สิบความดี แด่ผู้ที่รักษา ละหมาดศุบฮี
  จำนวนคนเข้าชม  3684


สิบความดี แด่ผู้ที่รักษา ละหมาดศุบฮี

 

เรียบเรียง อับดุลวาเอด สุคนธา

 

1. รัศมีในวันกียามะฮ์

รายงานจากท่าน บูรอยดะ อัลอัสลามีย์ จากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

بَشِّرِ الْمَشَّائِينَ فِي الظُّلَمِ إِلَى الْمَسَاجِدِ ، بِالنُّورِ التَّامِّ يَوْمَ الْقِيَامَةِ

แจ้งข่าวดีสำหรับบุคคลที่เดินไปยังมัสยิดในยามค่ำคืน เขาจะมีรัศมีในวันกียามะฮ์อย่างสมบูรณ์

( อบูดาวูด ซอเอี้ยะอันบานีย์)

ใครไม่เดินไปละหมาดศุบฮี สำหรับเขานั้นจะไม่มีแสงสว่างในวันกียามะฮ์แน่นอน

คนรักษาเวลาละหมาดศุบฮี เขาบุคคลได้รับความดี ใครไม่รักษาเวลานี้ เขาคือบุคคลที่ถูกคาดโทษ

 

2. สิ่งที่ดีกว่าบนโลกนี้

รายงานท่านหญิง อาอีซะ กล่าวว่า จากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

" رَكْعَتَا الْفَجْرِ خَيْرٌ مِنَ الدُّنْيَا وَمَا فِيهَا "

สองร็อกก่อนละหมาดศุบฮี ดีกว่าสิ่งที่มีอยู่บนโลกนี้

( มุสลิม)

ละหมาดซุนนะสองร็อกอะ ก่อนละหมาดศุบฮี

 

3. เก็บเกี่ยวความดี เดินไปยังมัสยิด รอคอยเวลาละหมาด

รายงานท่านอักบะ อิบนุ อามิร กล่าวว่า ท่านนบี จากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

مَنْ خَرَجَ مِنْ بَيْتِهِ إِلَى الْمَسْجِدِ كُتِبَ لَهُ بِكُلِّ خُطْوَةٍ يَخْطُوهَا عَشْرُ حَسَنَاتٍ ، وَالْقَاعِدُ فِي الْمَسْجِد يَنْتَظِرُ الصَّلاَةَ كَالْقَانِتِ ، وَيُكْتَبُ مِنَ الْمُصَلِّينَ ، حَتَّى يَرْجِعَ إِلَى بَيْتِهِ "

           “ใครออกจากบ้านของเขาไปยังมัสยิด ทุกๆก้าวจะถูกบันทึกถึง สิบความดี และ ใครนั่งรอละหมาดที่มัสยิด ได้ภาคผลเท่ากับคนยืนขอดุอากูนูต และเขาถูกบันทึกคนที่อยู่ในการละหมาด จนกระทั่งเขากลับไปยังบ้านของเขา

(อะหมัด)

รายงานท่านหญิง อาอีซะ กล่าวว่า จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

إِنَّ أَحَدَكُمْ مَا قَعَدَ يَنْتَظِرُ الصَّلاَةَ فِي صَلاَةٍ مَا لَمْ يُحْدِثْ ، تَدْعُو لَهُ الْمَلاَئِكَةُ : اللَّهُمَّ اغْفِرْ لَهُ ، اللَّهُمَّ ارْحَمْهُ

          “แท้จริง คนหนึ่งคนใด นั่งรอคอยเวลาละหมาด เวลาหนึ่งไปยังอีกเวลาหนึ่งโดยไม่เสียน้ำละหมาดมาลาอิกะฮ์ขอดุอาให้แก่เขา โดยวิงวอน ว่า โอ้อัลลอฮฺ ทรงโปรดอภัยโทษแก่เขา โอ้อัลลอฮฺทรงโปรดเมตตาแก่เขาด้วย

( อะหมัด)

 

4. บรรดามาลาอิกะฮ์ช่วยเป็นพยาน

{ أَقِمِ الصَّلاَةَ لِدُلُوكِ الشَّمْسِ إِلَى غَسَقِ اللَّيْلِ وَقُرْآنَ الْفَجْرِ إِنَّ قُرْآنَ الْفَجْرِ كَانَ مَشْهُوداً } الإسراء78 .

จงดำรงการละหมาดไว้ตั้งแต่ตะวันคล้อยจนพลบค่ำ และการอ่านยามรุ่งอรุณ 

แท้จริงการอ่านยามรุ่งอรุณนั้นเป็นพยานยืนยันเสมอ

ใครที่ขาดละหมาดศุบฮี บรรดามาลาอิกะไม่เป็นพยานแก่เขา

ใครขาดละหมาด จะถูกบันทึกเป็นคนหนึ่งที่หลงลืม

รายงานท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ กล่าวว่า  ได้ยินจาก ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

تَجْتَمِعُ مَلاَئِكَةُ اللَّيْلِ وَمَلاَئِكَةُ النَّهَارِ فِي صَلاَةِ الْفَجْرِ " ، ثُمَّ يَقُولُ أَبُو هُرَيْرَةَ : فَاقْرَءُوا إِنْ شِئْتُمْ : { إِنَّ قُرْآنَ الْفَجْرِ كَانَ مَشْهُوداً }

บรรดามาลาอิกะฮ์กลางคืนและกลางวันรวมตัวในเวลาละหมาดศุบฮี

ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์กล่าวต่อมาว่าพวกท่านทั้งหลายจงอ่าน หากพวกท่านปราถนา แท้จริงการอ่านยามรุ่งอรุณนั้นเป็นพยานยืนยันเสมอ

(บุคคอรีย์ มุสลิม)


5. เข้าสวนสวรรค์รอดพ้นไฟนรก

ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

" لَنْ يَلِجَ النَّارَ أَحَدٌ صَلَّى قَبْلَ طُلُوعِ الشَّمْسِ وَقَبْلَ غُرُوبِهَا " يَعْنِى الْفَجْرَ وَالْعَصْرَ "

ไฟนรกจะไม่เผาไหม้บ่าวที่ละหมาดก่อนดวงตะวันขึ้นและดวงตะวันตก

( มุสลิม)

ใครก็ตามขาดละหมาดศุบฮีและอัสรี ท่านนบีจะไม่รับประกันว่าเขานั้นรอดพ้นจากไฟนรก

( มุสลิม)

รายงานท่าน มูซา อัลอัสอารีย์ จากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

" مَنْ صَلَّى الْبَرْدَيْنِ دَخَلَ الْجَنَّةَ

บุคคลใดที่ละหมาดในเวลาที่เยือกเย็นทั้งสอง (ละมาดฟัจญ์รฺและละหมาดอัศรฺ) เขาผู้นั้นจะได้เข้าสวนสวรรค์” 

(บุคคอรีย์ และ มุสลิม)

 

6. มองเห็นอัลลอฮ์

          การดำรงรักษาไว้ซึ่งละหมาดฟัจญ์รฺและละหมาดอัศรฺ ท่านญะรีรฺ บิน อับดิลลาฮฺ เล่าว่า ขณะที่เรานั่งอยู่กับท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในคืนจันทร์เต็มดวง ท่านก็มองไปยังดวงจันทร์ แล้วกล่าวว่า

«أَمَا إِنَّكُمْ سَتَرَوْنَ رَبَّكُمْ كَمَا تَرَوْنَ هَذَا، لاَ تُضَامُّونَ فِى رُؤْيَتِهِ، فَإِنِ اسْتَطَعْتُمْ أَنْ لاَ تُغْلَبُوا عَلَى صَلاَةٍ قَبْلَ طُلُوعِ الشَّمْسِ وَقَبْلَ غُرُوبِهَا فَافْعَلُوا» يَعْنِى الْعَصْرَ وَالْفَجْرَ .

"แน่นอนว่าพวกท่านจะได้เห็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกท่าน เฉกเช่นกับที่พวกท่านมองเห็นดวงจันทร์นี้ โดยที่พวกท่านจะไม่ประสบปัญหาหรือความยากลำบากใดๆ ในการมองเห็นพระองค์ ดังนั้น หากว่าพวกท่านสามารถที่จะไม่พลาดการละหมาดก่อนตะวันขึ้น และก่อนตะวันตกดินได้ก็จงอย่าพลาดเถิด" หมายถึงละหมาดฟัจญ์รฺและละหมาดอัศรฺ

แล้วท่านญะรีรฺก็อ่านอายะฮฺที่ว่า

﴿ وَسَبِّحۡ بِحَمۡدِ رَبِّكَ قَبۡلَ طُلُوعِ ٱلشَّمۡسِ وَقَبۡلَ غُرُوبِهَاۖ [طه : 130]

 "และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันลับลงไป" (ฏอฮา: 130)

(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ และมุสลิม)

          ท่านฮาฟิซ อิบนุ ฮาญัรกล่าวว่า สิ่งคล้ายกันในเรื่องนี้ สองการละหมาดทำให้บ่าวได้มองเห็นอัลลอฮฺ เพราะว่าการละหมาดเป็นสุดยอดของบรรดาอิบาดะทั้งหลาย เป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่บรรดามาลาอิกะฮ์รวมตัวกันและเป็นเวลาที่การงานทั้งหมดจะถูกยกไปยังฟากฟ้าสิ่งที่เหมาะสมแล้ว บ่าวนั้นจะมองเห็นอัลลอฮฺ ในวันกียามะฮ์  ฉะนั้นพยามรักษาเวลาละหมาดทั้งห้าเวลาโดยเฉพาะเวลาศุบฮีกับอัสรีย์

 

7. ผลบุญลุกขึ้นในยามค่ำคืน

จากอุสมาน บิน อัฟฟาน เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า

«مَنْ صَلَّى العِشَاءَ فِي جَـمَاعَةٍ فَكَأَنَّمَا قَامَ نِصْفَ اللَّيْلِ، وَمَنْ صَلَّى الصُّبْـحَ فِي جَـمَاعَةٍ فَـكَـأَنَّـمَـا صَلَّى الَّليلَ كُلَّهُ».

           “ผู้ใดที่ละหมาดอิชาอ์ร่วมกัน(ญะมาอะฮฺ)เสมือนหนึ่งว่าเขาผู้นั้นได้ทำการละหมาดครึ่งหนึ่งของคืน และผู้ใดที่ละหมาดศุบหฺร่วมกันก็เสมือนหนึ่งเขาผู้นั้นได้ละหมาดตลอดทั้งคืน

 (บันทึกโดยมุสลิม)

 

8. ดุอาของบรรดามาลาอิกะฮฺ

จากท่านอาลี บินอาบี ตอเล็บ ฉันได้ยินท่านรอซูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า

مَنْ صَلَّى الْفَجْرَ ثُمَّ جَلَسَ فِي مُصَلاَّهُ ، صَلَّتْ عَلَيْهِ الْمَلاَئِكَةُ ، وَصَلاَتُهُمْ عَلَيْهِ : اللَّهُمَّ اغْفِرْ لَهُ ، اللَّهُمَّ ارْحَمْهُ

          “ใครเขาละหมาดศุบฮี ต่อมานั่งรอในที่ละหมาด แน่นอนบรรดามาลาอิกะฮ์จะกล่าวสรรเสริญแก่เขาโดยวิงวอน ว่า โอ้อัลลอฮฺ ทรงโปรดอภัยโทษแก่เขา โอ้อัลลอฮฺทรงโปรดเมตตาแก่เขาด้วย

( อะหมัด)

 

9. ผลบุญเท่ากับการทำอุมเราะห์และฮัจญ์

จากท่านอนัส บิน มาลิก ท่านรอซูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า

" مَنْ صَلَّى الْغَدَاةَ _ الفجر _ فِي جَمَاعَةٍ ، ثُمَّ قَعَدَ يَذْكُرُ اللَّهَ حَتَّى تَطْلُعَ الشَّمْسُ ، ثُمَّ صَلَّى رَكْعَتَيْنِ ، كَانَتْ لَهُ كَأَجْرِ حَجَّةٍ وَعُمْرَةٍ تَامَّةٍ تَامَّةٍ تَامَّةٍ "

           “ใครที่ละหมาดศุบฮีร่วมกับญามาอะ ต่อมานั่งรำลึกถึงอัลลอฮฺจนกระทั่ง ดวงตะวันขึ้น แล้ว เขาทำละหมาดสองร็อกอะ เขาจะได้รับภาคผลเท่ากับการทำฮัจญ์และอุมเราะห์ แบบสมบูรณ์ กล่าวแบบนี้ สามครั้ง

( ติรมีซีย์)

 

10. รับการคุ้มครองจากอัลลอฮฺ

จากท่านญุด บิน อับดุลลอฮฺ ท่านรอซูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า

مَنْ صَلَّى صَلاَةَ الصُّبْحِ فَهْوَ فِي ذِمَّةِ اللَّهِ

ใครละหมาดศุบฮี เขาคนนั้นจะได้รับการคุ้มครองจากอัลลอฮฺ

( มุสลิม)

          อัลลอฮุอักบัร พวกท่านเห็นไม่ว่า นี้คือภาคผลอันมากมายสำหรับคนที่รักษาเวลาละหมาด ศุบฮี จงเร่งรีบและฉกฉวยโอกาส เพื่อรับความดีตรงนี้