รายชื่อผู้ที่ได้รับอัลกุรอาน สัปดาห์ที่ 12 วันที่ 6 / 8 / 2555
  จำนวนคนเข้าชม  2310

รายชื่อผู้ที่ได้รับอัลกุรอานแปลไทย 10 ท่าน

สัปดาห์ที่ 12� วันที่�6 / 8 / 2555


1. นายอาวุฒ� หัสนี

2. น.ส.ฮุสนา เหลาะเหม

3. นางสาวอมินา� โอภาสทอง

4. นางสาวรุไวดา มูเนาวะเราะ

5. นางสาวอัฟนาน� สุมาลี

6. นายบัญชา พันธ์ทิพย์

7. นายฟิรฮาน� อนุศาสนบุตร�

8. นางสาวฮาลีเมาะห์ แวลีเมาะ

9. นางสาวมรีหย๊ะ�� เม็นหมูด

10. ฮาวา บุญส่ง

***ทางเราจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น***

ญาซากุมุลลอฮุคอยรอน...สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่าน

ติดตามรายชื่อได้ในทุก ๆ วันจันทร์ของสัปดาห์

บทความที่ชอบคือ คุตบะฮฺวันศุกร์ เรื่อง การสร้างชีวิตใหม่� เขียนโดย อ.อะหมัด อัลฟาริตี

� สิ่งที่ได้รับ

๑. อัลลอฮฺได้ให้โอกาสเราในการสร้างชีวิตใหม่โดยการให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อโอกาสในการทำดีและกลับตัว
๒.คนดีคือคนที่เห็นความชั่วแม้ว่าจะเป็นความชั่วที่เล็กน้อยแต่ก็กลัวที่จะทำความชั่วนั้น
๓.คนที่ไม่ดีคือคนที่เห็นความชั่วเล็กน้อยเป็นเรื่องเล็กจึงทำความชั่วนั้นโดยไม่มีความกลัว
๔.ทางที่ดีที่สุดคือการนำอัลกุรอานมาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต

�มีบทความอีกหลายบทความที่ชอบแต่บทความนี้ถูกใจ และได้นำไปขึ้นคุตบะฮฺในวันศุกร์ด้วย ญะซากุมุลลอฮุค็อยร็อน


บทความโดนใจ คือเรื่อง อย่าลืมตัวเอง โดย อ.อับดุลลอฮ์ แอนดริส

ข้อคิดที่ได้จากบทความนี้ ทำให้เรากับไปคิดทบทวนตัวเองว่า การที่อัลลอฮฺตักดีร ให้เราได้ทำงานเป็นครูในโรงเรียนสามัญบูรณาการอิสลาม เพื่อที่พระองค์จะให้เราบอกเล่าเรื่องราวของศาสนาในแนวทางของท่านรสูล(ซล.) ผ่านทางตัวเรา ด้วยความรู้อันน้อยนิดที่พยายามศึกษาหาความรู้ด้วยการอ่าน หรือฟังบรรยายก็ดี ความรู้เหล่านี้ที่พระองค์ทรงให้กับดิฉัน ฉันได้ถ่ายทอดด้วยการบอกบอกเล่า การกระทำเป็นแบบอย่าง หลังจากอ่านบทความนี้ทำให้ดิฉันกลัวเหลือเกินว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะเป็นเช่นชาวยิว ที่สั่งใช้ให้คนอื่นทำความดี แต่ตัวเองไม่ได้ทำ อินชาอัลลอฮฺฉันจะพยายามตรวจสอบอามัลตัวเองทุกวันว่าวันนี้ตัวดิฉันเองได้กระทำอย่างที่สั่งใช้ให้นักเรียนทำหรือไม่่


บทความเรื่อง : อุบายของชัยฏอน มารร้าย�� ชื่อผู้เขียนบทความ : อ.มาลิก โยธาสมุทร

สิ่งที่ได้รับจากบทความ

1. ทำให้เราระวังตัวจากอุบายของชัยฏอนได้มากขึ้น
2. ทำให้เราเดินตามเส้นทางของอัลลอฮ์อย่างถูกต้อง
3. ทำให้เราศรัทธาต่ออัลลอฮ์มากขึ้น ไม่หลงโลกดุนยามากจนเกินไป
4. การที่เราไม่ปฎิบัติตัวตามหนทางอัลลอฮ์ จะทำให้เราเป็นเหยื่อของชัยฏอนได้ง่ายขึ้น
5. ชัยฏอนจะไม่สามารถทำลายบ่าวของอัลลอฮ์ผู้ที่ศรัทธาได้


ชื่อบทความ�� "8 เคล็ดลับขจัดความขี้เกียจ"�� ผู้เขียน : อิบนุลฮัค

สิ่งที่ได้ :� ความขี้เกียจนั้นเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการศึกษาหาความรู้และการประกอบอีบาดะฮฺ แต่หากเรารู้วิธีกำจัดมันและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว อินชาอัลลอฮฺ เราจะสามารถแก้ไขความไม่ดีงามในเรื่องต่างๆในชีวิตได้อีกมาก ทั้งการแสวงหาความรู้ การประกอบอามั้ลอีบาดะฮฺที่ถูกต้องและการทำความดีในรูปแบบต่างๆ

วิธีที่ถูกนำเสนอในบทความ ล้วนมีความดีงามทั้งสิ้นและยังเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถกระทำได้ ไม่ยาก และยังมีเรื่องราวตัวอย่างของบรรดาอุลามาอฺและผู้ประสบความสำเร็จทั้งหลาย ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้อ่านฮึดสู้เหมือนพวกเขา พร้อมได้เรียนรู้ประวัติคร่าวๆของท่านอีกด้วย� แต่การปฏิบัติตามที่บอกมานั้นต้องอาศัยความจริงจังและต่อเนื่องสม่ำเสมอ จึงจะขจัดความขี้เกียจไปได้ บทความนี้ช่วยกระตุ้นความพยายามในการขจัดความขี้เกียจเพื่อให้เกิดความขยันได้ดี อินชาอัลลอฮฺ จะสามารถเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านได้มากทีเดียว


ชื่อบทความ หลักการธนาคารอิสลาม

สรุป ธนาคารอิสลามเป็นธนาคารที่ดำเนินกิจการในรูปแบบหุ้นส่วนจึงไม่มีระบบดอกเบี้ยซึ่งผิดหลักศาสนาอิสลาม และยังได้รู้ถึงข้อแตกต่างที่ชัดเจนของธนาคารอิสลามกับธนาคารทั่วไป และยังได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับระบบธนาคารอิสลามสามารถเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ และสามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนได้


ชื่อบทความที่ชอบ สาเหตุแห่งความพินาศของประชาชาติในอดีต� โดย อับดุรเราะฮฺมาน บินอับดิลลาฮฺ อัลละอฺบูน

� ข้อคิดที่ได้จากบทความนี้ คือ คนเราจำเป็นจะต้องมีการสำรวจสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นความชั่วทั้งของตัวเองและผู้อื่นหรือสังคมรอบข้างอยู่เสมอ เพราะเ่มื่่่อหนึ่่งเมื่อใดก็ตามที่สังคมหนึ่งสังคมใดเต็มไปด้วยความชั่วร้าย อัลลอฮฺก็จะทรงทำลายล้างหรือลงโทษอย่างสาหัสกับพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าการลงโทษของพระองค์นั้นจะมาเมื่่อไร ดังตัวอย่างของกลุ่มชนในอดีตที่พวกเขาได้พินาศไปแล้ว.......

โดนใจบทความ เมื่อละหมาดหัวใจอยู่ที่ไหน�� โดย อ.อับดุลฮามี๊ด บรอฮีมี
��
อัซลามุอาลัยกุมครับ�� เมื่อก่อนผมยอมรับครับ ผมเป็นคนที่ละหมาดเพื่อให้ผ่านๆ เพื่อให้เสร็จเพื่อที่จะไปทำกิจกรรมต่อไป (ละหมาดโดยไม่คิดอะไร) แต่..หลังจากที่ได้ศึกษาการละหมาด,อ่านบทความนี่แล้วทำให้ผมคิดได้ว่า การละหมาดไม่ใช่เพื่อละหมาดเพียงให้เสร็จเท่านั้น หรือเป็นแค่กิจกรรมๆหนึ่งที่เราปฏิบัติกันลอยๆในทุกๆวันเท่านั้น� แต่การละหมาดคือการที่หัวใจของเราต้องน้อบน้อมต่อพระองค์ อัลลอฮ(ซ.บ.) ทุกรอกะอัต ทุกครั้งที่กล่าวตักบีร ทุกครั้งที่สุญูด จนเสร็จสิ้นการให้สลาม หัวใจของเราต้องแน่วแน่ไปที่พระองค์ เพราะการละหมาดนั้นสามารถที่จะ "ยับยั้งจากสิ่งที่ลามกสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลายได้" ทำให้จิตใจเรานิ่ง สำนึกผิดในสิ่งที่เราทำลงไป เพราะอัลลอฮจะทรงรับการงานที่ดีจากบ่าวของพระองค์และผลบุญ และในหัวอกที่บ่าวนั้นผูกพันอยู่กับการปฏิบัติ จากสิ่งที่ถูกต้องของการละหมาด ดังนั้นหากบ่าวดำรงการละหมาดอย่างสมบูรณ์ โดยไม่มีข้อบกพร่อง ยอมจำนนอยู่กับพระองค์ เขาก็จะไม่เห็นอื่นใด นอกจากอัลลอฮ(ซ.บ.)เท่านั้น ซึ่งสิ่งที่จะสมบูรณ์ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นอยู่กับพระองค์ในการละหมาด ดังนั้นการที่มีจิตใจมุ่งอยู่กับอัลลอฮ(ซ.บ.) คือวิญญาณของการละหมาด.


ชีวิตนบีที่สมถะ��� โดย� อ.อับดุลลอฮฺ มานะ

- สิ่งที่ได้รับจากบทความที่ได้อ่าน คือ มุสลิมนั้นควรเรียนรู้ชีวประวัติและแบบอย่างการดำเนินชีวิตของท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ.ล.)ให้เข้าใจลึกซึ้งและนำแนวทางไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง จากที่ได้อ่านบทความนี้ทำให้ดิฉันได้ทราบว่าขนาดท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ.ล.) ผู้ที่อัลลอฮฺเลือกให้เป็นรอซูลยังมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองมากมายมหาศาล ทั้งๆที่ท่านควรจะได้รับเกียรติจากอัลลอฮให้มีอำนาจ บารมี� มีฐานะร่ำรวย มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย แต่ท่านก็ได้กล่าวว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นเพียงความสุขสบายและภาพลวงตาที่อัลลอฮทดสอบมนุษย์เราบนโลกดุนยา(ทางผ่าน)เท่านั้น� ส่วนที่ๆเราจะอยู่ถาวรคือโลกหน้าต่างหาก ดังนั้นเราต้องดำเนินชีวิตบนโลกดุนยานี้ตามแบบอย่างของท่านนบีเพื่อที่เราจะได้รับความสุขสบายในโลกหน้าพร้อมกับท่านนบี...อามีน


บทความที่ชอบ "น้ำตารักษาโรคและหัวใจ" ของ โคนัน มูกอวิม

อ่านบทความนี้แล้วทำให้รู้ว่าการร้องไห้นั้น ทำให้หัวใจไม่แข็งกระด้าง วันไหนที่โดนแกล้งมา เจอเรื่องร้ายๆมาแล้วร้องไห้กับอัลลอฮฺนั้นมันช่วยได้จริงๆ หลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัลหะดีษนั้นช่วยให้มีกำลังใจมาก เพราะว่าอัลลอฮฺมองเห็นเราเสมอแม้ในยามที่ร้องไห้คนเดียว ฉันอ่านเจอบทความนี้พอดีกับตอนที่พี่น้องมุสลิมคนหนึ่งเขาเสียใจร้องไห้เลยโพสต์ไปให้อ่าน คงช่วยเขาได้ไม่มากก็น้อย นอกจากนี้บทความยังมีเรื่องของวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนความจริงอีกด้วย ทำให้นึกถึงอีกหลายๆเรื่องในอัลกุรอ่านที่มีมานานก่อนที่วิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ได้เสียอีก

บทความที่ดิฉันประทับใจ� คือ การระลึกถึงความตายมีผลต่อการแก้ไขปรับปรุงชีวิตและเพิ่มพูนความศรัทธา เขียนโดย ดร. อุมัรฺ สุลัยมาน อัล อัชก็อรฺ

เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์นั้น มักจะหลงใหลในดุนยาจนลืมนึกถึงความตายจึงทำให้การดำเนินชีวิตห่างไกลจากปฎิบัติตามหลักศานาอิสลาม��� ดังนั้นดิฉันคิดว่า การระลึกถึงความตายอยู่ตลอดเวลานั้น ส่งผลดีในการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินชีวิตและการเพิ่มพูนอีหม่านความศรัทธาของมุสลิม

ท่านอัดดักกอก ได้กล่าวว่า“ผู้ใดที่หมั่นระลึกถึงความตายแล้ว เขาจะได้รับความโปรดปราน 3 สิ่ง คือ การเร่งรีบเตาบัตตัว ความพอเพียงในหัวใจ และการทำอะมัลอิบาดะฮฺอย่างมีชีวิตชีวา” และขอให้หัวใจของดิฉันรำลึกถึงความตายอยู่ตลอดเวลา� เพื่อตั้งมั่นอยู่บนความสำนึก และห่างไกลจากความชั่วร้ายทั้งปวง

๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒�๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒�๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒