บุรุษ คือผู้นำครอบครัว - ส่วนสตรี คือผู้นำของเหย้าเรือน
  จำนวนคนเข้าชม  9495

บุรุษ คือผู้นำครอบครัว - ส่วนสตรี คือผู้นำของเหย้าเรือน

 

 

เขียนโดย อบูอัดนาน อะหมัด อัลฟารีตี

 

จาก อบีฮุรอยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวว่า

 

“ลูกหลานของอาดัมทุกชีวิตคือหัวหน้า บุรุษคือหัวหน้าของครอบครัว และสตรีคือหัวหน้าของเหย้าเรือน”

 

(รายงานโดย อิบนุซุนนี รับรองศอฮีหฺ โดยอัลบานี จากศอฮีหฺ อัลญามิ อุศเศาะฆีรฺ : 4/183)


บทเรียนจากอัลฮะดิษ

 

     ♥ • มนุษย์ทุกคนถูกกำหนดบทบาทและภาระหน้าที่ให้ปฏิบัติในโลกดุนยา


     ♥ • มนุษย์ทุกคนคือหัวหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแลสมาชิกในครอบครัวให้ดำเนินบทบาทของตนเองตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺ


     ♥ • บุรุษผู้ทำหน้าที่เป็นสามีหรือพ่อ เขาคือหัวหน้าที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยภรรยาและลูกๆ


     ♥ • สตรีผู้ทำหน้าที่เป็นภรรยาหรือแม่ ถูกกำหนดบทบาทให้เป็นหัวหน้าของครัวเรือนในความหมายว่าต้องรับผิดชอบจัดการดูแลบ้าน ปรนนิบัติสามี และอบรมลูกๆ


     ♥ • ความงดงามของคำสอนอิสลามในการแบ่งสรรบทบาทหน้าที่ของมนุษย์แต่ละฝ่ายเหมาะสมตามธรรมชาติแห่งการสร้างสรรค์ และความสามารถส่วนบุคคล


     ♥ • หากมนุษย์แต่ละคนรู้จักตำแหน่งและภาระหน้าที่ของตน พร้อมกับการปฏิบัติด้วยความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ใจแล้ว แน่แท้ความผาสุกก็จะบังเกิดขึ้นในชีวิต 

 

 

หน้าที่แตกต่าง แต่ผลบุญเสมอกัน


        อัสมาอฺ บินตี ยะซีด บิน อัสสะกัน เข้าพบท่านรอซูลุลลอฮฺ จากนั้นเธอจึงกล่าวว่า

     "แท้จริงดิฉันเป็นตัวแทนจากบรรดาผู้หญิงมุมินะฮฺที่อยู่เบื้องหลัง พวกนางทั้งหลายต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันและมีความเห็นเช่นเดียวกับดิฉันว่า แท้จริงอัลลอฮฺ  ทรงส่งท่านมานั้นเพื่อทั้งผู้ชายและผู้หญิง ดังนั้นเราจึงศรัทธาต่อท่านและปฏิบัติตามท่าน แต่ทว่าเรากลุ่มชนผู้หญิงกลับเป็นกลุ่มชนที่มีข้อจำกัดในหลายๆ อย่าง เช่น ถูกให้หันห่างจากชุมนุมชน พำนักอยู่กับบ้าน เป็นที่สนองของผู้ชาย อุ้มครรภ์ลูกๆ ของพวกเขา ในขณะที่ผู้ชายกลับได้รับสิทธิพิเศษและความประเสริฐ (อันเนื่องมาจาก) พวกเขารวมกลุ่มกันได้ ติดตามศพและญิฮาดได้ เมื่อใดที่พวกเขาออกฮิญาด (เรานี่แหละที่มีหน้าที่) รักษาดูแลสมบัติของพวกเขา อบรมลูกๆ ของพวกเขา แล้วเราจะมีส่วนร่วมรับกุศลผลบุญกับพวกเขาด้วยหรือเปล่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ 

 

         เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ท่านรอซูลุลลอฮฺ  ได้หันไปยังศอฮาบะฮฺ และถามพวกเขาว่า พวกท่านเคยได้ยินคำพูดของสตรีนางใดที่ถามเกี่ยวกับศาสนาของนางจะงดงามยิ่งไปกว่าคำถามของสตรีคนนี้บ้างไหม

 

ศอฮาบะฮฺตอบว่า ไม่เคยครับท่านรอซูล 

จากนั้นท่านรอซูลุลลอฮฺ  จึงตอบว่า

 

     “จงกลับไปเถิด โอ้อัสมาอฺ แล้วแจ้งแก่บรรดาสตรีที่อยู่เบื้องหลังเธอทราบว่า ความดีที่สตรีผู้หนึ่งกระทำต่อสามีของนาง ความพยายามที่จะให้สามีพึงพอใจ และการภักดีเชื่อฟังต่อสามีในสิ่งที่สามีเห็นชอบซึ่งเป็นการงานที่เธอกล่าวมานั้นล้วนเท่าเทียมกัน (กับอามัลความดีที่กระทำโดยผู้ชาย)”

 

          จากนั้น อัสมาอฺจึงกลับออกไปพร้อมคำกล่าว ตะฮฺลีล (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) และตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) ด้วยความปลาบปลื้มและยินดีในคำตอบของท่านรอซูล 

 
(อัลอิสตีอาบ โดย อิบนิ อับดิลบิรฺ มีระบุอยู่ใน “อัลอิศอบะฮฺ” : 4/233)


บทเรียนจากอัลฮะดิษ
 

 

     ♥ • ท่านนบี  คือศูนย์รวมใจของอุมมะฮฺทั้งชายและหญิง


     ♥ • ในอิสลาม ผู้หญิงได้รับสิทธิในการอยู่ร่วมสังคม ร่วมประชุมปรึกษา เลือกผู้นำและตัวแทน แสดงความคิดเห็น สอบถามปัญหาอันเกี่ยวกับศาสนาของนาง


    ♥ • หน้าที่ส่วนหนึ่งของผู้หญิงต่อรอซูล  คือ การศรัทธาต่อท่าน ปฏิบัติตามแบบอย่างของท่าน และการดำเนินชีวิตตามคำสอนของท่าน


     ♥ • หน้าที่ของผู้หญิงในบางส่วนของคำสอนอิสลามแตกต่างกับหน้าที่ของผู้ชาย


     ♥ • โดยทั่วไปแล้ว ภาระหน้าที่ของผู้ชายจะอยู่นอกบ้าน เช่น การละหมาดญะมาอะฮฺ การอยู่ร่วมสังคม การติดตามและฝังญะนาซะฮฺ การดะอฺวะฮฺและญิฮาด


     ♥ • บทบาทหน้าที่ของผู้หญิงโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ภายในบ้าน เช่น การปรนนิบัติสามี ดูแลรักษาทรัพย์สิน และอบรมดูแลลูกๆ


     ♥ • การปฏิบัติภารกิจของผู้หญิงแต่ละอย่างต้องกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ หมายถึง มุ่งแสวงหาความโปรดปรานและผลบุญจากอัลลอฮฺ


     ♥ • เงื่อนไขอันสำคัญยิ่งที่มุสลิมะฮฺ (ที่มีสามี) คนหนึ่งจะได้รับความสงบสุขในชีวิตคือ การแสวงหาความดีงามผ่านการเชื่อฟังสามีและสร้างความพึงพอใจแก่เขา 

 

 

 

 


ที่มา: หนังสือ “ช่อบุปผชาติ แด่…สตรีมุสลิม”

 
แปลโดย มันศูร อับดุลลอฮฺ