เรื่องเฉพาะผู้หญิง
  จำนวนคนเข้าชม  5380

 

เรื่องเฉพาะผู้หญิง

 

แปลโดย... อิสมาอีล กอเซ็ม

 

           สำหรับผู้หญิงให้รักษาผมบนศีรษะของนางด้วยการถักเปีย และให้การเอาใจใส่และไม่อนุญาตให้นางเกลียวผมของนางไว้บนศีรษะและไว้ท้ายทอย

 

          ท่านชัยคุลอิสลาม อิบนูตัยมียะ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มัจมูอฟาตาวา 22/145  เหมือนการกระทำที่ผู้หญิงไม่ดีบางคนได้ปฏิบัติ การที่นางเกล้าผมของนางไว้ที่เดียวกันโดยปล่อยลงระหว่างบ่าทั้งสอง 

 

          ท่านเชคมูฮัมหมัด บุตรของอิบรอฮีม มุฟตีของซาอุ รอฮิมาอุลลอฮฺ สำหรับสิ่งที่ผู้หญิงมุสลิมะฮบางท่านได้ปฏิบัติในยุคนี้ ในการแยกผมบางส่วนไว้หน้าหลังและทำอีกบางส่วนไว้ข้างบน เหมือนที่ผู้หญิงฝรั่งได้ทำ การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นที่อนุญาต เนื่องจากมันเป็นการไปเลียนแบบบรรดาผู้หญิงที่ไม่ศรัทธา (กาฟิเราะฮฺ

 

     มีรายงานจากท่านอบีฮูรัยเราะฮฺ ในหะดีษที่ยาว เขาได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า 

     “มีบุคคลสองจำพวกจากชาวนรก ที่ฉันยังไม่เห็นพวกเขา กลุ่มชนที่มีแซ่เหมือนหางวัว พวกเขาใช้โบยผู้คน และบรรดาผู้หญิงที่สวมเสื้อที่ยังเหมือนเปลือยกายอยู่อีก และเป็นผู้หญิงที่เอนเอียงจากศาสนา และทิ้งความละอาย ศีรษะของพวกนางเหมือนโหนกอูฐ พวกนางจะไม่ได้เข้าสวรรค์ และจะไม่ได้กลิ่นของมัน และแท้จริงกลิ่นของสวรรค์ ระยะทาง เท่านั้น เท่านั้น

 

     บรรดานักวิชาการได้อธิบายคำของท่านรอซูล มาอิลาต มูมีลาต ว่าพวกนางได้หวีผม ที่มีการแสดงท่าทียั่วยวน ก็คือการหวีผมของผู้หญิงที่ไม่ดี และทำให้ผู้หญิงอื่นเลียนแบบการหวีผมในรูปแบบของพวกนาง นี่คือรูปแบบการหวีผมของผู้หญิงฝรั่ง และใครได้เลียนแบบพวกนาง

 

     เช่นเดียวกันห้ามผู้หญิงมุสลิมะฮโกนผมของนาง หรือตัดผมโดยไม่จำเป็นและนางถูกห้ามไม่ให้ต่อผมให้ยาวโดยใช้เส้นผมของผู้อื่น เนื่องจากมีปรากฏในหนังสือ ซอเอียะบุคอรีและมุสลิม 

 

{ لعن رسول الله صلى الله عليه وسلم الواصلة والمستوصلة،

 

รอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้สาปแช่งผู้ที่ต่อผมให้ผู้อื่น และผู้ที่ขอให้ต่อผม

 

     ผู้ที่ต่อผมคือ ผู้ที่นำมาต่อกับผมของนางด้วยเส้นผมของคนอื่น อัลมุสเตาซิละฮ คือผู้ที่ทำการต่อผม ซึงการกระทำดังกล่าว คือการโกหก และถือว่าการต่อผมที่ต้องห้าม การสวมวิกผมในยุคสมัยนี้

 

روى البخاري ومسلم وغيرهما أن معاوية رضي الله عنه خطب لما قدم المدينة وأخرج كبة من شعر، أو قصة من شعر، فقال: ما بال نسائكم يجعلن في رؤوسهن مثل هذا ؟ سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول: { ما من امرأة تجعل في رأسها شعرا من شعر غيرها إلا كان زورا } ( )

 

     อิหม่ามอัลบุคอรีและมุสลิมและคนอื่นนอกจากทั้งสอง ได้รายงาน แท้จริงท่านมูอาวิยะฮฺ ได้ทำการเทศนาธรรม เมื่อมาถึงเมืองมาดีนะ และเขาได้นำเส้นผมออกมากลุ่มหนึ่ง 

     แล้วเขากล่าวว่า สภาพผู้หญิงจะเป็นอย่างไร โดยที่พวกนางได้ทำมันไว้บนศีรษะของพวกนางเช่นนี้

     ฉันได้ยินรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม กล่าวว่าไม่มีผู้หญิงคนใดที่นางได้นำมาไว้บนศีรษะของนาง เส้นผมของคนอื่น เว้นแต่เป็นการโกหก

 

     อัลบุคอรีย์ เรื่องเครื่องแต่งการ (5593) มุสลิมเรื่องแต่งการและเครื่องประดับ (2124) อัตติรมีซีย์ เรื่องเครื่องแต่งกาย (1759) อันนาซาอีย์ เครื่องประดับ (5095) อบูดาวุด อัตตรอญญุล (4168) อิบนู มาญะ อันนิกาฮ (1987) อะหมัด 2/1

 

การสวมใส่วิกผม คือผมปลอมและการนำมันมาสวมใส่คือการโกหกนั่นเอง 

 

     ♦ - ไม่อนุญาตให้มุสลิมะฮฺขจัดขนคิ้วทั้งหมด หรือกันคิ้วด้วยวิธีโกนหรือตัด หรือใช้ตัวยาที่ขจัดแบบถาวร หรือขจัดบางส่วน เนื่องจากการขจัดขนคิ้ว ซึงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้สาปแช่งผู้ที่กระทำเช่นนั้น 

 

{ لعن صلى الله عليه وسلم النامصة والمتنمصة }  ،

 

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้สาปแช่งผู้หญิงโกนคิ้วให้คนอื่น และผู้หญิงให้คนอื่นโกนคิ้วให้

(อันนะซาอี หมายเลขหะดีษ 5101)

 

     อันนามิเซาะฮฺ คือผู้ทีทำการขจัดขนคิ้ว หรือบางส่วนเพื่อความสวยงามตามการอ้างของนาง และอัลมูตานัมมิเซาะฮฺ ผู้ที่ให้ผู้ขอให้ผู้อื่นขจัดขนคิ้ว การกระทำเช่นนั้นเข้าอยู่ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสิ่งถูกสร้างของอัลลอฮฺ ซึ่งชัยตอนได้สัญญาว่า จะยุยงมนุษย์ โดยที่อัลลอฮฺได้เล่าเรื่องนี้ไว้ในอัลกุรอ่าน 

 

وَلَآمُرَنَّهُمْ فَلَيُغَيِّرُنَّ خَلْقَ اللَّهِ ۚ 

 

แล้วแน่นอนพวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสร้าง

 

: وفي الصحيح عن ابن مسعود رضي الله عنه أنه قال: { لعن الله الواشمات والمستوشمات والنامصات والمتنمصات والمتفلجات للحسن، المغيرات خلق الله }   ، 

 

     ในหนังสืออัซซอเฮียะ จากอิบนูมัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ แท้จริงท่านได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม กล่าวว่า

     “อัลลอฮฺได้สาปแช่งผู้ที่สักบนผิวหนัง ผู้ที่ขจัดคิ้ว และผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำสิ่งดังกล่าวให้แก่ตน และผู้ที่แยกฟันให้ห่างเพื่อเสริมสวย ผู้ที่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อัลลอฮฺสร้าง

     หลังจากนั้นเขาได้กล่าวว่า ฉันจะไม่สาปแช่งผู้ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม สาปแช่งกระนั้นหรือ ?

 

ซึ่งมันมีระบุในกิตาบุลลอฮฺ อะวะวะญัลลา พระองค์ตรัสไว้ว่า

 

وَمَا آتَاكُمُ الرَّسُولُ فَخُذُوهُ وَمَا نَهَاكُمْ عَنْهُ فَانتَهُوا ۚ

 

และสิ่งใดที่อัรรอซูลได้นำมาพวกเจ้าก็จงยึดมั่นปฎิบัติตาม และสิ่งใดที่รอซูลห้ามพวกเจ้าพวกเจ้าก็จงละทิ้งเสีย

 

     อิบนูกะซีรได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัตตัฟซีร 2/359 พิมพ์ ดารุลอัลดะลุซ 2/359

     นี่คือการทดสอบด้วยกับความเสียหายอันนี้ ซึงมันเป็นหนึ่งในบาปใหญ่ที่ผู้หญิงจำนวนมากได้กระทำ จนกระทั่งการขจัดขนคิ้วเป็นสิ่งที่พวกนางจำเป็นต้องกระทำเป็นในชีวิตประจำวัน และสำหรับเรื่องการขจัดขนคิ้วนั้นหากสามีใช้ให้กระทำ ก็ไม่อนุญาตให้เชื่อฟังเขา เนื่องจากมันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน(ต่ออัลลอฮฺ

 

     ♦ - ห้ามผู้หญิงทำแยกฟันเพื่อการเสริมสวย เช่นการถูด้วยตะไบ จนทำให้เกิดช่องว่างเล็กน้อยระหว่างฟัน การมีเจตนากระทำเพื่อความสวยงาม สำหรับฟันที่ดูไม่สวยงาม(เช่นฟันบิดเบี้ยว) และต้องการที่จะขจัดความน่าเกลียด หรือฟันผุที่ต้องการจะรักษาก็เป็นที่อนุญาต เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการรักษาและขจัดสิ่งที่ดูไม่ดีแต่ต้องรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

 

     ♦ - ห้ามผู้หญิงสักบนร่างกาย เนื่องจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้สาปแช่งผู้ที่สักให้ผู้อื่นและผู้ขอให้ผู้อื่นสักให้ 

     อัลวาชิมะฮฺ ผู้ที่ปักเข็มลงไปที่มือหรือใบหน้า หลังจากนั้นก็ใช้น้ำหมึกลงทับบนที่สัก 

     อัลมูตะวัชชิมะ คือผู้ที่ขอให้คนอื่นสักให้ ซึงการกระทำดังกล่าวเป็นที่ต้องห้ามและบาปใหญ่ 

     เนื่องจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้สาปแช่งการกระทำและผู้ที่กระทำ การสาปแช่งจะไม่เกิดขึ้นนอกจากสิ่งที่เป็นบาปใหญ่ 

 

 ฮุกุมการใช้สีย้อมผม และการย้อมผมและการใช้เครื่องประดับที่เป็นทองสำหรับสตรี 

 

     1. ท่านอิหม่ามอันนาวาวีย์ได้กล่าวไว้ในหนังสิอ (อัลมัจมูฮฺฟาตาวา) 1/324 สำหรับการใช้ย้อมเล็บมือและเล็บเท้าทั้งสองนั้น เป็นชอบให้กระทำสำหรับผู้ที่แต่งงานแล้ว เนื่องจากหะดีษที่เป็นที่รู้ที่ระบุในเรื่องนี้ 

 

يشير إلى ما رواه أبو داود: { أن امرأة سألت عائشة رضي الله عنها عن خضاب الحناء، فقالت: لا بأس به، ولكني أكرهه، كان حبيبي رسول الله صلى الله عليه وسلم يكره ريحه } ( ) 

 

สายรายงานที่รายงานโดย อบูดาวุด

     “แท้จริงผู้หญิงได้ถามท่านหญิงอาอิชะ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เกี่ยวกับการย้อมด้วยกับเทียน 

     ท่านหญิงอาอิชะตอบว่า เป็นที่อนุญาต แต่ผู้ที่เป็นที่รักของฉันฉัน ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม รังเกียจกลิ่นของมัน

 

، ورواه النسائي، وعنها رضي الله عنها قالت: { أومأت امرأة من وراء ستر - بيدها كتاب - إلى رسول الله صلى الله عليه وسلم فقبض النبي صلى الله عليه وسلم يده وقال: ما أدري أيد رجل أم يد امرأة ؟ قالت: بل يد امرأة: قال: لو كنت امرأة لغيرت أظفارك - يعني: بالحناء } ( ) - [ أخرجه أبو داود والنسائي ]، لكن لا تصبغ أظفارها بما يتجمد عليها ويمنع الطهارة ( ) . 

 

     อันนาซาอีย์ได้รายงาน มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา 

     ท่านหญิงอาอิชะได้กล่าวว่า มีสตรีคนหนึ่งได้ยื่นมือมาจากหลังม่านส่งหนังสือให้แก่ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ด้วยกับมือของนาง 

     ท่านรอซูลกล่าวว่า ฉันไม่ทราบว่านี่เป็นมือของผู้หญิงหรือมือผู้ชาย

     ท่านหญิงอาอิชะกล่าวว่า เป็นมือของผู้หญิง 

     ท่านรอซูลกล่าวว่า หากเธอเป็นผู้หญิง เธอจะต้องเปลี่ยนสีเล็บของเธอ (หมายถึง ย้อมเล็บ)”

(บันทึกโดย อบูดาวุดและอันนาซาอี

      และอย่าได้ย้อมเล็บของนางด้วยกับสิ่งที่มาปิดกั้นเล็บที่ยากแก่การทำความสะอาด 

 

     2. สำหรับการย้อมผมของผู้หญิง หากผมหงอกก็ให้ย้อมกับสีอื่นๆ ได้ที่ไม่ใช่สีดำ เนื่องจากการห้ามย้อมด้วยสีดำเป็นการห้ามรวมๆจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม 

     ท่านอิหม่ามอันนาวาวี ได้กล่าวไว้ในหนังสือ (ริยาดุซซอลีฮีน) หน้าที่ 626 เรื่องการห้ามผู้ชายและผู้หญิงในการย้อมผมสีดำและท่านได้กล่าวไว้ในหนังสือ (อัลมัจมูฮ) 1/324 ไม่ได้แบ่งแยกในการห้ามระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย นี่คือแนวมัสฮับของเรา

     สำหรับการย้อมผมด้วยกับสีดำสำหรับผู้หญิงเพื่อต้องการเปลี่ยนสีผม ฉันมีความเห็นว่าไม่เป็นที่อนุญาต เนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่จะกระทำเช่นนั้น เนื่องจากสีดำนั้นเป็นผมที่สวยงาม ดังนั้นการย้อมดำนั้นไม่ได้ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขจัดความไม่น่ามอง แต่มันเป็นการเลียนแบบบรรดาหญิงที่ไม่ศรัทธา 

 

     3. อนุญาตสำหรับผู้หญิงที่จะใส่เครื่องประดับด้วยทองและเงินตามการปฏิบัติที่ได้กระทำกันอยู่ และการอนุญาตนี้เป็นมติเอกฉันท์ของปวงปราชญ์ 

     แต่ที่ไม่อนุญาตสำหรับผู้หญิงเปิดเผยเครื่องประดับของนางแก่บุคคลที่ไม่ได้เป็นมะหฺรอม(ผู้ที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้เนื่องจากเป็นเครือญาติ) แต่ต้องปกปิดมัน โดยเฉพาะขณะจากออกจากบ้าน และการเปิดเผยมันต่อหน้าบุรุษเพศ

     เนื่องจากการเปิดเผยเครื่องประดับเป็นสาเหตุที่จะนำมาซึ่งสิ่งที่ไม่ดีงามมาสู่ผู้หญิง และการให้บรรดาผู้ชายได้ยินเสียงของเครื่องประดับที่อยู่ที่เท้าของผู้หญิงยังเป็นที่ต้องห้าม ดังนั้นการเปิดเผยเครื่องประดับจะไม่ถูกห้ามได้อย่างไร?

 

 

จากหนังสือ ข้อแนะนำบทบัญญัติต่างๆ  ที่เป็นเรื่องเฉพาะผู้หญิง