เตือน ฉัน เตือน ท่าน
  จำนวนคนเข้าชม  4267


เตือน ฉัน เตือน ท่าน

 

โดย อาจารย์อับดุลนาซิร อัลดุลเลาะห์

 

          บรรดาบ่าวผู้ศรัทธาทั้งหลาย กระผมขอเตือนตัวของกระผมและท่านทั้งหลายให้มีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ให้มากๆ เพราะความยำเกรงนั้น จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีงามในโลกดุนยา และได้รับความผาสุกในโลกอาคิเราะฮฺ

 

          พี่น้องมุสลิมที่รักทั้งหลาย ถ้าหากว่าเราจะมาพิจารณาดูโลกของเราในทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกอิสลาม เราจะเห็นได้ว่าพี่น้องมุสลิมของเราส่วนหนึ่ง กำลังวนเวียนอยู่กับความเสื่อมเสีย สิ่งต้องห้ามต่างๆ ในหนทางที่ไม่ใช่ทางของอิสลาม เฉยเมยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองต่ออัลลอฮฺ หลงใหลอยู่กับอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำ และความเพริศแพร้วของดุนยา จึงทำให้เขาต้องจมปลักอยู่ในทะเลบาป

     ท่านนบี มุฮัมมัด  ได้เตือนบรรดามุอฺมินให้ระวังเกี่ยวกับโลกดุนยาว่า

 

โลกดุนยานี้ มันช่างหอมหวาน และเขียวขจีเสียนี่กระไร ! ”

 

         เขาเหล่านั้น หลงลืมคำเตือนของท่านนบีมุฮัมมัด และยังละเลยต่อบทบัญญัติของศาสนา และกระทำสิ่งอันนำมาซึ่งความโกรธกริ้วของพระองค์

อัลลอฮฺ  ตรัสว่า

          “โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย อย่าให้ทรัพย์สินของพวกเจ้าและลูกหลานของพวกเจ้า หันเห พวกเจ้าจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺ และผู้ใดที่ทำเช่นนั้น ดังนั้น พวกเขาก็คือ บรรดาผู้ที่ขาดทุน

(อัลมุนาฟิกูน 63 : 9)

 

         ทำไมท่านทั้งหลาย จึงไม่เคยนึกที่จะตักเตือนซึ่งกันและกันถึงความพินาศที่จะเกิดขึ้น กับคนที่ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป เดือนแล้ว เดือนเล่า ปีแล้ว ปีเล่า หลงใหลไปกับความศิวิไลซ์ และความสวยงามของดุนยา จนทำให้เขาคิดไปว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ตลอดกาล หรือตกอยู่ในอำนาจเงินทอง ทุ่มเทความรักให้กับลูกหลาน หลงใหลทรัพย์สมบัติ จนลืมไปว่า เขาจะต้องละทิ้งมันไว้เบื้องหลังทั้งหมด

อัลลอฮฺ  ตรัสว่า 

         “และสำหรับแต่ละประชาชาตินั้น มีกำหนดเวลาเอาไว้แล้ว ครั้นเมื่อกำหนดเวลาของพวกเขาได้ มาถึง พวกเขาจะขอเลื่อนเวลาให้ล่าช้าออกไปสักชั่วโมง หรือขอเลื่อนให้เร็วเข้ามาสักชั่วโมงก็ไม่ได้

(อัลอะอฺร็อฟ 7 : 34)

 

         พี่น้องมุสลิมที่รักทั้งหลาย บุคคลใดที่มองดุนยาอย่างใคร่ครวญระมัดระวัง เขาจะเห็นความแวววาวของแก้วแหวนเงินทอง เครื่องประดับในดุนยา เป็นเสมือนฝุ่นละอองที่ปลิวว่อนอยู่กลางอากาศเท่านั้น ใครที่พิจารณาและใช้ความคิดใคร่ครวญ เขาก็จะมุ่งหน้าเก็บเกี่ยวเสบียงเพื่ออาคิเราะฮฺ การแสวงหาของเขานั้น ก็จะได้รับตามที่เขาต้องการ และได้รับการสรรเสริญยกย่อง

 

          “และผู้ใดปรารถนาอาคิเราะฮฺ และขวนขวายเพื่ออาคิเราะฮฺอย่างจริงจัง โดยที่เขาเหล่านั้นเป็น ผู้ศรัทธา ดังนั้น การขวนขวายของพวกเขาจะได้รับการชมเชย

(อัลอิสร็ออฺ 17 : 19)

อัลลอฮฺ  ตรัสว่า

          “และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ มันมิใช่อะไรอื่น นอกจากการละเล่น และความเพลิดเพลินเท่านั้น และแน่นอน สำหรับโลกอาคิเราะฮฺนั้นดียิ่งกว่าสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ?”

 

          พี่น้องมุสลิมที่รักทั้งหลาย จงยึดเอากลุ่มชนอ๊าด และซะมู๊ดมาเป็นบทเรียนสอนใจสำหรับพวกท่าน พวกเขาดื้อดึงต่อพระองค์ พระองค์จึงทรงลงโทษพวกเขา

 

          “และบรรดาผู้ละเมิด ตามหัวเมืองต่างๆ และก่อความเสียหายอย่างมากมายในหัวเมืองเหล่านั้น ดังนั้น พระเจ้าของเจ้าจึงกระหน่ำการลงโทษนานาชนิดบนพวกเขา แท้จริง พระเจ้าของเจ้านั้น ทรงเฝ้ามองดูอย่างแน่นอน 

(อัลฟัจญร์ 89 : 11-14)

 

         “ดังนั้น นั่นคือ บ้านของพวกเขาที่ว่างเปล่า ทั้งนี้ เพราะพวกเขาได้ก่ออธรรม (ปฏิเสธศรัทธา) แท้จริง ในการนี้ ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน สำหรับหมู่ชนที่รับรู้ถึงเดชานุภาพของอัลลอฮฺ เพื่อพวกเขาจะได้ใคร่ครวญ

(อันนัมล์ 27 : 52)

 

พี่น้องมุสลิมที่รักทั้งหลาย  

     บรรดาผู้ที่ออกห่างไกลจากสิ่งสกปรก โสมม บาปใหญ่ต่างๆ ทั้งทางลับและทางเปิดเผยไปอยู่ที่ไหนกันเล่า?

     บรรดาผู้ที่เคารพสักการะต่ออัลลอฮฺอย่างบริสุทธิ์ใจ ทั้งกลางวันและกลางคืน

     บรรดาผู้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาดในเวลาที่กำหนดโดยพร้อมเพรียงกันในมัสยิด เพื่อหวังการตอบแทนและความเมตตาจากพระองค์ไปอยู่ที่ไหนกันเล่า?

     บรรดาผู้ที่งีบหลับแต่เพียงเล็กน้อยในเวลากลางคืน เพื่ออิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺจนใกล้รุ่งสาง พวกเขาขออภัยโทษต่อพระองค์ไปอยู่ที่ไหนกันเล่า?

     บรรดาคนเหล่านี้ ไปไหนกันหมดแล้ว?

     หรือว่าได้ล้มหายตายจากโลกนี้ไปแล้ว เหลือไว้แต่บรรดา ผู้ละเลยต่อหน้าที่ ละทิ้ง ละหมาด ดำเนินรอยตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ ไม่ใส่ใจวันศุกร์ไม่เอากลุ่มชนกระทำความชั่วทุกรูปแบบ ละทิ้งคำสอนของศาสนา จนทำให้พวกเขาตกต่ำ จนตกไปอยู่ในสภาพที่เลวร้ายที่สุด ที่อัลลอฮฺ 

 

อัลลอฮฺ จึงตรัสกับพวกนี้ว่า

          “และแน่นอน เราจะให้เขาได้ลิ้มรสการลงโทษอันต่ำช้าในโลกนี้ ก่อนการลงโทษอันยิ่งใหญ่ (ใน อาคิเราะฮฺ) เพื่อว่าพวกเขาจะกลับมาสำนึกผิด

 

          พี่น้องมุสลิมที่รักทั้งหลาย จงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด และจงออกห่างไกลจากความชั่วช้าทั้งปวง ก่อนที่ท่านทั้งหลาย จะต้องเสียใจในการกระทำของพวกท่าน และจงสะสมความดีให้มากๆ แท้จริง อัลลอฮฺไม่ทรงให้รางวัลสูญหายไปจากผู้กระทำความดี 

อัลลอฮฺ  ตรัสว่า

          “และพวกเจ้าจงอาศัยความอดทน และการละหมาดเถิด และแท้จริง การละหมาดนั้น เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ นอกจากบรรดาผู้นอบน้อมถ่อมตนเท่านั้น

 (อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 : 45)

         คือ บรรดาผู้ที่คาดคิดว่า แน่นอนพวกเขา จะได้พบกับพระเจ้าของเขา และแน่นอน พวกเขาจะต้องกลับไปยังพระองค์ ดังนั้น จึงจำเป็นที่ท่านทั้งหลาย จะต้องรีบเร่งไปสู่อาณาจักรแห่งความพอพระทัยของพระองค์ ซึ่งมันกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน ก่อนที่มันจะปิดตัวลง หากถึงเวลานั้นแล้ว เราคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

 

         ท่านอบีบัรซะฮฺ ได้กล่าวว่า ท่านนบี ได้กล่าวว่า

เท้าทั้งสองของบ่าว จะยังคงไม่ขยับเขยื่อนไปไหน จนกว่าจะถูกถามถึง

อายุของเขาว่า เขาใช้ไปทางไหน?

และวิชาความรู้ของเขาว่า เขาทำอะไรบ้าง

และทรัพย์สินของเขาว่า ได้มาจากไหน? และใช้ไปในทางใด?

และร่างกายของเขาว่า เขาได้ทำอย่างไรจนกระทั่งแก่เฒ่า

(บันทึกโดย อัตติรมิซีย์)

 

          ดังนั้น เราจงสังวรอยู่เสมอว่า เราคือ บ่าวของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์ทรงอำนาจเด็ดขาดในโลกนี้ และในโลกอาคิเราะฮ์ จึงจำเป็นที่เราจะต้องกตัญญูต่อพระองค์ และกระทำการงานที่ซอและฮฺ เพื่อประโยชน์ของเราเองในวันข้างหน้า ผมอยากให้ท่านทั้งหลายพิจารณา อายะฮฺอันยิ่งใหญ่นี้

อัลลอฮฺ  ตรัสว่า 

และผู้ใดที่เกรงกลัวอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะให้เขามีทางออก 

(อัฏฏ็อล๊าก 65 : 2)

     “ผู้ใดที่เกรงกลัวอัลลอฮฺประโยคนี้คือ เงื่อนไขว่า ถ้าหากมีการเกรงกลัวอัลลอฮฺ

 

     “พระองค์ก็จะให้เขามีทางออกประโยคนี้คือ ผลลัพธ์ที่จะตามมา เมื่อมีการปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาของอัลลอฮฺว่า จะทำให้ผู้ที่ยำเกรงนั้นได้พบกับทางออก เมื่อมีภาวะคับขันเกิดขึ้นกับเขา

 

          ดังนั้น จงปฏิบัติตามเงื่อนไขของพระองค์อย่างเคร่งครัดแล้วท่าน คือ ผู้ที่สมควรได้รับสัญญานี้อย่างสมบูรณ์

          ไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตาม จะมีตำแหน่งอะไรก็ตาม พึงระลึกอยู่เสมอว่า แม้วันนี้ เราจะเด่นดัง เราเป็นผู้ที่บุคคลในสังคมรู้จัก แต่พรุ่งนี้ เราก็ต้องถูกฝัง ดินก็ต้องกลบหน้าเราเหมือนๆ กันคนอื่นๆ

 

          เราให้ความสำคัญกับตำแหน่งหน้าที่การงานในสังคม ชื่อเสียงมามากเหลือเกินแล้วในโลกดุนยานี้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งผู้ปกครอง ผู้ว่า ดอกเตอร์ ผู้ชำนาญการ วิศวกร ครู อาจารย์ แต่เรากลับลืมเตรียมตำแหน่ง ชื่อเสียงที่จะถูกเรียกในวันอาคิเราะฮฺว่าบรรดาผู้ถือศีลอด บรรดาผู้ดำรงการละหมาด บรรดาผู้บริจาค บรรดาผู้รุกุ๊อฺ บรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างสม่ำเสมอ

 

ดังนั้น ท่านทั้งหลาย จงคิดถึงดำรัสของอัลลอฮฺ  ให้มากๆ พระองค์ตรัสว่า

อนิจจา ฉันน่าจะทำอะไรไว้ให้กับชีวิตของฉันบ้าง ก็คงจะดีหรอก

 

ท่านพี่น้องที่รัก ขอให้ท่านได้หมั่นวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺในดุอาอฺสามบทนี้เถิด

ข้าแต่อัลลอฮฺ แท้จริง ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้ได้จบชีวิตลงด้วยดีด้วยเถิด

ข้าแต่อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงรับการสารภาพผิด กลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์

ก่อนที่ข้าพระองค์จะสิ้นชีวิตด้วยเถิด

ข้าแต่อัลลอฮฺ พระผู้ทรงทำให้หัวใจของข้าพระองค์ ยืนหยัด ยึดมั่นอยู่กับศาสนาของพระองค์ด้วยเถิด

 

 

วารสาร มุสลิม กทม.