บทสนทนาระหว่างท่านอบูบักรฺ กับท่านอุมัร2
  จำนวนคนเข้าชม  3338

บทสนทนาระหว่างท่านอบูบักรฺ อัซซิดดี๊ก กับท่านอุมัรฺ อัลฟารู๊ก  2

อุมัรฺ      :     ท่านจะแต่งตั้งฉันเป็นคอลีฟะห์ได้อย่างไร ในเมื่อท่านก็ทราบดีว่าความเห็นของฉันไม่ตรงกับท่านทั้งในเรื่อง “อัลฟัยอฺ” “คอลิด” และเกี่ยวกับการทำศึกกับพวกมุรตัด

อบูบักรฺ :     เธอนี่แย่จริงๆ อุมัรฺ ก็เรื่องเหล่านั้นนะซิ ที่ทำให้ฉันต้องแต่งตั้งเธอเป็นคอลีฟะห์ ดีกว่าที่เธอจะมาประจบฉันเสียอีก ที่จริงฉันอยากจะได้ผู้ชายที่เมื่อเขาพูดว่า “ครับ” เขาก็จะพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ หรือเมื่อพูดว่า “ไม่” เขาก็พูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ และผู้ชายคนนั้นก็คือเธอนั่นเอง

อุมัรฺ      :     ท่านลืมท่าทีของฉันในวันที่จะออกไปปราบปรามพวกมุรตัดเสียแล้วหรือ วันนั้นฉันเกือบทำให้ท่านเสียแผน จนกระทั่งท่านพูดกับฉันว่า “หรือว่าเขาเป็นคนเฉียบขาดในสมัยญาฮิลียะห์ แต่อ่อนแอในสมัยอิสลาม”

อบูบักรฺ :     นั่นมันเรื่องแล้วไปแล้ว อภัยให้ฉันด้วยเถิด ฉันขอสาบานว่า ที่พูดออกไปเช่นนั้นมิใช่เพราะมีเจตนาร้ายกับเธอ หรือต้องการให้เธอคิดมากแต่อย่างใด ถ้อยคำดังกล่าวมีน้อยนักที่จะออกจากปากของฉัน เว้นแต่ในยามคับขันเท่านั้น

อุมัรฺ      :     โอ้ท่านคอลีฟะห์ ที่ฉันพูดเรื่องนี้ใช่ว่าจะตำหนิท่านดอก ฉันขอสาบานว่า ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็เพราะดีใจที่ได้เห็นสัจธรรม ซึ่งในวันนั้นเสมือนมีอะไรมาปิดบังฉันไว้ และในวันนี้ฉันต้องนำมาเล่าให้ท่านฟังใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก็เพื่อเป็นข้อมูลแก่ท่านว่า ฉันนั้นไม่เหมาะสมที่ท่านต้องการจะให้เป็น ขอสาบานว่าทุกครั้งที่ฉันนึกถึงวันที่ฉันคัดค้านท่านในเรื่องที่อัลเลาะห์ทรงเปิดใจให้ท่านทำการสู้รบกับพวกมุรตัดอย่างเฉียบขาด ไม่ยอมให้แยกจากกันระหว่างคนที่ละทิ้งละหมาดกับคนที่ไม่ยอมจ่ายซะกาตแล้ว ฉันรู้สึกหนาวสะท้านขนลุกไปหมด อันเนื่องจากความผิดพลาดของฉันที่ได้กระทำลงไป โอ้อบูบักรฺ ขอสาบานว่า ถ้าวันนั้นท่านไม่ยืนหยัดแล้ว พวกอาหรับเหล่านั้นจะต้องชนะเรา และอิสลามก็จะหมดสิ้นไปอย่างแน่นอน

อบูบักรฺ :     ทำใจให้สบายเถิด โอ้อบูฮัฟซฺ แม้ว่าเธอจะมีความคิดเห็นพลาดไปบ้าง แต่ก็เทียบไม่ได้ดอกกับที่เธอมีความเห็นถูกต้องคล้องจองด้วย ถามจริงๆเถอะว่า เธอมิได้พูดกับท่านรอซูล ในบางเรื่อง แล้วอัลเลาะห์ ก็ประทานวะฮีย์ลงมา ตรงกับที่เธอมีความเห็นดอกหรือ เธอมิได้ร้องเรียนต่อท่านรอซูล เรื่องให้เอามะกอมอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด แล้วอัลเลาะห์ ก็ประทานวะฮีย์ลงมาว่า “จงยึดเอามะกอม(ที่ยืน)ของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด” ดอกหรือ?

อุมัรฺ      :     เรื่องเป็นเช่นนั้นจริงๆ อัลฮัมดุลิลลาห์

อบูบักรฺ :     อุมัรฺ เธอมิได้พูดดอกหรือว่า “ข้าแต่อัลเลาะห์ ขอพระองค์ทรงแจ้งให้พวกเราทราบเกี่ยวกับเรื่องสุราด้วยเถิด แท้จริงสุรานารีนั้นทำให้เสียทรัพย์ อับปัญญา” และแล้วอายะห์เกี่ยวกับการห้ามดื่มสุราก็ถูกประทานลงมามิใช่หรือ?

อุมัรฺ      :     ฉันได้พูดเช่นนั้น อัลฮัมดุลิลลาห์

อบูบักรฺ :     เธอมิใช่หรือที่คัดค้านท่านนบี มิให้ละหมาดญะนะซะห์ให้แก่ศพของอับดุลเลาะห์ อิบนิ อุบัย อิบนิ สะลูล ผู้เป็นมุนาฟิก และแล้วหลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย อัลเลาะห์ ก็ประทานอายะห์ต่อไปนี้ลงมา

              “และเจ้า(มุฮัมหมัด) จงอย่าละหมาดให้แก่คนใดในหมู่พวกเขา(มุนาฟิกีน) ที่ตายไปเป็นอันขาด และจงอย่ายืนที่หลุมศพของเขาด้วย”
             (อัตเตาบะห์ 9:84)

อุมัรฺ      :     ใช่แล้วฉันได้ทำเช่นนั้น อัลฮัมดุลิลลาห์

อบูบักรฺ :     เธอมิได้ยินดอกหรือ ที่ท่านรอซูล กล่าวว่า “คนรุ่นก่อนๆนั้น เคยมีผู้ที่ได้รับการดลใจ และถ้าจะเกิดขึ้นอีกในประชาชาติของฉัน ก็จะเกิดกับอุมัรฺ”

อุมัรฺ      :     ใช่แล้วฉันได้ยินเช่นนั้น อัลฮัมดุลิลลาห์

อบูบักรฺ :     ขอสาบานว่าเธอนั้นเหมาะสมยิ่งกว่าฉันที่จะเป็นคอลีฟะห์ในวันที่ประชุมกันที่สะกีฟะห์ ที่จริงวันนั้นฉันยื่นมือออกไป เพื่อจะให้สัตยาบันต่อเธอ แต่เธอแข็งแรงกว่า มิหนำซ้ำยังจับมือฉันชูขี้น แล้วเธอก็ให้สัตยาบันต่อฉัน ทำให้พี่น้องมุสลิมพากันกรูกันเข้ามาให้สัตยาบันต่อฉัน ฉันขอสาบานว่า วันนั้นฉันอยากปฏิเสธมากกว่าที่จะรับเอาไว้ แต่ฉันเกรงว่าจะเกิดฟิตนะห์อย่างรุนแรงขึ้นระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกัน ฉันจึงยอมรับตำแหน่งเพื่อเป็นการขจัดปัญหา

อุมัรฺ      :     ขออัลเลาะห์ทรงตอบแทนความดีแก่ท่านด้วยเถิดโอ้อบูบักรฺ ในเมื่อวันนั้นท่านเหมาะสมกับตำแหน่งยิ่งกว่าฉันหรือคนอื่นๆ เพราะท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐกว่า

อบูบักรฺ :     ในเรื่องความประเสริฐนั้น เป็นเรื่องของอัลเลาะห์ที่จะทรงจัดการ แต่เธอนั้นเข้มแข็งกว่าฉัน และมีความสามารถมากกว่าฉัน

อุมัรฺ      :     โอ้ท่านอบูบักรฺ ท่านลืมไปแล้วหรือว่า ในวันนั้นฉันพูดกับท่านว่าอย่างไร ฉันพูดว่า “แท้จริง ความเข้มแข็งของฉันมีไว้สำหรับท่าน พร้อมกับความประเสริฐของท่าน”

อบูบักรฺ :     ใช่แล้ว เธอพูดกับฉันเช่นนั้น

อุมัรฺ      :     ดังนั้น ความเข้มแข็งของฉัน ก็ขอมอบให้กับผู้ที่จะมาเป็นผู้ปกครองต่อจากท่านตราบเท่าที่ฉันยังมีชีวิตเหลืออยู่

อบูบักรฺ :    (ขยับตัว) โอ้ อิบนิล ค็อฏฏอบ อย่าให้ฉันต้องพูดกับเธอในวันนี้เหมือนกับเคยพูดกับเธอมาแล้วในครั้งก่อนว่า “เธอเป็นคนเฉียบขาดในสมัยญาฮิลียะห์ แต่อ่อนแอในสมัยอิสลาม” ขอสาบานว่า การที่เธอไม่กล้ารับตำแหน่งคอลีฟะห์นั้น ยิ่งแย่เสียกว่าที่เธอเคยคิดกลับไปกลับมาในเรื่องสู้รบกับพวกที่ไม่ยอมจ่ายซะกาตเสียอีก

อุมัรฺ      :     ช้าก่อน ท่านอบูบักรฺ ฉันเกรงว่าจะเกิดความไม่ดีขึ้นกับตัวฉัน กับศาสนาของฉัน และกับวันอาคิเราะห์ของฉันต่างหาก

อบูบักรฺ :     (หยุดนิ่งสักพัก แล้วพูดขึ้นว่า) เรื่องจะยุ่งเพราะสองประการ โอ้อุมัรฺ คนหนึ่งอยากจะได้ตำแหน่งคอลีฟะห์ ทั้งๆที่ทราบดีว่ามีผู้อื่นที่เหมาะสมยิ่งกว่า มีความสามารถเหนือกว่า ส่วนอีกคนหนึ่งเมื่อถูกเสนอชื่อ ก็ไม่ยอมรับตำแหน่งหน้าที่ ทั้งๆที่ทราบดีว่าตนนั้นเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ และมีความสามารถมากกว่า แต่ไม่ยอมรับตำแหน่งหน้าที่ คิดเอาแต่ตัวรอด ไม่ยอมรับใช้ประชาชน

อุมัรฺ      :     โอ้อบูบักรฺ ขอสาบานต่ออัลเลาะห์ว่า ฉันรักพี่น้องร่วมศาสนาของฉันแค่ไหน ท่านก็ทราบดี แต่เท่าที่ฉันต้องหลีกห่างในเรื่องนี้ก็เพราะฉันกลัวการสอบสวนในวันกิยามะห์

อบูบักรฺ :     ก็ทำไมเล่า ในเมื่ออิมามผู้ดำรงความยุติธรรมนั้นอยู่ในจำนวนหนึ่งในเจ็ดของผู้ที่อัลเลาะห์จะให้เขาได้รับร่มเงา ในวันที่ไม่มีร่มเงาใดๆนอกจากร่มเงาของพระองค์ (วันกิยามะห์)

อุมัรฺ      :     (ร้องไห้) ใครจะให้แก่ฉันเช่นนั้น โอ้อบูบักรฺ ใครจะให้แก่ฉันเช่นนั้นได้

อบูบักรฺ :     อัลเลาะห์จะประทานให้เธอ โอ้อุมัรฺ อัลเลาะห์จะประทานให้เธอ

อุมัรฺ      :     โอ้อบูบักรฺ ท่านอย่าได้หวังอะไรจากฉันนักเลย

อบูบักรฺ :     โอ้อุมัรฺ ทำไมจึงพูดเช่นนั้น จงเกรงกลัวอัลเลาะห์ให้มากๆซิ เธอไม่เห็นดอกหรือว่า ในอัลกุรอานนั้นมีอายะห์ที่ให้ความหวัง ซึ่งมักจะอยู่พร้อมๆกับอายะห์ที่คาดโทษไว้อย่างรุนแรง และอายะห์ที่คาดโทษรุนแรงก็มักจะอยู่พร้อมกับอายะห์ที่ให้ความหวัง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสำทับและให้กำลังใจแก่มวลมุสลิม ไม่มีเรื่องใดดอกที่หวังว่าจะได้รับจากอัลเลาะห์ ถ้าหากมิได้กระทำเรื่องนั้น และไม่มีเรื่องใดดอกที่กลัวว่าจะเกิดความไม่ดีขึ้นจากมือของตน แต่ถ้าหากว่าผู้มีหน้าที่ละทิ้งหน้าที่นั้นเพราะความเกรงกลัวอัลเลาะห์ ความเกรงกลัวอัลเลาะห์ก็จะกลายเป็นการคิดอคติต่อพระองค์ เมื่อนั้นการงานก็จะพินาศ สิทธิของผู้ที่อ่อนแอก็จะหมดไป มนุษย์ก็จะอยู่กันอย่างขาดระเบียบแบบแผน เบียดเบียนกัน ไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำหน้าที่เช่นนั้น นอกจากฉันคนเดียวกระนั้นหรือ?

อุมัรฺ      :     ยอมซิ

อบูบักรฺ :     ตอบฉันมาตามความจริงนะ อัลเลาะห์ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในหัวใจของเธอ ตอบมาซิว่า ในจำนวนพี่น้องมุสลิมที่มีอยู่นี้ มีใครบ้างที่เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งคอลีฟะห์ยิ่งไปกว่าเธอ?

อุมัรฺ      :     ฉันไม่เคยสงสัยเรื่องที่ใครจะประเสริฐกว่าฉันดอก

อบูบักรฺ :     ตอบคำถามของฉันสิ อุมัรฺ ว่าหลังจากฉันแล้วจะมีใครที่เข้มแข็งยิ่งกว่าเธอที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้ดูแลประชาชนในภาวะเช่นนี้?

อุมัรฺ      :     (น้ำตาคลอเบ้าตาทั้งสองข้าง) .....ไม่มี.....

อบูบักรฺ :     อัลฮัมดุลิลลาห์ ถ้าเช่นนั้นก็ถึงคราวที่เธอต้องเข้ามารับภาระหน้าที่แล้ว อัลฮัมดุลิลลาห์.....ถึงตอนนี้ฉันสบายใจแล้ว หมดห่วงเสียที ทุกอย่างพ้นไปจากต้นคอของฉัน ย้ายไปอยู่ที่ต้นคอของเธอบ้าง

อุมัรฺ      :     โอ้อบูบักรฺ ท่านจะไม่ปรึกษาเรื่องนี้กับบรรดาพี่น้องมุสลิมก่อนหรือ?

อบูบักรฺ :     ไม่ต้องห่วงดอก ฉันต้องปรึกษาแน่ ปัญหาใหญ่ๆผ่านพ้นไปแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องไม่ยาก ด้วยอนุมัติของอัลเลาะห์ (มีเสียงครางด้วยความเจ็บปวด)

วัสสลาม

 

Click<<<    บทสนทนาระหว่างท่านอบูบักรฺ อัซซิดดี๊ก กับท่านอุมัรฺ อัลฟารู๊ก  1

            

เผยแพร่โดย : สายสัมพันธ์