7 ประการ หน้าที่ของมุสลิมต่อคำบัญชาของอัลลอฮฺ
  จำนวนคนเข้าชม  6049


7 ประการ หน้าที่ของมุสลิมต่อคำบัญชาของอัลลอฮฺ

 

โดย อาจารย์อัลดุลนาซิร อับดุลเลาะห์

 

          พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺให้มากๆ ผู้ใดที่ยำเกรงพระองค์ เขาก็จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากพระองค์ และได้รับการชี้นำสู่ความดีงามทั้งดุนยา และอาคิเราะฮฺ

 

          ผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลายเป็นที่ทราบกันดีว่า อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งไม่ได้ทรงสร้างเรามาโดยไร้จุดหมาย และไม่ได้ทรงให้เราเกิดขึ้นมาโดยไร้ทางนำที่จะดำเนินไป พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากเรื่องไร้สาระต่างๆ โดยสิ้นเชิง และพวกเราให้ความศักดิ์สิทธิ์ ให้ความบริสุทธิ์ต่อพระองค์ในเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ทว่าพระองค์ทรงสร้างเรามาโดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่จากสัจธรรม สู่สัจธรรม โดยพระองค์ตรัสว่า

 

“(อัลลอฮฺ) คือ ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินมาโดยความจริง พระองค์ทรงสูงเกินกว่าสิ่งที่พวก มุชริกีนนำมาตั้งเป็นภาคี

(อันนะฮ์ลฺ 3 : 16)

 

         อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงกล่าวถึงผู้มีสติปัญญา ผู้มีความรู้ว่า พวกเขาได้กล่าวแสดงความบริสุทธิ์ต่อพระองค์ว่า

 

          “บรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺทุกๆ อิริยาบถ ในขณะนั่งหรือนอนตะแคง พวกเขาพิจารณาถึงการสร้างฟ้าและแผ่นดิน แล้วจึงได้กล่าวออกมาว่า โอ้ พระเจ้าของเรา พระองค์มิได้ทรงสร้างสิ่งเหล่านี้มาอย่างไร้เป้าหมาย มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน ได้โปรดปกป้องพวกเราให้พ้นไฟนรกด้วยเถิด

(อะลาอิมรอน 3 : 191)

 

          “และเรามิได้สร้างชั้นฟ้า สร้างแผ่นดินนี้ขึ้นมาเล่นๆ โดยเปล่าประโยชน์ (แต่ทรงสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงความสามารถของเรา และเพื่อประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง)

 

          “ถ้าสมมุติว่าเรา ต้องการจะเอาสิ่งหนึ่งมาเป็นเครื่องเล่นสนุกสนานละก็ เราคงจะเอาจากสิ่งที่ใกล้กับเรา เช่น มลาอิกะฮฺก็ได้ (ไม่จำเป็นต้องมีคู่ครองหรือมีบุตร อย่างที่พวกยะฮูดี นัศรอนีอ้างไว้) นี่ถ้าหากเราจะทำเช่นนั้น

(อัลอัมบิยาอฺ 21 : 16-17)

 

และในวันฟื้นคืนชีพ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะตรัสกับบรรดาชาวนรกด้วยความเย้ยหยันว่า

 

          “พวกเจ้าคิดหรือว่า เราบังเกิดพวกเจ้าขึ้นมาเล่นๆ โดยไร้เป้าหมาย? แล้วพวกเจ้าจะไม่กลับมาหาเราผู้ทรงสูงส่ง (ในกิยามะฮฺ) กระนั้นหรือ?”

          “พระองค์อัลลอฮฺ ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงสัจจะ ทรงสูงส่งเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์เท่านั้น เป็นพระเจ้าแห่งอะรัช อันทรงเกียรติ

(อัลมุอฺมินูน 23 : 115-16)

 

          และพระองค์ทรงกล่าวให้เราได้สำนึกถึงบุญคุณ ในการที่พระองค์ทรงสร้างเราท่านทั้งหลายมาจากก้อนเลือด ต่อมาเป็นก้อนเนื้อ จนกระทั่งกลายมาเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยขึ้นตอนต่างๆ นี้ พระองค์ก็ทรงกล่าวว่า


มนุษย์คิดหรือว่า เขาจะถูกปล่อยไว้เฉยๆ โดยไม่มีข้อบัญญัติให้ปฏิบัติตน ไม่มีการชำระบาปบุญคุณโทษกระนั้นหรือ?

 

(อัลกิยามะฮฺ 75 : 36)

 

          มนุษย์คิดหรือว่า เขาจะถูกปล่อยไว้โดยไร้จุดหมายกระนั้นหรือ? (คือ ไม่กลับไปยังพระองค์ ไม่มีการฟื้นคืนชีพ ไม่มีการลงโทษหรือการตอบแทนใดๆ หรือ) อัลลอฮฺ ทรงให้เราเกิดมาโลกดุนยา พร้อมทั้งบัญญัติ คำสั่งใช้ คำสั่งห้ามของพระองค์มาด้วยตามที่เราทราบกันดีแล้ว ในวันกิยามะฮฺ พระองค์ก็จะทรงคิดบัญชีตามผลงานของแต่ละคนที่ได้กระทำไว้ในดุนยา

 

          พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย หากมุสลิมพิจารณาถึงข้อเท็จจริงอันยิ่งใหญ่และสูงส่งอันนี้แล้ว มันก็จะเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่าแล้วอะไรคือหน้าที่ที่จำเป็นที่เราควรปฏิบัติ เพราะเราถูกบังเกิดมาเพื่อเชื่อฟังภักดีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ?”

 

          บรรดานักวิชาการทั้งหลาย (ขอพระองค์ทรงเมตตาพวกเขาด้วยเถิด) ได้กล่าวว่า หน้าที่จำเป็นสำหรับมุสลิมต่อคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺนั้น สามารถแบ่งออกเป็นเจ็ดหมวดหมู่ ซึ่งรวมอยู่ในการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียว การละหมาด การถือศีลอด การทำฮัจญ์ การบริจาคทาน การทำความดี และอื่นๆ จากนี้ที่แสดงออกถึงการเชื่อฟัง ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ คำสั่งห้ามตามที่ปรากฏอยู่ในตัวบทอัลกุรอาน และฮะดิษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

 

หน้าที่ประการที่หนึ่ง 

 

          คือ เราต้องศึกษาคำสั่งใช้ของพระองค์ จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ มีตัวบทจาก อัลกุรอาน และฮะดิษมากมายที่มาสนับสนุนส่งเสริม ให้ศึกษาเรียนรู้และอธิบายถึงความประเสริฐ และความยิ่งใหญ่ของผู้ที่ดำเนินอยู่ในหนทางการศึกษานี้ 

ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

ผู้ใดที่ยึดแนวทาหนึ่งเพื่อแสวงหาความรู้ อัลลอฮฺจะทรงให้ทางสะดวกแก่เขาสู่สวรรค์

(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)

 

หน้าที่ประการที่สอง 

 

          เราต้องรักชอบในคำบัญชาของพระองค์ เพราะคำบัญชาของพระองค์นั้น ล้วนแต่จะนำพาเราสู่ ความดีงามและความสำเร็จทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ และทำให้ห่างไกลจากความชั่ว ความเลวทรามของโลกดุนยา ดังนั้น เราต้องน้อมรับคำบัญชาของพระองค์ด้วยหัวใจที่นอบน้อม 

          ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงสอนคำวิงวอนที่มีผลต่อจิตใจให้กับพวกเรา โดยกล่าวว่า

     “โอ้ อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ ขอให้ได้รักพระองค์ ได้รักผู้ที่รักพระองค์ และรักการงานที่จะทำให้ข้าพระองค์ใกล้ชิดการรักพระองค์ด้วยเถิด

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้เตือนสติบรรดาผู้ศรัทธาว่า อย่าได้ให้หัวใจของเรานั้นมีความโกรธเคือง หรือมีอคติต่อคำบัญชีของพระองค์เป็นอันขาด

ทั้งนี้ เพราะว่า พวกเขาเกลียดชังสิ่งที่อัลลอฮฺประทานลงมา พระองค์จึงทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล

(มุฮัมมัด 47 : 9)

 

หน้าที่ประการที่สาม 

 

          เราต้องตั้งใจแน่วแน่ในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา ที่มีต่อคำบัญชาของพระองค์ เป็นการขับเคลื่อนจากหัวใจมุ่งสู่การกระทำความดีด้วยแรงปรารถนา ใส่ใจในการทำความดีเพื่อพระองค์ ดังคำวิงวอนของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า

โอ้ อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ ขอต่อพระองค์ให้มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการชี้นำสู่หนทางอันเที่ยงตรงด้วยเถิด

 

          เมื่อท่านได้รับรู้ถึงคำบัญชาอันเที่ยงตรง คำบัญชาล้วนแต่มีประโยชน์ คำบัญชาที่นำไปสู่ความดีงาม นำไปสู่ความสำเร็จ และการดำเนินชีวิตที่เที่ยงตรงแล้ว ดังนั้น จงตั้งใจปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ ด้วยหัวใจที่ปรารถนา พร้อมปฏิบัติโดยไม่มีข้อสงสัยคลางแคลงใจใดๆ

 

หน้าที่ประการที่สี่ 

 

          เราคือบ่าวของอัลลอฮฺ และบ่าวที่ดีนั้น ก็ควรที่จะต้องเชื่อฟังผู้เป็นนาย ด้วยการปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ ในเรื่องนี้ท่านนบีมุฮัมมัดของเราได้ทำแบบอย่างที่ดีไว้ให้พวกเรา โดยท่านจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺในทุกๆ เช้าหลังละหมาดศุบฮฺ ว่า

โอ้ อัลลออฺ แท้จริง ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้ได้รับความรู้ที่ยังประโยชน์ ได้รับริสกีย์ที่ดีงาม

และการทำงานที่ได้รับการตอบรับด้วยเถิด

 

หน้าที่ประการที่ห้า 

 

          การงานที่กระทำนั้น จะต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และถูกต้อง คือ งานที่ปฏิบัติต้องเพื่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น และถูกต้องตามแนวทางของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพราะ อัลลอฮฺจะไม่ทรงรับการงานที่ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ และเปรอะเปื้อน 

อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

เพื่อที่พระองค์จะทรงทดสอบพวกเจ้าว่า ใครจะทำดีมากที่สุดกว่ากัน

(ฮูด 11 : 7) 

          ท่านฟุฎ็อยล์ อิบนิ อิย๊าฎ กล่าวว่า แท้จริง การงานนั้นถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ไร้ความถูกต้อง การงานนั้นก็ไม่ถูกตอบรับ หรือหากมีความถูกต้อง แต่ไร้ความบริสุทธิ์ใจก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้น การงานนั้น จะต้องมีทั้งความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺ และถูกต้องตามหลักการศาสนาไปพร้อมๆ กัน

 

หน้าที่ประการที่หก 

 

          ให้ระวังการงานที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และถูกระงับผลบุญ ในข้อนี้ ได้มีการชี้แจงไว้มากมายจากกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เช่น การโอ้อวด การกลับกลอก ทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์ในโลกดุนยา เพื่อชื่อเสียงและคำสรรเสริญ คำเยินยอ สิ่งดังกล่าวนี้ ล้วนนำพาสู่ความเสียหายและถูกระงับผลบุญ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

เพราะเกรงว่า การงานงานของพวกเจ้าจะสูญเปล่าไป โดยที่พวกเจ้าไม่รู้สึกตัว

(อัลฮุญุร็อต 49 : 2)

 

หน้าที่ประการที่เจ็ด 

 

          สำหรับมุอฺมินจะต้องยืนหยัดมั่นอย่างมั่นคง ในการปฏิบัติตามคำบัญชาใช้ของพระองค์อย่างสม่ำเสมอ เขาจะต้องยืนหยัดต่อสู้กับจิตใจของเขา ต่อสู้กับสังคมสิ่งแวดล้อม ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นทำความดี และหมั่นวิงวอนขอต่อพระองค์อย่างสม่ำเสมอ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

         “ผู้ศรัทธาต่างขอพรว่าโอ้ พระเจ้าของเรา โปรดอย่าให้หัวใจของเราหลง หลังจากที่พระองค์ประทานความถูกต้องแก่เราแล้ว ได้โปรดประทานเมตตาของพระองค์แก่เราด้วยเถิด เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงให้อย่างเหลือล้น

(อาละอิมรอน 3 : 8)

 

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

         นี่คือเจ็ดประการที่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญยิ่ง ที่พวกเราผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ สมควรต้องน้อมรับและปฏิบัติตามด้วยจิตใจที่นอบน้อม และเกรงกลัวต่อเดชานุภาพของพระองค์ และจะต้องตั้งใจอย่างแน่วแน่มั่นคงในการปฏิบัติงาน และที่จะหลงลืมไม่ได้เลยคือ การงานนั้น ต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น และต้องถูกต้องตรงตามหลักศานาที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้นำมา และจงระวังเรื่องอุตริต่างๆ เพราะมันจะทำให้ผลบุญของเราต้องบกพร่องลง ถูกระงับ ถูกตีกลับไปในที่สุด

 

          ท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ทรงให้เราท่าน มั่นคงอยู่ในคำชะฮาดะฮฺ ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ และทรงนำพวกเราสู่หนทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด

 

 

 

อนุสรณ์ งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร