความชำนาญ และสามารถนำทางท่านทั้งสองให้ไปถึงเป้าหมายโดยเร็ว ซึ่งท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของ ท่านอุรอยกิต ในขณะนั้นยังไม่ได้เข้ารับอิสลาม โดยท่านอบูบักร์ ได้มอบอูฐสองตัวให้กับท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของ ท่านอุรอยกิต โดยนัดหมายกันว่า หลังจากนี้ สามวันให้นำพาหนะทั้งสองตัว มาพบกันที่หน้าถ้ำ ซูส

 

 

          ๓. ท่านหญิง อัซมาอ์ บุตรีของ ท่าน อบูบักร์  ทำหน้าที่จัดเตรียมเสบียง ห่อใส่ผ้า โดยนางได้สละเชือกผูกเอวของนางใช้ผูกห่อผ้า ห่อเสบียง

 

 

          ๔. ท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของท่าน อบูบักร์  ต่อมาท่านนบี  และท่านอบูบักร์ ได้เริ่มออกเดินทาง โดยมีพวกกุเรชย์มักกะฮ์ไล่ตามมาข้างหลัง ท่านทั้งสองต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำซูส ท่านทั้งสองหลบอยู่ในถ้ำเป็นเวลาสามวัน จนกระทั้งพวกกุเรชย์ เริ่มหมดหวังในการที่จะติดตาม ท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของ ท่านอบูบักร์ ทำหน้าที่เป็นหน่วยส่งข่าวคราวความเคลื่อนไหว แผนการต่างๆของชาวกุเรชย์ ให้ท่านนบี  และพ่อของเขาได้รับรู้ โดยท่านอับดุลลอฮ์จะอยู่กับชาวกุเรชในช่วงค่ำ คือรับฟัง แผนการต่างๆที่มีต่อท่านบี  แล้วเดินทางไปบอกท่านนบี  ก่อนรุ่งเช้า หลังจากนั้นก็กลับมายังพวกชาวกุเรชย์ในเวลารุ่งเช้า เพื่อไม่ให้ชาวกุเรชย์สงสัย

 

 

          ๕. ท่านอามิร บุตรของท่าน ฟุฮัยเราะฮ์  ท่านเป็นคนเลี้ยงแกะอยู่แถวนั้น ทุกครั้ง เมื่อท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของท่าน อบูบักร์ มาแจ้งข่าวคราวของชาวกุเรช ต่อท่านนบี  ท่านอับดุลลอฮ์ก็จะหันหลังกลับไปยังชาวกุเรช อีกครั้ง โดยทิ้งรอยเท้าที่เยียบย่ำบนพื้นดินไว้ ท่านอามิร ก็ทำหน้าที่ลบรอยเท้าเหล่านั้น ด้วยการที่ท่านไล่ต้อนฝูงแกะตามหลังท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของท่านอบูบักร์


        ครั้นเมื่อถึงเวลานัดหมายได้มาถึง ท่านอับดุลอฮ์ บุตรของท่านอุรอยกิต ผู้นำทาง ก็ได้นำพาหนะ สองตัวมารออยู่หน้าถ้ำ แล้วทั้งสามก็เริ่มออกเดินทาง มุ่งไปยังเมืองมะดีนะห์ ส่วนทางด้านเมืองมะดีนะฮ์ ชาวมดีนะฮ์กำลังใจจดใจจ่อเฝ้ารอการมาถึงของท่านนบี  จนกระทั่งท่านนบี  ได้มาถึงตำบล กุบาอ์ เมืองมะดีนะฮ์ ในวันที่ ๒ รอบีอุลเอาวัล ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๐ กันยายน คริสต์ศักราชที่ ๖๒๒ (ตามการคำนวณของท่าน มะฮ์มูด บาชา นักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์)  

 

         ท่านพี่น้องที่เคารพ เราจะสังเกตเห็นได้ว่า การอพยพของท่านนบี  ในครั้งนี้สำเร็จได้ด้วย ความสามัคคี ร่วมมือร่วมมือใจกันจากหลายๆฝ่าย ไม่ว่าเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ มุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิม พร้อมกับกำหนดการของอัลลอฮ์  ทำให้อิสลามยืนหยัดมา จนกระทั่ง ถึงทุกวันนี้ 

         ท่านพี่น้องที่เคารพ ในทุกวันนี้ เราทำอะไรกันบ้าง ? ที่จะทำให้อิสลามของเราเป็นอิสลามที่สมบูรณ์ และคงดำรงอยู่ สู่ลูกหลานของเราในวันข้างหน้า โปรดไตร่ตรอง !

 

คุตบะห์วันศุกร์  ณ มัสยิดท่าอิฐ