หลักฐานชิ้นสุดท้ายในการเป็นนะบีของมุฮัมมัด
  จำนวนคนเข้าชม  5007

หลักฐานชิ้นสุดท้ายในการเป็นนะบีของมุฮัมมัด

 

               เหตุใดยุคมืด ( ญฺาฮีลียะอ์ ) เมื่อกว่า 1,400 ปี พ่อค้าและนักเลี้ยงสัตว์ชาวอาหรับผู้ไร้การศึกษาจะสามารถมีสติปัญญา  ความรู้  กำลัง   ความสามรถ  และคุณธรรมความดีอันสูงส่งได้

               กล่าวได้ว่า  ไม่มีสิ่งใดแปลกใหม่สำหรับเรื่องที่ท่านนะบี  นำมาสอน  ถ้าสิ่งที่ท่านสอนนั้นเป็นเรื่องที่คิดขึ้นเองแล้ว ท่านก็ควรจะประกาศตนเป็นพระผู้เป็นเจ้าเสียเอง  และถ้าท่านประกาศตัวเองเป็นพระผู้เป็นเจ้าในขณะนั้นแล้ว  ก็จะเป็นดังเช่นที่ชนทั้งหลายได้เรียกพระกฤษณะและพระพุทธเจ้าว่าเป็นพระเจ้า  และเรียกเยซู เป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าตามความคิดเห็นของพวกเขา  ผู้ซึ่งขาดสติสัมปชัญญะบูชาแม้กระทั่งอำนาจแห่งธรรมชาติ  เช่น  น้ำ  ไฟ  และอากาศ   จะต้องยอมรับอย่างทันทีว่า  บุรุษวิเศษผู้นี้คือพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง

               แต่เปล่าเลย  คำยืนยันกลับเป็นตรงกันข้ามเพราะท่านนะบี  ได้ประกาศว่า

 “ ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับพวกท่าน ข้าพเจ้ามิได้นำสิ่งที่คิดค้นขึ้นเองนั้นมาเผยแผ่แก่ท่านทั้งหลาย ความจริงพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงลงโองการ (วะฮียฺ) ให้ข้าพเจ้าทราบ ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าครอบครองอยู่นี้เป็นของพระผู้เป็นเจ้า  ข้อความทั้งหลายซึ่งไม่มีมนุษย์ผู้ใดจะคิดค้นได้เหมือนดำรัสของพระองค์  มิใช่คิดขึ้นเพราะความคิดเห็นของข้าพเจ้า  ทุกๆคำคือสิ่งที่บัญชามาจากพระผู้เป็นเจ้า  และการสรรเสริญทั้งมวลเป็นของพระองค์ผู้ซึ่งเป็นผู้มอบสารนั้น  สิ่งต่าง ๆ ซึ่งข้าพเจ้าทำสำเร็จและก่อให้เกิดความเชื่อถือ  กฎต่าง ๆ ซึ่งข้าพเจ้าได้วางไว้และได้สั่งสอน ทุกสิ่งมิได้มาจากความสามารถและสติปัญญาของข้าพเจ้าเอง  ข้าพเจ้าไม่อาจจะสร้างสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้เลย  ข้าพเจ้าต้องดำเนินการทุกอย่างตามบัญชา  สิ่งใดที่พระองค์ประสงค์ข้าพเจ้าปฏิบัติ สิ่งใดที่พระองค์บัญชาข้าพเจ้าจึงประกาศ”

               ช่างเป็นตัวอย่างของความซื่อสัตย์  มั่นคงและมีเกียรติอย่างยิ่ง  ถ้าเป็นผู้โป้ปดและพวกกลับกลอกจะต้องหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเพื่อความเชื่อถือในการกระทำที่เป็นของผู้อื่น  ถึงแม้การหลอกลวงจะถูกพิสูจน์ได้อย่างง่ายดาย  แต่ทว่าสำหรับมหาบุรุษผู้นี้มิได้ถือเอาการกระทำเหล่านั้นเป็นเกียรติแก่ตนเองเลย และไม่มีหนทางใดที่จะค้นพบต้นกำเนิดแห่งแรงดลใจของท่านได้ สิ่งใดเล่าจะเป็นข้อพิสูจน์ที่สมบูรณ์ของความยึดมั่นในจุดประสงค์  ความแน่วแน่แห่งคุณลักษณะ และความบริสุทธิ์ของวิญญาณ ไปกว่าที่กล่าวมาแล้ว  ผู้ใดเล่าจะเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ยิ่งไปกว่าบุคคลผู้ซึ่งได้รับของขวัญพิเศษที่สวยงามโดยที่ไม่มีผู้ใดทราบ อีกทั้งได้เปิดเผยที่มาแห่งความรู้  และการดลใจ อย่างไม่อำพรางสิ่งใดทั้งสิ้น  สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดได้นำไปสู่ผลสรุปที่ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ว่า  บุรุษผู้นี้คือ (รสูลุลลอฮ์)ศาสนฑูต  ผู้เผยแพร่ที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า

               นี่คือคุณลักษณะแห่งนะบี  ท่านนะบีมุฮัมมัด เป็นตัวอย่างของคุณงามความดี  เป็นตัวอย่างอันเยี่ยมยอดของความบริสุทธิ์และความกรุณา  เป็นสัญลักษณ์แห่งความจริง  สัจจะ  และเป็นเราะซูลผู้เผยแผ่แห่งโลกนี้  ชีวิตและความคิดของท่าน  ความซื่อสัตย์และความตรงของท่าน  ความใจบุญและความเมตตา  คุณลักษณะ ศีลธรรม  ความคิดเห็นและการกระทำของท่าน  เหล่านี้ล้วนเป็นข้อพิสูจน์อันหาข้อตำหนิมิได้  มนุษย์คนใดก็ตามซึ่งได้ศึกษาชีวิตและคำสอนของท่านอย่างไม่มีอคติแล้ว  ย่อมจะเป็นพยานได้ว่าท่านเป็นนะบียุลลอฮฺที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า  และเป็นพยานว่าคัมภีร์ที่มอบแก่มวลมนุษย์นั้น  เป็นบัญญัติที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า 

          ควรจะเป็นที่เข้าใจกันอย่างแจ่มแจ้ง ณ บัดนี้ว่า  ท่านนะบีมุฮัมมัด เท่านั้น ที่ทำให้เราได้รู้สิ่งที่ถูกต้องของอิสลาม  พระคัมภีร์อัลกุรอานและตัวอย่างชีวิตของท่านนะบีมุฮัมมัด เท่านั้นเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้สำหรับมนุษย์  ในการที่จะเรียนรู้พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหมด  มุฮัมมัด คือผู้เผยแผ่สารของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับมนุษย์ทั่วโลก  และการสืบเชื้อสายอันยาวนานของศาสดา (นะบี)  ได้สิ้นสุดลงที่ท่าน เป็นศาสดา ( นะบี ) ท่านสุดท้าย  และคำสั่งสอนทั้งหลายซึ่งเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า     ที่ต้องการแจ้งต่อมวลมนุษย์  โดยถูกส่งผ่านมาทางนะบีมุฮัมมัด และรับรองการอ้างอิงไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน  และวจนะของท่านนะบี  ทั้งหะดีษ  สุนนะฮ์ 

          บัดนี้  ! ไม่ว่าผู้ใดซึ่งเป็นผู้ค้นคว้าหาความจริง และปรารถนาที่จะเป็นมุสลิมที่ซื่อสัตย์  เป็นผู้ที่เดินตามทางของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริงแล้ว  เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องมีศรัทธาในนะบี  ท่านสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้า  ยอมรับคำสั่งสอนและปฏิบัติตามแนวทางซึ่งท่านได้ชี้ให้แก่มวลมนุษย์  นี่แหละคือทางที่แท้จริงในการไปสู่ความสำเร็จและการรอดพ้น

จากหนังสือ “มาเข้าใจ ‘อิสลาม’ กันเถิด”

แปลและเรียบเรียง  “จินตนา”