คำตักเตือนจาก ชัยค์ บินบาส ต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว
  จำนวนคนเข้าชม  4878

 

คำตักเตือนจาก ชัยค์ บินบาส ต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว

 

แปลโดย  อบูชีส

 

 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างมากมายในหลายประเทศ เช่น ตุรกี เม็กซิโก ใต้หวัน ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ มันกำลังบ่งบอกถึงอะไรครับ ?

 

            แท้จริงอัลลอฮ์  ผู้ทรงปรีชาญาณ และผู้ทรงรอบรู้ถึงทุกสิ่ง ในสิ่งที่พระองค์ทรงตัดสินและกำหนดมัน เฉกเช่นพระองค์ทรงปรีชาญาณและรอบรู้ในสิ่งที่พระองค์ทรงวางบทบัญญัติและสั่งใช้ด้วยกับมัน และพระองค์ยังทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์จากสัญญาณต่างๆ และทรงกำหนดมัน เพื่อเป็นการขู่สำทับแก่บ่าวของพระองค์ และเป็นการเตือนสติแก่พวกเขาด้วยกับสิ่งที่จำเป็นแก่พวกเขาจากสิทธิที่มีต่อพระองค์  เตือนพวกเขาจากการตั้งภาคีต่อพระองค์ การฝ่าฝืนคำสั่ง และทำบาปที่พระองค์ห้ามปราม ดังที่อัลลอฮ์  ตรัสไว้ความว่า
 

“และเรามิได้ส่งสัญญาณต่างๆ เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเป็นการเตือนสำทับเท่านั้น”
 

 الإسراء : 59

และตรัสอีกความว่า :
 

“เราจะให้พวกเขาได้เห็นสัญญาณทั้งหลายของเราในขอบเขตอันไกลโพ้นและ ในตัวของพวกเขาเอง จนกระทั่งจะเป็นประจักษ์แก่พวกเขา

ว่า อัลกุรอานนั้นเป็นความจริง ยังไม่พอเพียงอีกหรือ ที่พระเจ้าของเจ้านั้นทรงเป็นพยานต่อทุกสิ่ง”

 
فصلت : 53
 

และตรัสอีกความว่า :

 

“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) พระองค์ คือ ผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกท่าน

จากเบื้องบน ของพวกท่าน หรือจากใต้เท้า ของพวกท่านหรือ

ให้พวกท่านปนเปกันโดยมีหลายพวก และให้บางส่วนของพวกท่านลิ้มรส ซึ่งการรุกรานของอีกบางส่วน”

 
الأنعام :65

 

       บันทึกในบุคอรีย์ ในซ่อเฮียะห์ของท่าน จากญาบิร บิน อับดิลละห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ่ จากท่านนบี  ครั้นเมื่อดำรัสของอัลลอฮ์  ถูกประทานลงมา
 

“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) พระองค์คือผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกท่าน จากเบื้องบน ของพวกท่าน” 
 

ท่านกล่าวว่า “ฉันขอความคุ้มครองด้วยกับพระพักต์ของพระองค์”
 

“หรือจากใต้เท้า ของพวกท่าน” 
 

ท่านก็กล่าวว่า “ฉันขอความคุ้มครองด้วยกับพระพักต์ของพระองค์”  

(ซ่อเฮียะห์บุคอรีย์  5/193)

รายงานโดยอบุชชัยค์ อัลอัศบะฮานีย์ จากมุญาฮิด ในตัฟซีรอายะห์นี้ 

“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) พระองค์คือผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกท่าน จากเบื้องบน ของพวกท่าน” 

ท่านอธิบายว่า : เสียงกัมปนาท ก้อนหิน และลมพายุ

“หรือจากใต้เท้า ของพวกท่าน” 

ท่านอธิบายว่า :  แผ่นดินไหว และธรณีสูบ

        ไม่แปลกเลย แท้จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวในปัจจุบันนี้ ในหลายๆพื้นที่นั้น มันคือ สิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์  ทรงขู่สำทับแก่ปวงบ่าวของพระองค์ และทุกสิ่งที่ปรกกฎอยู่ในแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติอื่นๆ จากสิ่งที่สร้างความอันตรายแก่ปวงบ่าว  สิ่งที่เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความอันตรายทั้งหลาย ทั้งหมดนั้นเป็นสาเหตุอันเนื่องมากจาก “การตั้งภาคีและการฝ่าฝืน” ดังที่อัลลอฮ์  ตรัสไว้ความว่า :

“และเคราะห์กรรมอันใดที่ประสบแก่พวกเจ้า ก็เนื่องด้วยน้ำมือของพวกเจ้าได้ขวนขวายได้

และพระองค์ทรงอภัย (ความผิดให้) มากต่อมากแล้ว”

 الشورى : 30

และพระองค์ตรัสอีกความว่า :

“ความดีใด ๆ ที่ประสบแก่เจ้านั้นมาจากอัลลอฮฺ และความชั่วใด ๆ ที่ประสบแก่เจ้านั้นมาจากตัวของเจ้าเอง”

 النساء : 79

และพระองค์อัลลอฮ์  ตรัสถึงประชาชาติในอดีตไว้ความว่า :

“และแต่ละคนเราได้ลงโทษด้วยความผิดของเขา เช่น

บางคนในหมู่พวกเขาเราได้ส่งลมพายุร้ายทำลายเขา

และบางคนในหมู่พวกเขา เราได้ลงโทษเขาด้วยเสียงกัมปนาท

และบางคนในหมู่พวกเขา เราได้ให้แผ่นดินสูบเขา

และบางคนในหมู่พวกเขา เราได้ให้เขาจมน้ำตาย

และอัลลอฮ์ มิได้ทรงอธรรมแก่พวกเขา แต่พวกเขาต่างหากที่อธรรมต่อพวกเขาเอง”

 العنكبوت : 40    

            ดังนั้นจำเป็นต่อบ่าวผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหมู่มวลมุสลิมและบุคคลอื่นๆ ที่จะต้องกลับเนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮ์ และยืนหยัดในศาสนาของพระองค์ และเตือนจากทุกสิ่งที่ถูกห้ามปรามจากการตั้งภาคีและการฝ่าฝืนทั้งหลาย จนกระทั่งพวกเขาจะได้รับความปลอดภัยและการรอดพ้นในดุนยาแห่งนี้และโลกอาคิเราะห์จากทุกความชั่วร้าย และจนกระทั่งพระองค์อัลลอฮ์  จะปกป้องพวกเขาให้พ้นทุกบททดสอบ และได้รับทุกความดีงาม ดังที่อัลลอฮ์  ตรัสความว่า :

“และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากันและมีความยำเกรงแล้วไซร้

แน่นอนเราก็เปิดให้แก่พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาความเพิ่มพูนจากฟากฟ้า และแผ่นดิน

แต่ทว่าพวกเขาปฏิเสธ ดังนั้นเราจึงได้ลงโทษพวกเขา เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้”


 الأعراف : 96

และพระองค์ตรัสถึงชาวคัมภีร์ไว้ว่า :

“และหากว่าเขาเหล่านั้น ได้ตำรงไว้ซึ่งอัต-เตารอต และอัล-อินญีล และสิ่งที่ถูกปผระทานลงมา แก่พวกเขาจากพระเจ้าของพวกเขาแล้ว

แน่นอนพวกเขาก็ได้บริโภคไปแล้วที่มาจากเบื้องบน ของพวกเขา และที่มาจาภายใต้เท้า “

 المائدة : 66

และพระองค์ทรงตรัสอีกว่า 

“แล้วชาวเมืองนั้นปลอดภัยกระนั้นหรือ ? ในการที่การลงโทษของเราจะมายังพวกเขาในเวลากลางคืน ขณะที่พวกเขานอนหลับอยู่  

และชาวเมืองนั้นปลอดภัยกระนั้นหรือ ? ในการที่การลงโทษของเราจะมายังพวกเขาในเวลาสายขณะที่พวกเขากำลังเล่นสนุกสนานกันอยู่

แล้วพวกเขาปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ไม่มีใครมั่นใจว่าจะปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮ์ นอกจากกลุ่มชนที่ขาดทุนเท่านั้น"


 الأعراف : 97-99

          ท่านอัลลามะห์ อิบนุก็อยยิม ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า : บางทีอัลลอฮ์ทรงอนุมัติให้ผืนแผ่นดินได้หายใจ และจึงเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงขึ้น และเกิดขึ้นเพื่อที่ขู่สำทับและสร้างความหวาดกลัวให้แก่บ่าวของพระองค์ ให้บ่าวกลับตัวจากสิ่งที่ฝ่าฝืนทั้งหลาย และอ้อนวอนต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา และให้เสียใจต่อการกระทำ “

          ดังที่ชาวสลัฟบางท่านกล่าวว่า : แน่นอนการที่แผ่นดินไหวนั้น แท้จริงมันคือการที่พระเจ้าของพวกท่าน ต้องการให้พวกเจ้ารำพันถึงความผิด

          ท่านอุมัร บิน ค็อตต็อบ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ่ กล่าวว่า :  เมืองมะดีนะห์เคยแผ่นดินไหว ดังนั้นท่านอุมัร จึงขึ้นปาฐกถาและเตือนพวกเขา(ซอฮาบะห์) โดยท่านกล่าวว่า : “หากมันเกิดขึ้นอีก ฉันไม่อยากให้พวกท่านอาศัยอยู่ในนี้เลย”

และมีร่องรอยมากมายในเรื่องนี้จากชาวสลัฟ

         ดังนั้นจึงจำเป็นเมื่อเกิดแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติอื่นๆ จากสัญญาณต่างๆ เช่น สุริยุปราคา ลมพายุรุนแรง น้ำท่วม ให้เร่งรีบสู่การเตาบัตต่ออัลลอฮ์ และวิงวอนต่อพระองค์ ขอความคุ้มครองให้ปลอดภัย รำลึกนึกถึงพระองค์ให้มาก และขออภัยโทษต่อพระองค์ให้มาก 

          ดังที่ท่านนบี  กล่าวว่า :  “ดังนั้นเมื่อพวกท่านทั้งหลายเห็นสิ่งใดจากสิ่งดังกล่าว พวกท่านจงเร่งรีบสู่การรำลึกถึงพระองค์ และวิงวอนต่อพระองค์ และขออภัยต่อพระองค์”

(ส่วนหนึ่งจากฮะดิษบุคอรีย์) 30ومسلم) ( 2/ 628 2/) 

และส่งเสริมเช่นกัน ในการให้ความเมตตาต่อคนยากจน ขัดสน ด้วยกับการบริจาคทานให้แก่พวกเขา 

          ดังที่ท่านนบี  ได้กล่าวไว้ว่า : “บรรดาผู้เมตตา พระผู้ทรงเมตตาจะทรงเมตตาพวกเขา พวกเจ้าจงเมตตาต่อผู้ที่อยู่หน้าผืนแผ่นดินนี้ ผู้ที่อยู่ ณ ฟากฟ้า ก็จะเมตตาพวกเจ้า”

และท่านนบี  ยังกล่าวอีกว่า : ” ผู้ใดไม่มีความเมตตา เขาก็จะไม่ได้รับความเมตตา”

          รายงานจาก อุมัร บิน อับดุลอะซีซ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ แท้จริงท่านได้ส่งสาร์นไปยังเจ้าเมืองต่างๆ ขณะที่เกิดแผ่นดินไหว ให้พวกเขานั้นทำการซอดาเกาะห์

     จากสาเหตุแห่งความปลอดภัยและการรอดพ้นจากทุกความเลวร้าย คือ การเร่งรีบของบรรดาผู้นำด้วยกับการนำทางผู้ไม่รู้ ให้พวกเขายึดมั่นอยู่บนสัจจะธรรม และตัดสินด้วยกับบทบัญญัติแห่งอัลลอฮ์  ในหมู่พวกเขา สั่งใช้กันในเรื่องราวแห่งความดีงาม และห้ามปรามให้ออกห่างจากความชั่วร้าย ดังที่อัลลอฮ์  ตรัสไว้ความว่า :


“และบรรดามุมิน ชาย และบรรดามุมินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน

ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ

และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาต และภักดีต่ออัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์

ชนเหล่านี้แหละ อัลลอฮ์จะทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ”

 التوبة :71

พระองค์ตรัสไว้อีกความว่า :

“และแน่นอนอัลลอฮ์ จะทรงช่วยเหลือผู้ที่สนับสนุนศาสนาของพระองค์ แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงพลัง ผู้ทรงเดชานุภาพอย่างแท้จริง  

บรรดาผู้ที่เราให้พวกเขามีอำนาจในแผ่นดิน คือบรรดาผู้ที่ดำรงการละหมาด และบริจาคซะกาตและใช้กันให้กระทำความดี

และห้ามปรามกันให้ละเว้นความชั่ว และบั้นปลายอของกิจการทั้งหลายย่อมกลับไปหาอัลลอฮ์”


الحج : 40 –41

 

“และผู้ใดยำเกรงอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงหาทางออกให้แก่เขา   และจะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาจากที่ที่เขามิได้คาดคิด  

และผู้ใดมอบหมายแด่อัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงเป็นผู้พอเพียงแก่เขา”


الطلاق : 2-3 

และอายะห์ต่างๆที่มีความหมายทำนองนี้อีกมากมาย

ท่านนบี  กล่าวไว้ว่า : “ผู้ใดที่ช่วยเหลือพี่น้องของเขายามมีความต้องการ อัลลอฮ์ก็จะทรงช่วยเหลือเขายามที่เขามีความต้องการ”

และท่านนบี  กล่าวไว้อีกว่า : 

“ผู้ใดที่ปลดทุกข์แก่ผู้ศรัทธาคนหนึ่งคนใดจากความทุกข์ในดุนยา อัลลอฮ์ก็จะทรงปลดทุกข์แก่เขาจากความทุกข์ต่างๆในวันกิยามะห์ 

และใครที่ให้ความสะดวกแก่ผู้ได้รับความลำบาก อัลลอฮ์ก็จะทรงให้เขาได้รับความสะดวกทั้งในดุนยาและอาคิเราะห์ 

และใครก็ตามที่ปกปิดแก่มุสลิมคนใด อัลลอฮ์ก็จะทรงปกปิดแก่เขาทั้งดุนยาและอาคิเราะห์  

และอัลลอฮ์จะทรงช่วยเหลือบ่าว ตราบใดก็ตามที่บ่าวช่วยเหลือพี่น้องของเขา “

และฮะดิษอีกมากมายที่มีความหมายทำนองนี้


          อัลลอฮ์  เป็นผู้ดูแลในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพต่างๆของบรรดามุสลิมทั้งปวง ในการที่พระองค์จะทรงมอบความเข้าใจในศาสนา และให้การยืนหยัดบนศาสนา และการกลับเนื้อกลับตัวไปยังอัลลอฮ์  ทุกความผิดบาป และปรับปรุงแก้ไขผู้นำกิจการของเหล่ามวลมุสลิม และช่วยเหลือพวกเขาด้วยสัจจะธรรม และออกห่างจากความมดเท็จ และทำให้พวกเขานั้นสอดคล้องอยู่บนการตัดสินด้วยกับบทบัญญัติแห่งอัลลอฮ์ ในปวงบ่าวของพระองค์ และทรงปกป้องพวกเขาและบรรดามุสลิมทั้งหลายจากความหลงผิดของฟิตนะห์ทั้งหลาย และการล่อลวงของเหล่าชัยฏอนมารร้าย 

และแท้จริงพระองค์คือผู้ปกครอง ผู้ทรงเดชานุภาพ