บุรุษ คือผู้นำครอบครัว - ส่วนสตรี คือผู้นำของเหย้าเรือน
เขียนโดย อบูอัดนาน อะหมัด อัลฟารีตี
จาก อบีฮุรอยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวว่า
“ลูกหลานของอาดัมทุกชีวิตคือหัวหน้า บุรุษคือหัวหน้าของครอบครัว และสตรีคือหัวหน้าของเหย้าเรือน”
(รายงานโดย อิบนุซุนนี รับรองศอฮีหฺ โดยอัลบานี จากศอฮีหฺ อัลญามิ อุศเศาะฆีรฺ : 4/183)
บทเรียนจากอัลฮะดิษ
♥ • มนุษย์ทุกคนถูกกำหนดบทบาทและภาระหน้าที่ให้ปฏิบัติในโลกดุนยา
♥ • มนุษย์ทุกคนคือหัวหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแลสมาชิกในครอบครัวให้ดำเนินบทบาทของตนเองตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺ
♥ • บุรุษผู้ทำหน้าที่เป็นสามีหรือพ่อ เขาคือหัวหน้าที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยภรรยาและลูกๆ
♥ • สตรีผู้ทำหน้าที่เป็นภรรยาหรือแม่ ถูกกำหนดบทบาทให้เป็นหัวหน้าของครัวเรือนในความหมายว่าต้องรับผิดชอบจัดการดูแลบ้าน ปรนนิบัติสามี และอบรมลูกๆ
♥ • ความงดงามของคำสอนอิสลามในการแบ่งสรรบทบาทหน้าที่ของมนุษย์แต่ละฝ่ายเหมาะสมตามธรรมชาติแห่งการสร้างสรรค์ และความสามารถส่วนบุคคล
♥ • หากมนุษย์แต่ละคนรู้จักตำแหน่งและภาระหน้าที่ของตน พร้อมกับการปฏิบัติด้วยความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ใจแล้ว แน่แท้ความผาสุกก็จะบังเกิดขึ้นในชีวิต
หน้าที่แตกต่าง แต่ผลบุญเสมอกัน
อัสมาอฺ บินตี ยะซีด บิน อัสสะกัน เข้าพบท่านรอซูลุลลอฮฺ จากนั้นเธอจึงกล่าวว่า
"แท้จริงดิฉันเป็นตัวแทนจากบรรดาผู้หญิงมุมินะฮฺที่อยู่เบื้องหลัง พวกนางทั้งหลายต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันและมีความเห็นเช่นเดียวกับดิฉันว่า แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงส่งท่านมานั้นเพื่อทั้งผู้ชายและผู้หญิง ดังนั้นเราจึงศรัทธาต่อท่านและปฏิบัติตามท่าน แต่ทว่าเรากลุ่มชนผู้หญิงกลับเป็นกลุ่มชนที่มีข้อจำกัดในหลายๆ อย่าง เช่น ถูกให้หันห่างจากชุมนุมชน พำนักอยู่กับบ้าน เป็นที่สนองของผู้ชาย อุ้มครรภ์ลูกๆ ของพวกเขา ในขณะที่ผู้ชายกลับได้รับสิทธิพิเศษและความประเสริฐ (อันเนื่องมาจาก) พวกเขารวมกลุ่มกันได้ ติดตามศพและญิฮาดได้ เมื่อใดที่พวกเขาออกฮิญาด (เรานี่แหละที่มีหน้าที่) รักษาดูแลสมบัติของพวกเขา อบรมลูกๆ ของพวกเขา แล้วเราจะมีส่วนร่วมรับกุศลผลบุญกับพวกเขาด้วยหรือเปล่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ท่านรอซูลุลลอฮฺ ได้หันไปยังศอฮาบะฮฺ และถามพวกเขาว่า พวกท่านเคยได้ยินคำพูดของสตรีนางใดที่ถามเกี่ยวกับศาสนาของนางจะงดงามยิ่งไปกว่าคำถามของสตรีคนนี้บ้างไหม
ศอฮาบะฮฺตอบว่า ไม่เคยครับท่านรอซูล
จากนั้นท่านรอซูลุลลอฮฺ จึงตอบว่า
“จงกลับไปเถิด โอ้อัสมาอฺ แล้วแจ้งแก่บรรดาสตรีที่อยู่เบื้องหลังเธอทราบว่า ความดีที่สตรีผู้หนึ่งกระทำต่อสามีของนาง ความพยายามที่จะให้สามีพึงพอใจ และการภักดีเชื่อฟังต่อสามีในสิ่งที่สามีเห็นชอบซึ่งเป็นการงานที่เธอกล่าวมานั้นล้วนเท่าเทียมกัน (กับอามัลความดีที่กระทำโดยผู้ชาย)”
จากนั้น อัสมาอฺจึงกลับออกไปพร้อมคำกล่าว ตะฮฺลีล (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) และตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) ด้วยความปลาบปลื้มและยินดีในคำตอบของท่านรอซูล
(อัลอิสตีอาบ โดย อิบนิ อับดิลบิรฺ มีระบุอยู่ใน “อัลอิศอบะฮฺ” : 4/233)
บทเรียนจากอัลฮะดิษ
♥ • ท่านนบี คือศูนย์รวมใจของอุมมะฮฺทั้งชายและหญิง
♥ • ในอิสลาม ผู้หญิงได้รับสิทธิในการอยู่ร่วมสังคม ร่วมประชุมปรึกษา เลือกผู้นำและตัวแทน แสดงความคิดเห็น สอบถามปัญหาอันเกี่ยวกับศาสนาของนาง
♥ • หน้าที่ส่วนหนึ่งของผู้หญิงต่อรอซูล คือ การศรัทธาต่อท่าน ปฏิบัติตามแบบอย่างของท่าน และการดำเนินชีวิตตามคำสอนของท่าน
♥ • หน้าที่ของผู้หญิงในบางส่วนของคำสอนอิสลามแตกต่างกับหน้าที่ของผู้ชาย
♥ • โดยทั่วไปแล้ว ภาระหน้าที่ของผู้ชายจะอยู่นอกบ้าน เช่น การละหมาดญะมาอะฮฺ การอยู่ร่วมสังคม การติดตามและฝังญะนาซะฮฺ การดะอฺวะฮฺและญิฮาด
♥ • บทบาทหน้าที่ของผู้หญิงโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ภายในบ้าน เช่น การปรนนิบัติสามี ดูแลรักษาทรัพย์สิน และอบรมดูแลลูกๆ
♥ • การปฏิบัติภารกิจของผู้หญิงแต่ละอย่างต้องกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ หมายถึง มุ่งแสวงหาความโปรดปรานและผลบุญจากอัลลอฮฺ
♥ • เงื่อนไขอันสำคัญยิ่งที่มุสลิมะฮฺ (ที่มีสามี) คนหนึ่งจะได้รับความสงบสุขในชีวิตคือ การแสวงหาความดีงามผ่านการเชื่อฟังสามีและสร้างความพึงพอใจแก่เขา
ที่มา: หนังสือ “ช่อบุปผชาติ แด่…สตรีมุสลิม”
แปลโดย มันศูร อับดุลลอฮฺ