คำชี้แนะแด่สตรีทั้งหลาย 1
  จำนวนคนเข้าชม  6015

คำชี้แนะแด่สตรีทั้งหลาย 1


ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์


         มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล ขอความสุข ความจำเริญและความศานติจงประสบแด่ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตลอดจนวงศ์วานและมิตรสหายของท่านโดยทั่วกัน ฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่า มุหัมมัดเป็นบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์

อัลลลอฮ ตะอาลา ตรัสว่า

﴿ إِنَّ ٱلۡمُسۡلِمِينَ وَٱلۡمُسۡلِمَٰتِ وَٱلۡمُؤۡمِنِينَ وَٱلۡمُؤۡمِنَٰتِ وَٱلۡقَٰنِتِينَ وَٱلۡقَٰنِتَٰتِ وَٱلصَّٰدِقِينَ وَٱلصَّٰدِقَٰتِ وَٱلصَّٰبِرِينَ وَٱلصَّٰبِرَٰتِ وَٱلۡخَٰشِعِينَ وَٱلۡخَٰشِعَٰتِ وَٱلۡمُتَصَدِّقِينَ وَٱلۡمُتَصَدِّقَٰتِ وَٱلصَّٰٓئِمِينَ وَٱلصَّٰٓئِمَٰتِ وَٱلۡحَٰفِظِينَ فُرُوجَهُمۡ وَٱلۡحَٰفِظَٰتِ وَٱلذَّٰكِرِينَ ٱللَّهَ كَثِيرٗا وَٱلذَّٰكِرَٰتِ أَعَدَّ ٱللَّهُ لَهُم مَّغۡفِرَةٗ وَأَجۡرًا عَظِيمٗا ٣٥ ﴾ [الأحزاب : ٣٥] 

ความว่า: "แท้จริง บรรดาผู้นอบน้อมชายและหญิง บรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิง บรรดาผู้ภักดีชายและหญิง บรรดาผู้สัตย์จริงชายและหญิง บรรดาผู้อดทนชายและหญิง บรรดาผู้ถ่อมตัวชายและหญิง บรรดาผู้บริจาคทานชายและหญิงบรรดาผู้ถือศีลอดชายและหญิง บรรดาผู้รักษาอวัยวะเพศของพวกเขาที่เป็นชายและหญิง บรรดาผู้รำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างมากที่เป็นชายและหญิงนั้น อัลลอฮฺจะทรงเตรียมไว้แก่พวกเขาซึ่งการอภัยโทษและผลบุญอันมหาศาล"

 (อัล-อะหฺซาบ: 35)

         อัต-ติรมิซียฺ บันทึกรายงานในหนังสือสุนันของท่านจากอุมมุ อัมมาเราะฮฺ อัล-อันศอริยะฮฺ เล่าว่านางได้เข้าพบท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วกล่าวว่า: "ดิฉันรู้สึกว่าทุกๆอย่างล้วนเกี่ยวกับบุรุษทั้งสิ้น แทบไม่เห็นสตรีถูกกล่าวถึงเลย" อายะฮฺนี้จึงถูกประทานลงมา ( إِنَّ ٱلۡمُسۡلِمِينَ وَٱلۡمُسۡلِمَٰتِ )

และที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือคำสั่งเสียบางส่วนสำหรับพี่น้องมุสลิมะฮฺทั้งหลาย ขออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงให้สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์ด้วยเถิด อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

﴿ وَٱلۡمُؤۡمِنُونَ وَٱلۡمُؤۡمِنَٰتُ بَعۡضُهُمۡ أَوۡلِيَآءُ بَعۡضٖۚ يَأۡمُرُونَ بِٱلۡمَعۡرُوفِ وَيَنۡهَوۡنَ عَنِ ٱلۡمُنكَرِ وَيُقِيمُونَ ٱلصَّلَوٰةَ وَيُؤۡتُونَ ٱلزَّكَوٰةَ وَيُطِيعُونَ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥٓۚ أُوْلَٰٓئِكَ سَيَرۡحَمُهُمُ ٱللَّهُۗ إِنَّ ٱللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٞ ٧١ ﴾ [التوبة: ٧١] 

ความว่า “และบรรดามุอ์มินชาย และบรรดามุอ์มินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน ซึ่งพวกเขาจะกำชับใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาต และภักดีต่ออัลลอฮฺ และเราะสูลของพระองค์ ชนเหล่านี้แหละ อัลลอฮฺจะทรงเอ็นดูเมตตาพวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ”

(อัต-เตาบะฮฺ: 71)

 

คำสั่งเสียข้อแรก : การตั้งภาคี

         ให้ยึดมั่นในเอกภาพของพระองค์อัลลอฮฺ สุบหานะฮู วะตะอาลา และพึงระวังในเรื่องการทำชิริก (การตั้งภาคี)


อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

﴿ لَآ إِكۡرَاهَ فِي ٱلدِّينِۖ قَد تَّبَيَّنَ ٱلرُّشۡدُ مِنَ ٱلۡغَيِّۚ فَمَن يَكۡفُرۡ بِٱلطَّٰغُوتِ وَيُؤۡمِنۢ بِٱللَّهِ فَقَدِ ٱسۡتَمۡسَكَ بِٱلۡعُرۡوَةِ ٱلۡوُثۡقَىٰ لَا ٱنفِصَامَ لَهَاۗ وَٱللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌ ٢٥٦ ﴾ [البقرة: ٢٥٦

 “ไม่มีการบังคับใด (ให้นับถือ) ในศาสนาอิสลาม แน่นอนความถูกต้องนั้นได้เป็นที่กระจ่างแจ้งแล้วจากความผิด

 ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่อ อัฎ-ฎอฆูต และศรัทธาต่ออัลลอฮฺแล้ว แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว โดยไม่มีการขาดใดๆเกิดขึ้นแก่มัน

 และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้”

(อัล-บะเกาะเราะฮฺ: 256)

และตรัสอีกว่า

﴿ ۞وَمَن يُسۡلِمۡ وَجۡهَهُۥٓ إِلَى ٱللَّهِ وَهُوَ مُحۡسِنٞ فَقَدِ ٱسۡتَمۡسَكَ بِٱلۡعُرۡوَةِ ٱلۡوُثۡقَىٰۗ وَإِلَى ٱللَّهِ عَٰقِبَةُ ٱلۡأُمُورِ ٢٢ ﴾ [لقمان: ٢٢] 

 "และผู้ใดยอมนอบน้อมใบหน้าของเขายังอัลลอฮฺ โดยที่เขาเป็นผู้กระทำดี แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว

และบั้นปลายของกิจการทั้งหลายย่อมกลับไปหาอัลลอฮฺ"

(ลุกมาน: 22)

ชัยคุลอิสลาม มุหัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่อันเป็นพื้นฐานหลักของอิสลามคือ:


ประการที่หนึ่ง

          คำสั่งใช้ให้เคารพอิบาดะฮฺต่อพระองค์อัลลอฮฺ ตะอาลา เพียงพระองค์เดียว โดยปราศจากการชิริก และผู้ใดที่ละทิ้งคำสั่งใช้นี้ ถือเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา

อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

﴿ قُلۡ يَٰٓأَهۡلَ ٱلۡكِتَٰبِ تَعَالَوۡاْ إِلَىٰ كَلِمَةٖ سَوَآءِۢ بَيۡنَنَا وَبَيۡنَكُمۡ أَلَّا نَعۡبُدَ إِلَّا ٱللَّهَ وَلَا نُشۡرِكَ بِهِۦ شَيۡ‍ٔٗا وَلَا يَتَّخِذَ بَعۡضُنَا بَعۡضًا أَرۡبَابٗا مِّن دُونِ ٱللَّهِۚ فَإِن تَوَلَّوۡاْ فَقُولُواْ ٱشۡهَدُواْ بِأَنَّا مُسۡلِمُونَ ٦٤ ﴾ [آل عمران: ٦٤] 

"จงกล่าวเถิด(มุหัมมัด) ว่า โอ้บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ ! จงมายังถ้อยคำหนึ่งซึ่งเท่าเทียมกันระหว่างเราและพวกท่าน

คือ เราจะไม่เคารพสักการะนอกจากอัลลอฮฺ และเราจะไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีเทียบเคียงพระองค์

 และพวกเราบางคนก็จะไม่ยึดถืออีกบางคนเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮฺ

 แล้วหากพวกเขาหันหลังให้ ก็จงกล่าวเถิดว่า พวกท่านจงเป็นพยานด้วยว่า แท้จริงพวกเราเป็นผู้น้อมตาม"

(อาล อิมรอน: 64)

        อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงสั่งใช้ให้บรรดานบีของพระองค์ เรียกร้องเชิญชวนชาวคัมภีร์ด้วยสิ่งที่ท่านเชิญชวนชาวอาหรับและชนอื่นๆ นั่นคือการเข้าใจความหมายของคำว่า "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ" (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ) ซึ่งหมายความว่า ไม่มีผู้ใดพึงได้รับการเคารพภักดีอย่างถูกต้องแท้จริงนอกจากอัลลอฮฺ ดังนั้น การขอดุอาอ์ การวิงวอนขอความช่วยเหลือ การเชือดสัตว์พลี การสาบาน หรืออิบาดะฮฺอื่นใด จึงต้องกระทำและเป็นไปเพื่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮู วะตะอาลา แต่เพียงพระองค์เดียว และนี่คือแก่นแท้แห่งการเรียกร้องเชิญชวนของศาสนทูตทุกท่าน


ประการที่สอง

          การเตือนสำทับและเน้นย้ำให้พึงระวังในเรื่องการชิริกในการทำอิบาดะฮฺ และถือว่าผู้กระทำการดังกล่าวตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา เพราะการให้เอกภาพนั้นมิอาจสมบูรณ์ได้หากขาดส่วนนี้ไป เช่นนี้คือแนวปฏิบัติของบรรดาเราะสูล พวกท่านได้เตือนประชาชาติของพวกท่านให้หลีกห่างจากการตั้งภาคี ดังที่อัลลอฮฺ ตรัสว่า

﴿ وَلَقَدۡ بَعَثۡنَا فِي كُلِّ أُمَّةٖ رَّسُولًا أَنِ ٱعۡبُدُواْ ٱللَّهَ وَٱجۡتَنِبُواْ ٱلطَّٰغُوتَۖ﴾ [النحل: ٣٦] 

 "และโดยแน่นอน เราได้ส่งเราะสูลมาในทุกประชาชาติ (โดยบัญชาว่า)พวกท่านจงเคารพภักดีอัลลอฮฺ และจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ด"

(อัน-นะหฺล์: 36)

         ผู้ที่ทำชิริกไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ อัลลอฮฺจะไม่ทรงรับการงานของเขาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการงานที่เป็นฟัรฎูหรือที่เป็นสุนัตก็ตาม อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

﴿ وَقَدِمۡنَآ إِلَىٰ مَا عَمِلُواْ مِنۡ عَمَلٖ فَجَعَلۡنَٰهُ هَبَآءٗ مَّنثُورًا ٢٣ ﴾ [الفرقان: ٢٣] 

 "และเรามุ่งสู่ส่วนหนึ่งของการงานที่พวกเขาได้ปฏิบัติไป แล้วเราจะทำให้มันไร้คุณค่ากลายเป็นละอองฝุ่นที่ปลิวว่อน"

(อัล-ฟุรกอน: 23)

          และสิ่งหนึ่งที่เป็นภัยคุกคามอันน่าวิตกยิ่งต่อประชาชาติของเราก็คือ บรรดาช่องดาวเทียมและสื่อต่างๆที่มักนำเสนอโฆษณาชวนเชื่อผิดๆ โดยมุ่งหวังจะสร้างความสับสนแก่พี่น้องมุสลิมต่อศาสนาของพวกเขา และชักนำพวกเขาด้วยวิธีการอันแยบยลสู่การหลุดพ้นจากกรอบศาสนา ดังนั้น จึงพึงระวังเป็นอย่างยิ่ง และนี่คืออันตรายประการแรก

          ส่วนอันตรายประการที่สองนั้น ก็คือการที่ไสยศาสตร์และการดูหมอแพร่หลายเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีผู้แวะเวียนใช้บริการสิ่งเหล่านี้เป็นจำนวนมาก โดยให้อ้างว่าเพื่อเป็นการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งนี้ อิสลามไม่อนุญาตให้มุสลิมะฮฺไปหาผู้ที่ทำคุณไสยพวกนั้นซึ่งอ้างตัวว่ารู้ในสิ่งเร้นลับ เพื่อสอบถามถึงโรคภัยที่เผชิญอยู่ และไม่อนุญาตให้พวกนางเชื่อในสิ่งที่พวกเขาบอก เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาเพียงกล่าวอ้างในสิ่งที่เร้นลับ หรืออาจขอความช่วยเหลือจากญินเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องการ คนกลุ่มนี้ถือเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาและหลงผิดอย่างชัดแจ้งหากพวกเขาอ้างว่ารู้ในสิ่งเร้นลับ

 ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

« مَنْ أَتَى عرّافاً، فَسَأَلَهُ عَنْ شَيْءٍ لَمْ تُقْبَلْ لَهُ صَلاةٌ أَرْبَعِيْنَ لَيْلَةً» [مسلم برقم 2230]

ความว่า "ผู้ใดหาหมอดูเพื่อถามถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใด ละหมาดของเขาจะไม่ถูกรับเป็นเวลาสี่สิบคืน"

(มุสลิม หะดีษเลขที่ 2230)

 

 


แปลโดย : อุศนา พ่วงศิริ / Islam House