มุสลิมกับหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม
  จำนวนคนเข้าชม  3930


มุสลิมกับหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม

 

โดย... อาจารย์ซัยนุ้ลอาบีดีน หวังภักดี 

 

قال تعالى : { وَإِذْ قاَلَ رَبُّكَ لِلْمَلاَئِكَةِ إِنِّيْ جَاعِلٌ فِي اْلأَرْضِ خَلِيْفَةً قَالُوْا أَتَجْعَلُ فِيْهَا مَنْ يُفْسِدُ فِيْهَا وَيَسْفِكُ الدِّمآَءَ وَنَحْنُ نُسَبِّحُ بِحَمْدِكَ وَنُقَدِّسُ لَكَ قَالَ إِنِّيْ أَعْلَمُ مَا لاَ تَعْلَمُوْنَ }

 

     "เมื่อพระผู้เป็นเจ้าของท่าน กล่าวแก่บรรดามาลีกะห์ว่า เราจะแต่งตั้งตัวแทนให้ปกครองโลก

     บรรดามาลาอีกะห์ก็กล่าวคัดค้านว่า ท่านจะทำให้ผู้หนึ่งทำความเสียหาย ทำลายล้าง และประหัตประหารกันอยู่บนโลกอย่างนั้นหรือ ?

     เรา(หมายถึงมาลาอีกะห์)เป็นผู้ที่ยกย่อง และสรรเสริญพระองค์ (ไม่เคยทำให้พระองค์มัวหมอง)

     อัลเลาะห์ตาอาลาจึงกล่าวตอบว่า เรารู้ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ (เรารู้ว่าใครเหมาะสมที่จะปกครองโลก)"

 

ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทั้งหลาย

 

          ในความเป็นอยู่ของเราท่านนั้น จะนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหว ต้องดิ้นต่อสู้ ต้องทำมาหากิน ต้องแสวงหาปัจจัยในการดำรงชีพ นั่นก็คือทรัพย์สมบัติ เงินตรา ข้าวของ เครื่องอุปโภคบริโภค และอีกหลายๆอย่างที่จำเป็นแก่ชีวิต นั่นเป็นทางหนึ่งในด้านวัตถุ

 

          อีกทางหนึ่ง ทางด้านจิตใจแล้ว ก็ต้องมีศีลธรรม มีจริยธรรม และต้องมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกัน รับผิดชอบในสัดส่วนของสังคม และกลุ่มชนร่วมกัน แล้วชีวิตของเราก็จะมีความสุข ไม่ถูกตำหนิติเตียน มีแต่คำสรรเสริญเยินยอ มีแต่การปลอบประโลม

 

          เกียรติ ศักดิ์ศรี บารมี การให้ความนับถือ ความรัก ความอบอุ่น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราจะหาซื้อได้ด้วยเงินตรา เราได้มันมาด้วยคุณธรรม ด้วยความดี ด้วยการอุปถัมภ์ค้ำจุนกัน ทำสิ่งที่ดีๆให้แก่กัน ไม่ใช่ทำลายล้างสังคม หรือทำสังคมไปสู่ความวิบัติ

 

          หลายคนประกอบสัมมาชีพด้วยความสุจริต ขยันทำมาหากิน แล้วก็มีความสุข แม้จะเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง หลายคนมีรายได้ไม่เป็นกอบเป็นกำ ไม่พอกินพอใช้ แต่ก็มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความอดออม อดทน อยู่ด้วยความยากลำบาก แต่ก็มีสติ ไม่ทำความเสื่อมเสียมาสู่สังคมและประเทศชาติ ถ้ารักษาความดี มีตักวาต่ออัลเลาะห์ แล้วชีวิตจะดีขึ้นเอง อัลเลาะห์ตรัสไว้ว่า

 

{ وَمَنْ يَتَّقِ اللهَ يَجْعَلْ لَهُ مَخْرَجًا

 

"ผู้ใดยำเกรงต่ออัลเลาะห์ (ยึดปฏิบัติตามห้ามตามใช้)

พระองค์จะให้ผู้นั้นพบทางออก (พบช่องทางที่จะทำให้ชีวิตของเขาหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก)"

 

وَيَرْزُقْهُ مِنْ حَيْثُ لاَ يَحْتَسِبُ 

" และอัลเลาะห์จะให้เขาได้รับริสกีโดยที่เขาไม่คาดคิด (ไม่คิดว่าจะได้ ก็ได้) "

 

وَمَنْ يَتَوَكَّلْ عَلَى اللهِ فَهُوَ حَسْبُهُ

" ผู้ใดมอบหมายตนต่ออัลเลาะห์ในทุกกิจการ (ทำให้ดีที่สุด) ก็เป็นการเพียงพอแล้ว "

 

إِنَّ اللهَ بَالِغُ أَمْرِهِ 

" แท้จริงอัลเลาะห์ทรงบรรลุแล้วในจุดประสงค์และเป้าหมาย(ในกิจการงาน ในการบริหารงานของพระองค์) "

 

قَدْ جَعَلَ اللهُ كُلَّ شَيْءٍ قَدْرًا }

" อัลเลาะห์ทรงให้ทุกสิ่ง เป็นไปตามชะตากรรม (เป็นไปตามโชคนำชีวิต) "

 

          อีกหลายคนมีรายได้ค่อนข้างดี มีความสุข แต่ก็เป็นความสุขที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นรายได้ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เป็นรายได้ที่ทำลายล้าง คร่าชีวิตผู้อื่น ยัดเยียดความตายให้ผู้อื่น โดยตายแบบผ่อนส่ง ตายทั้งอนาคตและชีวิต

 

          เราทุกคนเป็นทรัพยากรของโลกและประเทศชาติที่มีคุณค่า เป็นขวัญและกำลังใจของพ่อแม่ เป็นกำลังสำคัญของสังคมและประเทศชาติ แต่ก็ต้องมาถูกทำลายล้างโดยภัยมืดที่แฝงอยู่ในสังคม ครับ .. เรากำลังพูดถึงอาชีพหนึ่งที่แฝงอยู่ในเงามืดของสังคม เป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ เป็นอาชีพที่โลกสาปแช่ง เป็นอาชีพที่ทำความวิบัติมาสู่เด็กและเยาวชน ที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่

 

          มหันตภัยยาเสพติด ทำลายชีวิต ทำลายสังคม เพราะฉะนั้น อย่าเข้าใกล้ อย่าใช้เป็นเส้นทางทำมาหากิน มันเป็นบาป เป็นการกระทำของคนใจบาป เป็นอาชญากรที่ไร้มนุษยธรรม ที่อยู่ในรูปแบบของการทำลายล้างและคร่าชีวิตของผู้อื่น ซึ่งก็เป็นญาติพี่น้องและบุคคลที่อยู่ในสังคม แม้จะไม่ตายในทันทีทันใด แต่มันก็ตายแบบผ่อนส่ง ซึ่งก็ถือว่าโหดร้ายและทรมานยิ่งกว่าตายโดยปัจจุบันทันด่วนเสียอีก

          โทษของการฆ่าผู้อื่นตาย โทษของการทำลายชีวิต ถือเป็นบาปใหญ่ ตกนรกเพียงสถานเดียวฉันใด มหันตภัยยาเสพติด ทำลายชีวิต ทำลายสังคม ก็ฉันนั้นเช่นกัน

 

อัลเลาะห์ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์อันนิซาอ์ อายะห์ที่ 93 ไว้ว่า

 

{ وَمَنْ يَقْتُلْ مُؤْمِنًا مُتَعَمِّدًا فَجَزَاءُهُ جَهَنَّمُ خَالِدًا فِيْهَا وَغَضِبَ اللهُ عَلَيْهِ وَلَعَنَهُ وَأَعَدَّ لَهُ عَذَابًا عَظِيْمًا }

 

     " ผู้ใดทำลายชีวิตหนึ่งที่เป็นมุอ์มินโดยเจตนา โทษของเขาก็คือนรกญะฮันนัม ต้องตกอยู่ในขุมนรกนั้นตลอดไป (อันเนื่องมาจากการกระทำความผิดที่ร้ายแรง) เป็นความผิดที่ทำให้อัลเลาะห์โกรธ

     และตัดออกจากความเมตตา (เขาจะไม่ได้รับในสิ่งที่ดีๆในชีวิต) อัลเลาะห์ได้เตรียมการลงโทษสถานหนักไว้ให้แล้ว (นั่นก็คือขุมนรกญะฮันนัมเพียงสถานเดียวเท่านั้น) "

 

          ในเรื่องนี้มีนักวิชาการบางท่านกล่าวว่า การทำความเสื่อมเสีย ทำความวิบัติอยู่บนหน้าโลกนี้ และไม่อาจที่จะเตาบัตตัวได้ ไม่ควรที่จะได้รับการผ่อนปรนใดๆ มันบาปเกินกว่าที่จะให้อภัย

 

          เพราะฉะนั้น โปรดอย่าได้เข้าใกล้ยาเสพติด อย่าคิดเสพ อย่าคิดจำหน่าย มันเป็นมหันตภัยทำลายล้าง คนเสพตาย คนจำหน่ายติดคุก สุขไม่มี มีแต่ความมืดมน โลกประนามและสาปแช่ง

 

          โลกยังมีการเปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อมผันผวน วัฏจักรของโลกยังต้องมีการเสื่อมและสูญสลาย มนุษย์ยังต้องประสบกับชะตากรรม เกิดแก่เจ็บตาย ดีใจและโศกเศร้า ที่พำนักพักพิงของเราในโลกดุนยานี้ ไม่มีอะไรยั่งยืน ไม่มีอะไรถาวร ทุกสิ่งย่อมมีการเสื่อมสลายและดับสูญไปตามกาลเวลา ไปตามคุณลักษณะของมัน อย่างนี้แล้วความสุขในชีวิตของเราจะมีหรือ ?

          ในซูเราะห์อัลมุลกุ อายะห์ที่ 1 และ 2 บอกถึงสภาพหนึ่ง บอกถึงฐานะหนึ่งที่มนุษย์อย่างเราท่าน ต้องดำรงชีพอยู่ในโลก ต้องทำอะไร ? และต้องรับผิดชอบอะไร

 

{ تَبَارَكَ الَّذِيْ بِيَدِهِ الْمُلْكُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ

 " เอกองค์อัลเลาะห์ ผู้ทรงควบคุมอำนาจการปกครอง ผู้ทรงเดชานุภาพและกำหนดสภาวการณ์

 

الَّذِيْ خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ

พระองค์ผู้ทรงให้มีการดับสูญ ให้มีการตาย แล้วก็ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ เพื่ออะไร ?

 

لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلاً

ก็เพื่อที่จะทดสอบเจ้า คือเราท่านทั้งหลายว่า ใครคนใดเล่าที่ทำดี รับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ได้ดีที่สุด "

 

    ตรงนี้บอกให้เรารับรู้ว่า สถานภาพที่เราต้องอยู่ในโลกนี้นั้นก็คือ

หนึ่ง / อยู่ในฐานะที่ต้องถูกทดสอบ

สอง / ต้องรับผิดชอบในภาระหน้าที่ ในการดูแลโลก ทั้งแก่ตัวเอง ครอบครัวและสังคม 

          ต้องดูแลโลกให้สวยงาม ต้องไม่ทำความเสื่อมเสียแก่โลก นั่นเพราะโลกเป็นที่อยู่ของมนุษย์ และมนุษย์ก็เป็นผู้ปกครองโลก ได้รับการแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า ผู้สร้างโลกขึ้นมา แล้วก็ให้มนุษย์เป็นผู้ปกครอง เป็นผู้ดูแล และเมื่อมนุษย์เราเป็นผู้ปกครองโลก ภาระหน้าที่ของเราท่านนั้นต้องทำอะไรบ้าง ?

 

          โดยรวมแล้ว เราท่านก็คงจะทราบกันดี ควรทำให้โลกสวยงาม ทำให้โลกน่าอยู่ ทำให้เกิดสุขและสันติ เพราะฉะนั้นคนที่ถูกทดสอบ คนที่ถูกดูแลความประพฤติ คนที่ต้องดูแลรับผิดชอบในภาระหน้าที่หนึ่ง มันจะหาความสุขความสบายทั้งกายและใจ โดยสมบูรณ์แบบและถาวรได้หรือ ?

 

          คำว่า "ภาระหน้าที่นั้น" มันคือความรับผิดชอบ แม้จะทำให้ดีที่สุด มันก็ต้องมีความผิดพลาด อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีความกังวลใจอยู่ดี ลองสังเกตดูในชีวิตของเรา เราได้สมหวังกับทุกเรื่องหรือไม่ ? เราได้สิ่งหนึ่ง ก็ต้องเสียสิ่งหนึ่ง มีความสุขในส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ทำให้เดือดร้อน มีเงินมีทองมากมาย แต่ก็ยังเจ็บไข้ได้ป่วย มันก็ไม่มีความสุข มีเงินมีบ้านมีรถ มีทุกอย่างพร้อมสรรพ สุขภาพก็ดี แต่ไม่มีลูก ก็ให้เกิดเป็นทุกข์ หรือมีลูก แต่เกะกะเกเร ไม่รักดี ก็ให้ร้อนใจ มันก็ไม่มีความสุข ความสุขความสมบูรณ์ในชีวิต การเสวยสุขในความเป็นมนุษย์ของเรา จึงหาได้ยาก จะมีให้ก็อยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น

 

          วันนี้เรามีความสุข พรุ่งนี้อาจมีทุกข์ ช่วงนี้หัวเราะ อีกหลายชั่วโมงข้างหน้าอาจร้องไห้ ช่วงนี้ร่ำรวย อีกช่วงหนึ่งอาจยากจน ช่วงนี้อับจน อีกช่วงหนึ่งอาจมีโชคลาภ มีความสุขสมบูรณ์ในชีวิต ช่วงนี้มีชีวิตที่สูงส่ง อีกช่วงหนึ่งอาจตกต่ำ แล้วก็กลับมารุ่งโรจน์อีกก็ได้

 

          ชีวิตของคนเรามีขึ้นมีลง มีความเปลี่ยนแปลง เป็นนิรันดร์ เป็นสัจธรรม เกิดแก่เจ็บตาย ผิดหวังสมหวัง ดีใจและโศกเศร้า เป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะฉะนั้น คนเราควรจะพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่อ่อนไหวต่ออุปสรรค ได้ดีมีสุข ก็ให้นึกถึงพระเจ้า น้อมสุโกรต่อพระองค์ ผิดหวัง ล้มเหลว ก็ต้องอดทนอดกลั้น แล้วปรับปรุงตัว นั่นเป็นสภาพของมนุษย์อย่างเราท่าน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกครองโลก

 

          เพราะฉะนั้น ความสุข ความสมบูรณ์ในชีวิตของเราท่านโดยสมบูรณ์แบบและถาวรจึงไม่มี ทำอะไรก็ได้ให้มันมีกินมีใช้ แล้วก็เป็นอาชีพที่สุจริต ไม่ทำลายล้างหรือบั่นทอนชีวิตผู้อื่น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ทำความเสื่อมเสียให้กับสังคมและประเทศชาติ นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุด แล้วเราก็จะมีความสุข จะผิดหลังสมหวังบ้าง ประสบเคราะห์กรรม ต้องชะตากรรมบ้าง ก็ให้ถือว่านั่นเป็นการทดสอบของพระผู้เป็นเจ้า และก็เป็นสภาพหนึ่งที่เราต้องเผชิญกับมันด้วยความอดทน และน้อมรับด้วยความยินดีในกอดอ-กอดัร ในลิขิตที่มาจากพระเจ้า

 

ในซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 155-156 บอกไว้ว่า 

 

{ وَلَنَبْلُوَنَّكُمْ بِشَيْءٍ مِنَ الْخَوْفِ وَالْجَوْعِ وَنَقْصٍ مِنَ اْلأَمْوَالِ وَاْلأَنْفُسِ وَالثَّمَرَاتِ وَبَشِّرِ الصَّابِرِيْنَ 

 

     " เรา(หมายถึงอัลเลาะห์)จะทดสอบพวกเจ้า ให้เผชิญกับความกลัว ให้เผชิญกับความหิว ให้ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่หมดไปหรือน้อยลง ให้สุขภาพไม่สมบูรณ์ (มีเจ็บไข้ได้ป่วย) ให้พืชผลได้รับความเสียหาย (โดยที่การทดสอบอันนี้จะไม่มีอะไรคุ้มกัน นอกจากความอดทนและมีสติ) ดังนั้นนบีแห่งข้าฯ จงแจ้งข่าวดีแก่พวกที่มีความอดทน"

 

الَّذِيْنَ إِذَا أَصَابَتْهُمْ مُصِيْبَةً قَالُوْا إِنَّا للهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُوْنَ

أُولئِكَ عَلَيْهِمْ صَلَوَاتٌ مِنْ رَبِّهِمْ وَرَحْمَةٌ وَأُولئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُوْنَ }

 

     " บรรดาผู้ซึ่งที่เมื่อได้ประสบเคราะห์กรรมแล้ว พวกเขาจะพูดว่า เราเป็นสิทธิ์ของอัลเลาะห์ แล้วเราก็ต้องกลับไปสู่พระองค์ว่า พวกเขานั้นจะได้รับพรอันประเสริฐ จะได้รับความเมตตาจากพระองค์ เพราะพวกเขานั้นเป็นเหล่าชนที่มีหลักยึดและอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง "

 

          เพราะฉะนั้น เมื่อเราท่านอยู่ในสภาวะที่ต้องถูกทดสอบความสุข ความสมบูรณ์ที่ยั่งยืนและถาวรในชีวิตจึงไม่มี และเมื่อความสุขความถาวรในชีวิตไม่มี แล้วความสุขอันใดเล่าที่เราควรจะแสวงหากัน

 

          ในฐานะที่เราเป็นมุสลิม ความสุขที่เราท่านควรจะแสวงหากันก็คือ ความสุขที่อัลเลาะห์โปรดปรานและพอพระทัย และอยากที่จะให้เกิดขึ้นแก่บ่าวของพระองค์มีตักวา มีความยำเกรงต่ออัลเลาะห์ และมีความซื่อตรงและจริงใจ นั่นก็คือเป็นผู้รู้ผิดเมื่อทำผิด รู้ว่าเป็นบาปเมื่อทำชั่ว รู้ว่าพระเจ้าโกรธ ก็รีบกลับเนื้อกลับตัว

 

          ขณะเดียวกัน จิตใจก็ต้องมุ่งไปสู่พระองค์ แสวงหาความโปรดปรานและการอภัยโทษจากพระองค์ ด้วยความจริงใจและชัดเจน นั่นก็คือเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่หวนกลับไปทำอีกโดยเด็ดขาด และนี่คือความสุขที่พระเจ้าพอใจ ในอันที่จะให้เกิดขึ้นแก่บ่าวของพระองค์ เพราะความสุขที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ จะเป็นความสุขที่ให้คุณค่าที่ยั่งยืนและถาวร ทั้งที่มีชีวิตอยู่ในโลกและชีวิตหลังความตาย

 

{ يَاأَيُّهَا الَّّذِيْنَ آمَنُوْا اتَّقُوا اللهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلاَ تَمُوْتُنَّ إِلاَّ وَأَنْتُمْ مُسْلِمُوْنَ }

 

     " ศรัทธาชนทั้งหลาย จงยำเกรงต่ออัลเลาะห์ตามสิทธิและหน้าที่ที่ต้องยำเกรงต่อพระองค์ และจงอย่าตาย เว้นแต่จะตายก็ตายอย่างผู้เป็นมุสลิม (นั่นก็คือตายในอีหม่าน ตายในการประพฤติปฏิบัติตนตามที่มีบัญญัติใช้บัญญัติห้าม ตายอย่างผู้มีคุณธรรม ตายอย่างผู้สร้างสรรค์ ตายอย่างผู้อุปถัมภ์ ค้ำจุนโลกและสังคม ให้ดูสดสวยและงดงาม) " 

 

นั่นแหละครับคือการตายอย่างผู้ที่เป็นมุสลิม

 

 

 

คุตบะฮ์ มิฟตาฮุ้ลอูลูมิดดีนียะห์ บ้านดอน