อิสลาโมเฟีย และอิสลามโมโฟเบีย
  จำนวนคนเข้าชม  15735

 

 


อิสลาโมเฟีย และอิสลามโมโฟเบีย

โดย อ.มุนีร  มูหะหมัด

 

          หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตึกเวิล์ดเทรด (World Trade) ในนครนิวยอกร์ค สหรัฐอเมริกาถูกถล่ม เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2544  ปรากฎการณ์ 2 อย่างได้เผยตัวขึ้น อีกครั้งหนึ่ง

ปรากฏการณ์แรก เรียกว่า อิสลามโมเฟีย (Islamophia) หมายถึง   ปรากฏการณ์ความเกลียดชังอิสลาม

ปรากฏการณ์สอง เรียกว่า  อิสลามโมเบีย (Islamophobia) หมายถึง ปรากฏการณ์ความกลัวอิสลาม

          อิสลาโมเฟีย ปรากฏขึ้นพร้อมกับการที่อัลลอฮ์ ทรงแต่งตั้งท่านนะบีมุฮัมมัด ชาวอาหรับ เป็นเราะซูลของพระองค์ โดยนำอิสลามมาเผยแผ่กับมนุษย์ชาติ และเป็นศาสดาท่านสุดท้าย แต่ชาวยิวเชื่อว่านะบีท่านสุดท้ายจะต้องมาจากชนชาติยิว เมื่อนะบีมุฮัมมัด ปรากฏตัว ชาวยิวจึงรู้สึกผิดหวัง ความอิจฉาริษยา และความเกลียดชังจึงเพาะอยู่ในจิตใจ ความเลวร้ายเช่นนี้ได้ถ่ายทอดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงสมัยปัจจุบัน

          ความพยายามในการทำลายล้างอิสลาม เนื่องจากความเกลียดชังต่อศาสนา จึงออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้มุสลิมที่ร่างกายเป็นมุสลิม แต่ใจเป็นทาสของศัตรูอิสลาม เขียนบทความ หรือหนังสือวิจารณ์คัมภีร์อัลกุรอาน และบัญญัติอิสลามเกี่ยวกับการแต่งกายของมุสลิมะฮ์ สิทธิของมุสลิมะฮ์เกี่ยวกับมรดก การลงอาญาในอิสลาม เช่น นางตัสลีมา นัศรีน ชาวบังกลาเทศ และ นายซัลมาน รุชดี ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ โองการชัยฏอน (The Satanic Verse) โดยวิจารณ์อัลกุรอาน

          ส่วนความพยายามอย่างเปิดเผยในการทำลายอัลกุรอาน คือ องค์กรหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ได้พิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "อัลฟุรกอนุ้ลฮัก" (The True Forquan) เพื่อบิดเบือนคัมภีร์ อัลกุรอาน และสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของอิสลาม

 

        ปรากฏการณ์ อิสลามโมโฟเบีย ปรากฏขึ้นเวลาไล่เลี่ยกับการเกิดปรากฏการณ์อิสลาโมเฟีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นะบีมุฮัมมัด ได้สถาปนารัฐอิสลามขึ้นในนครมะดีนะฮ์ และอัลลอฮ์  ทรงอนุญาติให้มุสลิมทำการญิฮาด เพื่อปกป้องอิสลาม และสถานภาพของตนเอง มิใช่เพื่อการรุกรานและคุกคามผู้อื่น   เมื่อมุสลิม มีความเข้มแข็งได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ความกลัวมุสลิมจะครองโลก ก็มีเพิ่มมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ขยายดินแดนเข้าไปในทวีปยุโรป ทำให้นายซาเอีย โบแมน นักเขียนชาวยิว ร้องตะโกนด้วยความหวั่นวิตกว่า

          "ยุโรปยังคงปริวิตกต่ออิสลาม ศาสนาที่ปรากฏขึ้นที่นครมักกะฮ์ การมีจำนวนน้อยมิได้ทำให้อิสลามอ่อนแอ หากแต่อิสลามได้แผ่ขยายดินแดนออกไปเรื่อยๆ อิสลามมิใช่เพียงศาสนาเท่านั้น องค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่งของศาสนานี้ คือการญิฮาด โดยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่ชาวยุโรปจะต้องตระหนักไว้ให้มาก"


          ด้วยความกลัวของพวกตะวันตกต่อมุสลิม และศาสนาอิสลาม พวกเขาจึงพยายามทำลายทุกวิถีทาง ปรากฏการณ์ล่าสุดที่พบเห็นคือ การบุกเข้าไปทำลายอัฟกานิสถาน โดยอ้างฉากบังหน้าว่า ต้องการตามล่า  อุซามะฮ์ บินลาเด็น โดยกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรโลก แล้วตั้งนาย ฮามิด กราซัย สมุนรับใช้อเมริกา ขึ้นเป็นผู้ปกครองอัฟกานิสถาน

          ในอิรักจักวรรดินิยมตะวันตก ภายใต้การนำของอเมริกาบุกเข้าไปยึดครอง โดยอ้างฉากบังหน้าว่า จะปลดปล่อยอิรักจากการปกครองของ ซัดดัม ฮุเซน สำหรับเป้าหมายที่ปกปิดไว้คือ ต้องการทำลายล้างอำนาจของมุสลิม ที่มีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ และต้องการยึดครองแหล่งน้ำมันของอิรัก

         ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เกิดมาจากปรากฏารณ์ อิสลาโมเฟีย และ อิสลาโมโฟเบีย โรคเกลียดชังอิสลาม และโรคกลัวอิสลาม นั่นเอง