เตรียมตัวสู่เดือนแห่งการอิบาดะฮ์
  จำนวนคนเข้าชม  9618

 

เตรียมตัวสู่เดือนแห่งการอิบาดะฮ์

โดย... อาจารย์ ญุมอัต พูลสวัสดิ์ 

 

          เหล่าศรัทธาชนผู้มีศรัทธาในเอกองค์อัลลอฮ์ ซุบฮานาฮูว่าตะอาลา ที่รักและเคารพทุกท่าน ขอความรัก ความสุขสงบสันติ ความจำเริญจาก เอกองค์อัลลอฮ์ จงประสบแด่ทุกท่าน ก่อนสิ่งใดข้าพเจ้าใคร่ขอตักเตือนตัวข้าพเจ้าเองเป็นสำคัญ และท่านพี่น้องทั้งหลาย ให้ตั้งตนอยู่บนหลักการตักวา หลักยำเกรงต่อ เอกองค์อัลลอฮ์  ยอมจำนนประพฤติปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติใช้ ละเว้นหลีกเลี่ยงอย่างห่างไกลจากบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติห้าม ซึ่งการตักวา นี้เองจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ กำกับความคิด คำพูด และการกระทำของเราให้อยู่ในหนทางของ อัลอิสลามอันเที่ยงตรงของพระองค์ ในวันที่เขาจะหวนกลับคืนสู่พระเมตตาของ เอกองค์อัลลอฮ์ 

 

          เหล่าศรัทธาชนที่รักและเคารพทุกท่าน วันนี้ของเดือนชะอฺบาน ตามปฏิทินอิสลาม อีกไม่กี่วันแล้วที่ รอมฎอน เดือนอันยิ่งใหญ่แห่งอิสลามจะย่างก้าวเข้ามา ท่านพี่น้องตระหนักแล้วหรือยังและรู้สึกตัวกันหรือไม่ คำว่า ชะอฺบาน เป็นคำเอกพจน์ คือชื่อหนึ่งในบรรดาชื่อเดือนของอิสลาม เป็นเดือนลำดับที่ 8 ตามปฏิทินอิสลาม อยู่ระหว่างเดือน เราะญับ กับเดือน เราะมะฎอน ส่วนสาเหตุที่เรียกเดือนนี้ว่า ชะอฺบาน เป็นเพราะในเดือนนี้ชาวอาหรับจะกระจัดกระจายกันออกไปหาน้ำ หรือกระจัดกระจายกันออกไปทำสงคราม หลังจากที่พวกเขาได้หยุดพักจากการทำสงครามในเดือน เราะญับ เพราะเป็นเดือน หะรอม หรือเดือนต้องห้ามทำสงคราม ชะอฺบาน คือประตูสู่เดือน เราะมะฎอน เป็นเดือนที่ใกล้เคียงกับ เราะมะฎอน มากที่สุด จึงเป็นโอกาสเดียวจะเตรียมตัวเข้าสู่เดือน เราะมะฎอน ในทุกๆ ด้าน 

 

ท่านซะละมะฮฺ อิบนุ สุฮัยล์ (บ้างว่า อิบนุ กุฮัยล์) และอุมัร อิบนุ ก็อยส์ กล่าวว่า “เดือน ชะอฺบาน คือเดือนแห่งนักอ่าน อัลกุรอาน"

 

          ท่าน อุมัร อิบนุ ก็อยส์ นั้น เมื่อ ชะอฺบาน มาเยือน ท่านจะปิดประตูบ้านเพื่อให้เวลากับการอ่าน อัลกุรอาน พวกเขาได้เตรียมตัวอย่างจริงจังในการต้อนรับเดือน เราะมะฎอน แม้จะมีเวลาอีกหนึ่งเดือนก็ตาม

        เดือน ชะอฺบาน นั้น ยังเป็นเดือนที่มีความประเสริฐและมีความโดดเด่นกว่าเดือนอื่น ๆ เดือนนี้ถือเป็นเดือนที่บรรดาอะมัล ถูกยกนำเสนอต่อเอกองค์อัลลอฮ์  เป็นเดือนที่เอกองค์อัลลอฮ์  ทรงเมตตาต่อบรรดาผู้ขอความเมตตาต่อพระองค์ เป็นเดือนที่พระองค์ทรงอภัยโทษแก่บรรดาผู้ขออภัยโทษกับพระองค์ และยังเป็นเดือนที่ เอกองค์อัลลอฮ์  ทรงปลดปล่อยปวงบ่าวของพระองค์ออกจากไฟนรก

        เหล่าศรัทธาชนที่รักและเคารพทุกท่าน สำหรับ ชะอฺบาน นั้นมีสุนัตมากมายที่เน้นให้กระทำ ซึ่งเป็นแบบฉบับอันประเสริฐจากท่าน นบีมูฮำมัด ของเราแต่สำหรับ คุตบะฮ์ วันนี้จะขอหยิบยกมาเพียงสองประการ


 

ประการที่หนึ่ง 

 

          การถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน การถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน ถือว่าเป็นสุนนะฮฺ ของท่านนบีมูฮำมัด  ที่ควรปฏิบัติตามยิ่ง เนื่องจากมีหะดีษ ที่รายงานด้วยสายรายงานที่ เศาะฮีหฺ ที่รายงานโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เล่าว่า 
 

"ฉันไม่เคยเห็นท่านนบีมูฮำมัด ถือศีลอดสมบูรณ์ในเดือนหนึ่งนอกจากเดือน รอมาฏอน

และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีมูฮำมัด จะทำการถือศีลอดจากเดือนหนึ่งมากไปว่าเดือน ชะอฺบาน" 
 

(รายงานโดยบุคอรีย์)

 

     ท่าน อุซามะฮ์ บิน เซด กล่าวว่า "ฉันได้กล่าวว่า โอ้ ท่านนบีมูฮำมัด  ฉันไม่เคยเห็นท่านทำการถือศีลอดในเดือนหนึ่งจากบรรดาเดือนทั้งหลายเหมือนกับการถือศีลอดในเดือน ชะอฺบาน เลย"

     ท่านนบีมูฮำมัด  กล่าวว่า "ดังกล่าวเป็นเดือนที่ผู้คนทั้งหลายลืม ซึ่งมันอยู่ระหว่างเดือนรอญับ และเดือนรอมาฏอน และเดือนชะอฺบาน นั้นมันเป็นเดือนที่บรรดาอะมัล ทั้งหลายถูกรายงานสู่พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ดังนั้นท่านจึงชอบที่จะให้อะมัล ของฉันถูกรายงานในสภาพที่ฉันถือศีลอด" 

(รายงานโดย อันนะซาอี)

           พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านนบีมูฮำมัด  ได้กล่าวหะดิษนี้ให้แก่เรา เพื่อผลักดันให้ทุกคนมีสายใยแห่ง อีหม่าน เกิดขึ้นระหว่างเขากับเอกองค์อัลลอฮ์  ด้วยการทำอิบาดะฮ์ เพื่อให้ทุกคนหวนกลับไปยังพระองค์โดยทำการเตาบะฮ์ จากบาปต่าง ๆ ของเขา เพื่อให้ทุกคนทุ่มเทกระทำความดีงามในทุกรูปแบบเพื่อบรรดาอะมัล  ของเขาจะถูกนำเสนอไปยังเอกองค์อัลลอฮ์  ในเดือน ชะอฺบานนี้ และหวังว่าบรรดาอะมัล คุณงามดีต่าง ๆ ที่ได้กระทำในเดือนนี้จะได้ลบล้างความชั่วต่าง ๆ ที่เราได้กระทำผ่านพ้นมา แม้จะเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาแล้วก็ตาม อินชาอัลเลาะฮ์  

          การถือศีลอดในเดือน ชะอฺบาน ถือว่าเป็นสุนนะฮฺ ของท่านนบีมูฮำมัด  แต่ประเด็นที่สำคัญประการหนึ่ง คือการเจตนาเริ่มถือศีลอดหลังจากครึ่งเดือนแรกของ ชะอฺบาน ผ่านไปแล้ว ท่านอิหม่าม อิบนุ มุลักกิน ซึ่งเป็น อุละมาอ์ ในสังกัด มัซฮับชาฟิอีย์ ได้อธิบายว่า แท้จริงเมื่อครึ่งหลังของเดือน ชะอฺบาน  มาถึง การเจตนาเริ่มถือศีลอดถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ซึ่งเป็นทัศนะของบรรดาอุละมาอ์มุหักกิกูน คือ อุละมาอ์ ผู้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆใน มัซฮับของเรา คือ มัซฮับชาฟิอีย์ ดังหะดีษที่รายงานโดย อบูฮุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านนบีมูฮำมัด  ได้กล่าวความว่า 

“เมื่อถึงครึ่งเดือนของ ชะอฺบาน จงอย่าได้ถือศีลอด“ 

(รายงานโดย อัต-ติรมิซีย์ 738 และ อบู ดาวูด 2337 ) 

          อย่างไรก็ตาม การถือศีลอดที่ถูกห้ามในข้างต้นคือกรณีที่มีเจตนาและเจาะจงว่าจะเริ่มการถือศีลอดหลังจากวันที่ 15 ของเดือน ชะอฺบาน เป็นต้นไป ส่วนกรณีที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะเริ่มถือศีลอดหลังจากวันที่ 15 ของเดือน ชะอฺบาน ดังกล่าว หรือ มันไปตรงกับวันที่ผู้ถือศีลอดได้ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ หรือเขาได้ถือศีลอดต่อเนื่องกันมาจนเข้าสู่ครึ่งที่สองของเดือน ชะอฺบาน ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุมัติ


ประการที่สอง 

          ส่วนหนึ่งจากบรรดาสุนัต ที่เน้นให้กระทำในเดือน ชะอฺบาน รวมถึงเดือนอื่นๆด้วยเช่นกัน นั่นคือการ ละหมาดญามาอะห์ ที่มัสญิด สืบเนื่องจากคุตบะห์ วันศุกร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การละหมาดเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนหนึ่งผู้ที่เค้าถูกเรียกว่าเป็นมุสลิม การละหมาด ญามาอะห์ โดยเฉพาะที่มัสญิดนั้นเป็น อิบาดะห์ อันทรงเกียรติ เพราะแท้จริงเอกองค์อัลลอฮ์  ทรงกำหนดมละหมาดญามาอะห์ มาเพื่อให้อุมมะห์ ของท่านนบีมูฮำมัด  ให้ปฏิบัติมันวันละห้าเวลา

        หากพวกเขาได้มา มัสญิด ในทุกๆห้าเวลาด้วยเหตุผลและเป้าหมายเดียวกัน เขาจะได้รู้จักกับพี่น้องมุสลิมของเขาคนอื่น ได้สร้างความอบอุ่นในสายสัมพันธ์แห่งการเป็นมุสลิมด้วยอิบาดะห์ ต่างคนต่างมาปรึกษากันซึ่งเรื่องของดุนยาและอาคิเราะห์  ได้ถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ คนในสังคมได้มารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือ และเปลี่ยนความคิดอ่าน เป็นการอำนวยของคนรวยที่มีต่อคนจน ผู้รู้ได้สอนและบอกกล่าวแก่ผู้ไม่รู้ มันเป็นภาพแห่งความอบอุ่น เป็นภาพแห่งความน่าเอ็นดูที่เด็กได้เข้าสลามผู้ใหญ่ ภาพของสามีภรรยาที่เดินจูงมือกันมาละหมาดที่มัสญิด ภาพของเด็กน้อยที่ผู้ปกครองพามามัสญิด ได้วิ่งเล่นกันจนเสียงเจี๊ยวจ๊าว มันเป็นภาพแห่งความอบอุ่น เป็นภาพเวลาทองที่ต่างคนต่างแข่งกันทำ อิบาดะห์ เป็นภาพที่มีแต่ความจำเริญ เป็นภาพแห่งความเมตตาของ เอกองค์อัลลอฮ์  ที่มีต่อบ่าวของพระองค์

 

ท่านนบีมูฮำมัด  ได้มีพระวจนะซึ่งรายงานโดย อะบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ว่า

 “การละหมาด ญะมาอะฮฺ มีผลบุญเพิ่มทวีคูณเป็นยี่สิบห้าเท่า จากการละหมาดคนเดียวที่บ้านหรือที่ร้านค้า บางรายงานอกว่า ยี่สิบเจ็ดเท่า"

         เมื่อผู้ใดอาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์ที่สุดและได้เดินไปยัง มัสญิด ซึ่งเขาผู้นั้นไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากเพื่อการละหมาด เขาจะไม่ย่างก้าวไปหนึ่งก้าวนอกจาก เอกองค์อัลลอฮ์ จะยกระดับให้เขาหนึ่งระดับชั้น และจะลบบาปของเขาหนึ่งบาปจนกว่าเขาจะเข้ามัสยิด และเมื่อได้เข้าอยู่ มัสยิด เขาจะได้รับความดีเสมือนว่าเขาอยู่ในการละหมาดจนกว่าเขาจะออกจากมัสยิด และบรรดามลาอิกะฮฺ จะขอพรแก่เขาตราบเท่าที่เขานั่งอยู่ ณ สถานที่ที่เขาทำการละหมาด บรรดามลาอิกะฮฺ จะกล่าวว่า

«اللَّهُـمَّ اغْفِرْ لَـهُ اللَّهُـمَّ ارْحَـمْهُ مَا لَـمْ يُـحْدِثْ فِيهِ».

“โอ้อัลลอฮฺ ได้โปรดให้การอภัยโทษแก่เขาผู้นี้ด้วยเถิด โอ้อัลลอฮฺได้โปรดให้ความเมตตาแก่เขาด้วยเถิด

ตราบที่เขาไม่มีหะดัษ (เสียน้ำละหมาด) ณ สถานที่ดังกล่าว”

 

จาก อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านนบีมูฮำมัด   ได้กล่าวว่า


«مَنْ غَدَا إلَى المَسْجِدِ وَرَاحَ أَعَدَّ الله لَـهُ نُزُلَـهُ مِنَ الجَنَّةِ كُلَّمَا غَدَا أَوْ رَاحَ».

“ผู้ใดที่ไปมัสยิดและกลับ เอกองค์อัลลอฮ์ จะทรงตระเตรียมที่อยู่ในสวนสวรรค์ไว้สำหรับเขา ทุกครั้งที่เขาเดินทางไปกลับจากมัสยิด” 

(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษที่ 662 และมุสลิม หะดีษที่ 669 สำนวน หะดีษ เป็นของ อัลบุคอรีย์)


          เหล่าศรัทธาชนที่รักและเคารพ ชีวิตเรา ณ ปัจจุบันในโลกดุนยานี้ เรายังมีเวลาว่างมากมายที่จะทำอิบาดะห์ ต่อเอกองค์อัลลอฮ์ เรายังได้รับเนียะมะห์ อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนียะมะห์ ในเรื่องเวลาว่างและสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ท่านนบีมูฮำมัด  ได้กล่าวว่า


نِعْمَتَانِ مَغْبُوْنٌ فِيْهِمَا كَثِيْرٌ مِنَ النَّاسِ : الصِّحَّةٌ وَالْفَرَاعُ

"ความโปรดปรานสองประการที่ผู้คนส่วนใหญ่ มักจะปล่อยปะละเลย มักจะมองข้ามมัน

นั่นก็คือการมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง และก็มีเวลาว่าง "

          หากเป็นเช่นนี้แล้ว ด้วยเวลาว่างของเราหลังจากที่ได้เสร็จสิ้นจากภาระกิจการทำงานแสวงหาริสกีในดุนยาแล้ว และด้วยกับความมีพลานามัยที่แข็งแรง จึงอยากเชิญชวนท่านทั้งหลายมาร่วมกันละหมาด ญามาอะห์ที่มัสยิด โดยเฉพาะเวลามักริบ และ อิชา เพื่อให้บ้านของเอกองค์อัลลอฮ์  หลังนี้ถูกเติมเต็มไปด้วยความดีงาม และความจำเริญอันเปี่ยมล้น


 

คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ