จุดยืนการให้สลาม
  จำนวนคนเข้าชม  2606

 

จุดยืนการให้สลาม

 

แปลและเรียบเรียงโดย อาบีดีณ โยธาสมุทร 

 

 

          ส่วนหนึ่งจากการบรรยายในหัวข้อ “การตัดสัมพันธ์ ในแสงทองแห่งคัมภีร์และอั้ซซุนนะฮฺ” โดย เชคอับดุลลอฮฺ อิบนุ อับดุ้รรอฮีม อั้ลบุคอรี ฮะฟิซ่อฮุ้ลลอฮฺ

 

         ซึ่งท่าน อั้ลอั้ลลามะฮฺ มุฮัมหมัด อิบนุ อับดิลละตี้ฟ อาลุ้ชเชค ได้ให้การยืนยันสนับสนุนประเด็นนี้ไว้เช่นกัน โดยท่านได้กล่าวไว้อย่างละเอียดและครอบคลุม ดังที่ปรากฏใน หนังสือ อั้ดดุเราะรุ้ซซะนียะฮฺ ดังนี้

 

         มีคนสองคนขัดแย้งกันในเรื่องการให้สลามพวกรอฟิเดาะฮฺ (ชีอะฮฺ) และพวกมุชริก ตลอดจนพวกอื่นๆ ว่าจะอนุมัติให้ทำได้หรือไม่? 

 

          คนหนึ่งบอกว่า ได้ เพราะโต๊ะครูของฉันว่าไว้ และอีกคนบอกว่า ไม่ได้ โดยอ้างอิงจากอายาตที่กล่าวถึงเรื่องการคบกันเป็นมิตรสนิท(อั้ลมุวาล้าฮฺ) 

 

เชค (ขออัลลอฮฺทรงเมตตาท่านด้วย) จึงตอบว่า ผมจะสรุปคำพูดของท่านให้พวกคุณได้ทราบ
 

         ท่านกล่าวว่า ขออัลลอฮฺทรงประทานความสำเร็จให้แก่ผมและแก่คุณสู่สิ่งที่พระองค์ทรงรักและทรงพอพระทัยด้วยเถิด โปรดรู้ไว้นะครับว่า อิสลามและศาสนาของบ่าวผู้หนึ่งจะไม่อาจเที่ยงตรงได้ นอกจากจะด้วยการตั้งตนเป็นศัตรูกับศัตรูของอัลลอฮฺและร่อซู้ลของพระองค์ และด้วยกับการผูกมิตรกับสมัครพรรคพวกของอัลลอฮฺและร่อซู้ลของพระอง์เท่านั้น จนกระทั่งถึงช่วงที่ท่านพูดว่า ดังนั้นหน้าที่ของผู้ที่รักที่จะให้ชีวิตของเขารอดและให้ศาสนาของเขาปลอดภัย จึงจะต้องตั้งตนเป็นศัตรูกับบุคคลที่อัลลอฮฺและร่อซู้ลของพระองค์ทรงสั่งให้เขาเป็นศัตรูกับบุคคลผู้นั้น แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดที่สุดก็ตาม 

          ทั้งนี้ เนื่องจากการศรัทธาย่อมไม่อาจเที่ยงตรงได้ นอกจากจะด้วยกับเรื่องราวเหล่านี้ และด้วยกับการดำรงเรื่องราวประเด็นนี้ไว้เท่านั้น เพราะเรื่องราวในประเด็นนี้ถือได้ว่าเป็นประเด็นที่มีความสำคัญที่สุดและมีความจำเป็นที่สุด

          ถัดจากนั้นท่านก็ได้พูดไว้ว่า เมื่อท่านได้รับทราบสิ่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ท่านก็ต้องรับรู้ด้วยว่า การให้สลามนั้น เป็นการทักทายของอิสลามที่ใช้กับมุสลิมด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาผู้นั้นไปให้สลามพวกรอฟิเดาะฮฺ พวกที่อุตริ และพวกที่ทำการฝ่าฝืนอย่างเปิดเผย ไปพบปะพวกเขาด้วยการให้เกียรติและด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและใช้คำพูดที่นุ่มนวลกับคนเหล่านั้น พฤติกรรมดังกล่าวคือ ความรักและคือความสนิทสนมที่เขามีให้แก่กลุ่มคนดังกล่าว ซึ่งเมื่อใดที่เขารักบุคคลเหล่านั้นและเปิดใจรับพวกเขา พร้อมทั้งยังมีพฤติกรรมที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นต่อพวกเขาเหล่านั้นแล้วละก็ เขาผู้นั้นก็ได้รวบรวมความชั่วช้าทั้งหมดเอาไว้แล้วนั่นเอง และความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์และความรู้สึกโกรธกริ้วก็จะหมดไปจากหัวใจของเขาในที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากการกระจายการให้สลามนั้น เป็นสาเหตุในการดึงดูดความรู้สึกรักใคร่

          ถัดจากนั้นท่านก็ได้กล่าวถึงคำพูดของนักวิชาการมากมาย แล้วจึงได้กล่าวว่า ในส่วนของผู้โต้แย้ง คุณต้องมีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และต้องมีความเป็นมิตรสนิทสนมกับพลพรรคของพระองค์ และตั้งตนเป็นศัตรูกับเหล่าศัตรูของพระองค์ คุณต้องปฏิบัติตามบรรดาบรรพชนผู้ดีเด่น (ซะลัฟซอและฮฺ) และดำเนินตามแนวทางของพวกท่าน และอย่าได้ไปเปิดใจชื่นชอบกับคนที่พยายามเข้ามาแสดงบทบาทต่างๆ เพราะหน้าที่ของคนที่สังกัดตนเข้าร่วมในการแสวงหาความรู้ และผู้ที่ประดับตนด้วยอาภรณ์แห่งวิชาการนั้น ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่าหน้าที่ของบุคคลอื่นๆ 

        ดังนั้น คุณจงมีความชัดเจนและมีความมั่นคง ด้วยการรู้จักรากฐานของหลักเกณฑ์ต่างๆ และจงมีไว้ซึ่งสิ่งที่เป็นแก่นหลักในการทำหน้าที่เชิญชวน(ดะอฺวะฮฺ)ของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม และจงศึกษาค้นคว้าถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับรากฐานนี้ ตลอดจนสิ่งที่คัดค้านหรือสร้างความบกพร่องให้เกิดแก่ความสมบูรณ์ที่พึงต้องมีของรากฐานนี้ด้วย



 

ที่มาจาก http://ar.miraath.net/content-54 ตั่งแต่นาทีที่ 34:48 ถึง 37:09 
และจาก http://www.sahab.net/forums/index.php?showtopic=105726