การละหมาด คือ การชำระบาป
  จำนวนคนเข้าชม  31669

 

การละหมาด คือ การชำระบาป

 

โดย…อาจารย์ อัชร็อฟ ทับทิม

 

          ขอความสันติสุข ความผาสุกทั้งโลกนี้และโลกหน้า จงมีแด่พี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาทุกท่าน ท่านพี่น้องที่เคารพ คุตบะห์วันศุกร์ ในวันนี้ จะขอพูดเรื่อง การละหมาด คือเกราะป้องกันความชั่วและอบายมุข ทั้งมวล  ก่อนอื่นขอพวกเราจงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และละทิ้งห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามแล้วเราจะได้รับความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

 

          การละหมาดเป็นรุก่น (หลักการ) ที่สองของรุก่นอิสลาม และเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งรองลงมาจากการปฏิญาณตน เพราะการละหมาดคือเสาหลักของศาสนา ที่มุสลิมทุกคนจะต้องช่วยกันรักษาและคงไว้ตราบใดที่ชีวิตยังมีอยู่ อัลลอฮ์  ได้กำชับบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายให้ช่วยกันรักษาและดำรงการละหมาดห้าเวลาไว้ ดังดำรัสของพระองค์ความว่า

 

“พวกเจ้าจงรักษาการละหมาดทั้งหลายไว้ และละหมาดที่อยู่กึ่งกลาง (คือ ละหมาดอัศริ) และจงยืนละหมาดเพื่ออัลลอฮ์โดยนอบน้อม”

 
سورة البقرة:238

 

          สิ่งสุดท้ายที่ท่านรอซูล ได้ฝากไว้กับเหล่าเศาะหาบะฮฺของท่านก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไปก็คือการละหมาดห้าเวลา การละหมาดเป็นศาสนกิจอันหนึ่งที่จะช่วยสานสายสัมพันธ์อันดีงามและมั่นคง ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับบ่าวของพระองค์ นับตั้งแต่เราเริ่มกล่าวตักบีรฺ(อัลลอฮุ อักบัรฺ) ก็แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ขณะนี้บ่าวกำลังเข้าเฝ้าอัลลอฮ์  พระองค์ผู้ทรงสร้าง เพราะว่าตั้งแต่ตักบีรจนถึงการให้สลาม เราจะเห็นได้ว่ากิริยามารยาท และทุกอิริยบทที่ถูกแสดงออกมาในช่วงประกอบพิธีละหมาดนั้น คืออิริยบทของบ่าวผู้อ่อนแอที่กำลังเข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ คือ พระองค์อัลลอฮ์  

          ส่วนหนึ่งของประโยชน์สำหรับผู้ที่รักษาไว้ซึ่งการละหมาด คือ การละหมาดจะช่วยชำระบาป และจะช่วยชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ หรือบาปอันเป็นสิ่งโสโครกที่ติดอยู่ให้หมดสิ้นไป ดังหะดีษบทหนึ่งระบุว่า

ท่าน อบีฮุรอยเราะฮ์ ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์ กล่าวว่า 

         “พวกท่านลองตอบสิว่า ถ้าหากว่าหน้าประตูบ้านของพวกท่านมีแม่น้ำไหลผ่าน เพื่อที่พวกท่านจะได้อาบน้ำชำระร่างกายห้าครั้งในทุกๆวัน แล้วท่านยังจะมีสิ่งสกปรกหรือกลิ่นตัวติดเหลือค้างอยู่อีกไหม?” 

บรรดาผู้ที่ฟังท่านอยู่ตอบว่า จะไม่มีสิ่งสกปรกลงเหลือเลย 

       ท่านก็กล่าวอีกต่อไปว่า “ดังนั้นการละหมาดห้าเวลาก็เช่นกัน อัลลอฮ์ จะทรงชำระบาปและความผิดต่างๆ ของพวกท่านด้วยการละหมาด” 

(รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ และมุสลิม) 

และท่านรอซูล ได้กล่าวไว้อีกว่า

“การละหมาดห้าเวลาและการละหมาดญุมอะฮฺ (ละหมาดวันศุกร์) หนึ่งไปยังอีกญุมอะฮฺหนึ่ง

มีผลตอบแทนคือ อัลลอฮ์ จะทรงไถ่โทษ (ชำระบาป) ในทุก ๆ บาปที่ไม่ไช่บาปใหญ่” 

(รายงานโดย มุสลิมและ ตีรมีซี)

        ท่านพี่น้องครับ การละหมาดมิใช่เพียงแต่สามารถชำระบาปและสิ่งโสโครกเท่านั้น แต่การละหมาดยังสามารถสร้างเกราะป้องกันบาปอีกด้วย ดังคำดำรัสของอัลลอฮ์  ที่ระบุว่า

“แท้จริงการละหมาดสามารถยับยั้ง มิให้กระทำความโสมมและความชั่ว”

(ซูเราะฮฺ อัล-อันกะบูต : 45)

         นักอธิบายกุรอาน ได้อธิบายพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์  ที่ตรัสความว่า "แท้จริง การละหมาดนั้น จะยับยั้งสิ่งลามกทั้งหลาย และสิ่งชั่วช้า ที่ศาสนาไม่ยอมรับ" ได้อธิบายว่า 

          แท้จริงในการละหมาดมีสามประการด้วยกัน ถ้าปราศจากประการใดประการหนึ่งในทั้งสามนี้ ก็ไม่ถือว่าการละหมาดนั้นเป็นการละหมาดเพื่ออัลลอฮ์  สามประการนั่นก็คือ ความสุจริตใจ ความกลัว และการรำลึกนึกถึงอัลลอฮ์  ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นตัวบ่งชี้ที่กำชับให้กระทำความดี และยับยั้งจากความชั่ว นั่นเป็นเพราะว่า การละหมาดคือ แสงสว่างที่จะช่วยส่องจิตใจของผู้ศรัทธาบนโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮฺให้สว่างไสว 

การละหมาดนั้นสรรสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ละหมาดอันใหญ่หลวง ดังประการต่อไปนี้

1. ป้องกันการกระทำความชั่ว 

        การละหมาดจะช่วยสร้างจิตสำนึกความรู้สึกถึงการเฝ้าดูของอัลลอฮ์  อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความกลัวในใจของพวกเราตลอดเวลา จะเป็นไปได้อย่างไร ? ที่เราจะทำบาป ทำความผิด ทั้งที่เรารู้ว่า ผู้คุมกฎเฝ้าดูเราตลอด ดั่งอัลลอฮ์  ตรัสความว่า

“เจ้าจงทราบเถิด แท้จริงพระองค์อัลลอฮ์ ทรงรู้ทุกสิ่ง ในตัวของพวกเจ้า พวกเจ้าจงเกรงกลัวพระองค์ในทุก ๆการกระทำเถิด”

 البقرة: 235

2. ทำให้จิตใจของเราดีขึ้น 

       การละหมาดตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจ ในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้สร้าง ซึ่งจะทำให้จิตใจของเราสงบและมีความพึงพอใจ ท่ามกลางการดำเนินชีวิตที่สับสนวุ่นวาย อัลลอฮ์  ตรัสความว่า

 “พึงทราบเถิด ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺเท่านั้น ทำให้จิตใจสงบ”

 الرعد : 28

3. ทำให้คุณเป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน 

          ความเย่อหยิ่งและยโสจะถูกกำจัดออกโดยการรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์  และการพึ่งพาพระองค์ ซึ่งในละหมาด มุสลิมต้องวางศีรษะ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สูงที่สุดของร่างกายและแหล่งที่มาของสติปัญญาลงบนพื้น พร้อมกับกล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์แด่พระผู้อภิบาลของฉันผู้ทรงสูงส่งยิ่ง และการสรรเสริญเป็นสิทธิ์แด่พระองค์” พระองค์ ตรัสความว่า

“แน่นอน บรรดาผู้ศรัทธาที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนในเวลาละหมาดของพวกเขา”

 المومنون : 1-2

4. ชำระล้างบาป/ขจัดบาป 

       ทุกคนล้วนกระทำบาป อย่างไรก็ตาม อัลลอฮฺ  ทรงเตรียมวิธีการขจัดบาปเหล่านั้นโดยผ่านการละหมาด อัลลอฮฺ  ตรัสความว่า

“และเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด…แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลาย”

 الهود :411

5. รวมมุสลิมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 

          การละหมาดญะมาอะฮฺปลูกฝังความเป็นภารดรภาพ ความเท่าเทียม และความอ่อนน้อมถ่อมตนระหว่างมุสลิมด้วยกัน โดยผู้ทำอิบาดะฮฺยืนเป็นแถวเดียวกันดั่งเรือนร่างเดียวกัน ไหล่เคียงไหล่ ปราศจากการแบ่งแยกทางเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ สีผิว ความมั่งมี วงศ์ตระกูล หรือสถานภาพ การแสดงออกซึ่งความเป็นเอกภาพนี้ช่วยทำลายกำแพงทั้งหมดที่กั้นระหว่างกัน พระองค์อัลลอฮ์ จะทรงรับการงานที่ดีจากบ่าวของพระองค์ จะทรงเพิ่มพูนรางวัล และผลบุญให้แก่เขา และในหัวอกที่บ่าวนั้นผูกพันอยู่กับการปฏิบัติ จากสิ่งที่ถูกต้องของการละหมาด 

         ดังนั้นหากบ่าวดำรงการละหมาดอย่างสมบูรณ์ โดยไม่มีข้อบกพร่อง ยอมจำนนอยู่กับพระองค์อัลลอฮ์  จิตใจยึดโยงอยู่กับพระองค์ แน่นอนการละหมาดของเขาย่อมได้รับการตอบรับจากพระองค์ เพราะนั่นคือวิญญาณของการละหมาดที่ผูกพันอยู่กับพระองค์ตลอดเวลา


บทสรุปและบทเรียนที่ได้รับจากคุตบะฮ์ คือ

- การละหมาด มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นหลักการข้อที่สองของรุก่นอิสลาม

- การละหมาด คือการแสดงความเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺที่มุสลิมทุกคนต้องดำรงไว้อย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ

- การละหมาด เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ของผู้เป็นบ่าวกับพระผู้เป็นเจ้าของเขา

- การละหมาดห้าเวลา สามารถเป็นได้ทั้งการชำระล้างบาปและสิ่งสกปรกในจิตใจของมนุษย์ และยังเป็นเกราะกำบังจากการล่อลวงของชัยฏอนที่คอยชักจูงมนุษย์ในทางที่ผิด

- การละหมาด เป็นแสงสว่างให้กับมนุษย์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า


คุตบะห์วันศุกร์  ณ มัสยิดท่าอิฐ