ก่อนคนในบ้านจะติดหวัดเจ้าตัวเล็ก
  จำนวนคนเข้าชม  17045

ก่อนคนในบ้านจะติดหวัดเจ้าตัวเล็ก
 

 
       นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับทุกครอบครัวหากเจ้าตัวเล็กมีไข้ขึ้นสูง มีน้ำมูก เพราะโรคหวัด ซึ่งปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็คือคนในครอบครัวติดหวัดไปตามๆกัน
      
       อีกทั้งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ความชื้น และอุณหภูมิในอากาศส่งผลต่อการแพร่กระจายของทั้งเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคหวัด หรือโรคการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ( Upper Respiratory Tract Infection ) ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย และมีไวรัสหลายชนิดที่ทำให้เป็นโรคหวัด
      
       ทั้งนี้ การป้องกันการติดหวัดจากคนในบ้าน นพ. วิชัย เดชะทัตตานนท์ ผู้อำนวยการด้านสร้างเสริมสุขภาพ ประกันสังคม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท1 ได้แนะวิธีการให้คุณแม่ เพื่อป้องกันไม่ให้หวัดลูกน้อยติดทุกคนในบ้านว่า
      
       "เด็กเล็ก ๆ ที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ มักมีปัญหาเรื่องเป็นหวัดบ่อย ๆ ประมาณปีละ 3 – 6 ครั้ง โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องไปเนอร์เซอรี่ และโรงเรียนอนุบาลที่ต้องกิน นอน เล่นกับเพื่อน ๆ อย่างใกล้ชิด ในห้องเรียนที่อากาศเป็นสถานที่ปิด และอากาศไม่ถ่ายเท เด็กเล็กๆ มักไม่ค่อยระวังตัวเองที่จะไปติดหวัดจากเพื่อน และเพื่อน ๆ ที่อาจเอาหวัดมาสู่ตัวเอง เพราะการเล่นกันของเด็ก ๆ ที่เล่นกันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา การไอจามของเพื่อน ๆ ที่ไม่ค่อยปิดปาก ปิดจมูก ทำให้ติดหวัดได้ง่ายจากการหายใจ และสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย ( Droplet )"
 
 
       อย่างไรก็ดี บางคนอาจไม่ได้ติดหวัดลูกทันทีที่เขาเป็น แต่ทว่าระยะเวลากว่าจะทราบว่าติดหวัดแล้ว เจ้าตัวเล็กอาจจะใกล้หายแล้วก็ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ นพ. วิชัยแนะว่า เมื่อลูกตัวน้อยเป็นหวัด แทบทุกคนในบ้านมักจะเป็นหวัดไปตาม ๆ กัน เพราะ
      
       1. ไอ จาม ไม่ระมัดระวัง
      
       เวลาไอ จาม ลูกน้อยมักไม่ปิดปาก จมูก ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้มากกว่าผู้ใหญ่ และเวลาเด็กเป็นหวัด พ่อแม่มักไม่ใส่ผ้าปิดปากให้เพราะกลัวว่าลูกจะอึดอัด
      
       2. มักเอามือที่เลอะน้ำมูก น้ำลาย ป้ายตามจุดต่าง ๆ
      
       เด็ก ๆ มักเอามือที่เลอะละอองน้ำมูก น้ำลาย ไปจับ ป้าย ตามลูกบิดประตู สวิทซ์ไฟ รีโมทแอร์ ทีวี ก๊อกน้ำ ฯลฯ
      
       3. การต้องถูกดูแลอย่างใกล้ชิด
      
       เด็กเล็ก ๆ มักต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ กล่อมนอน การเล่นที่อยู่ระยะใกล้ชิดเกินกว่า 2 เมตร เวลาไอเด็กก็ไม่ค่อยปิดปาก เลยทำให้แพร่กระจายได้ง่าย
      
       4. การพูดคุย สัมผัสที่ใกล้ชิด
      
       เวลาผู้ใหญ่คุย หรือเล่นกับเด็ก มักจะใกล้ชิดกันมาก มีการกอด หอม คุยกันใกล้ ๆ เวลาพูดคุยก็มักจะคุยกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการรับเชื้อโรคหวัดจากเด็ก
      
       5. ภาวะภูมิต้านทาน(ImmuneSystem)ในเด็กยังต่ำ
      
       เมื่อรับเชื้อโรคหวัดแล้วเกิดการเป็นโรคหวัดขึ้นได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่
       คุณแม่มีส่วนช่วยป้องกันอย่างไรไม่ให้ทุกคนติดหวัดจากลูกน้อย
      
       ส่วนการป้องกันนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักคือ
      
       1. ไม่รับเชื้อเพิ่ม
      
       .แยกห้องนอนลูกที่เป็นหวัดออกจากคนอื่นๆในบ้านและพยายามให้เด็กอยู่ในบริเวณห้องของตัวเองให้มากที่สุด
       · ให้ทุกคนในบ้านใส่ผ้าปิดปากเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับเด็ก
       · ล้างมือทุกครั้งที่ต้องไปสัมผัสกับเด็กที่ไม่สบาย และพยายามล้างมือบ่อย ๆ
       · ไม่ใช้ของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ เสื้อผ้า
       · พยายามให้อากาศแถวนั้นถ่ายเทได้ดี ด้วยการเปิดหน้าต่าง หรือเปิดพัดลมเพื่อไล่อากาศเดิม ทำอย่างไรก็ได้ให้เกิดอากาศหมุนเวียนในห้อง
      
       2. เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย
      
       · ไม่ควรนอนดึก นอนให้ได้ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง หรือถ้าเริ่มมีอาการหวัด ให้พักผ่อนให้เพียงพอ
       · ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง ( Aerobic Exercise ) ให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาทีเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย
       · การรับประทานอาหาร
       .ใช้ช้อนกลาง หรือแยกจานอาหารให้เด็กทานโดยเฉพาะ
       .ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ควรทานผลไม้ และผักสดเยอะ ๆ
      
       เพียงเท่านี้ แม้ลูกจะเป็นหวัดนานสักเพียงใด ก็ไม่ต้องปวดหัวกับการติดเชื้อหวัดอีกต่อไป

Life & family / Manager