4. เข้าถึงประชาชน
  จำนวนคนเข้าชม  4307

4. เข้าถึงประชาชน


        ผู้นำจะต้องเข้าถึงประชาชน ยิ่งเข้าถึงพวกเขาได้มากเท่าใด เขาก็ยิ่งจะเข้าใจประชาชนมากเท่านั้น ทำให้ได้รับรู้ปัญหาและนำมาวิเคราะห์แก้ไขอย่างถูกจุด ไม่ต้องเสียเวลากับการหลงนโยบายหรือกลยุทธ์การปฏิบัติงานที่ทำให้ขาดทุนทั้งเวลา งบประมาณ และโอกาสของประชาชน

          เคาะลีฟะฮฺอุมัรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ เป็นผู้นำที่เข้าถึงและมีความสัมพันธ์อย่างเป็นกันเองกับประชาชน  ท่านถือว่าการปฏิบัติหน้าที่จะประสบผลสำเร็จได้ก็เพราะการได้รับความร่วมมือจากประชาชน ท่านใช้วิธีทั้งการลงไปหาประชาชน และการเปิดโอกาสให้ประชาชนมาหาท่านเพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชน ดังสังเกตเห็นว่าในเวลาค่ำคืนท่านมักจะออกไปสอดส่องดูแลทุกข์สุขของประชาชนตามตรอกซอยต่างๆอยู่เสมอ นอกจากนี้เวลาเกิดปัญหาใหญ่ ๆ ท่านมักจะลงไปแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ดังกรณีเมื่อเกิดวิกฤติภัยแล้งเมื่อปีที่ 18 ฮ.ศ. เป็นต้น

         อัล-เฆาะซาลียฺ (al-Ghazaliy)ได้กล่าวถึงสภาพการคลุกคลีกับประชาชนของเคาะลีฟะฮฺอุมัรฺเมื่อครั้งเริ่มดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮฺใหม่ ๆ ว่า

เมื่อท่านอุมัรฺ อิบนฺ อัล-ค็อฏฏ็อบขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮฺ ท่านได้ปราศรัยว่า "โอ้ ประชาชนทั้งหลาย ผู้ใดในหมู่พวกท่านที่มาจากอิรักขอให้ยืนขึ้น"

แล้วพวกเขาก็ยืนขึ้น ท่านกล่าวต่อว่า "ขอเชิญพวกท่านจงนั่งลง ยกเว้นชาวกูฟะฮฺเท่านั้น"

แล้วพวกเขาก็นั่งลง ท่านกล่าวต่อไปว่า "เชิญทั้งหมดนั่งลงยกเว้นผู้ที่มาจากเผ่ามุรอด"

แล้วพวกเขาก็นั่งลง ท่านกล่าวต่อไปว่า "ขอเชิญทั้งหมดนั่งลงยกเว้นผู้มาจากเผ่าก๊อรนฺ"

แล้วทั้งหมดก็นั่งลงยกเว้นเพียงคนเดียว ท่านอุมัรฺจึงถามเขาว่า "ท่านเป็นชาวก๊อรนียฺใช่ไหม?” เขาตอบว่า "ใช่"

ท่านถามว่า "ท่านรู้จักอะวัยสฺ อิบนฺ อามิร อัล-ก๊อรนียฺหรือเปล่า?"

แล้วท่านก็บอกลักษณะของเขาแก่เขาผู้นั้น เขาตอบว่า "ใช่ รู้จัก แล้วทำไมต้องไปถามถึงเขาด้วยล่ะท่านอะมีรุลมุมินีน ฉันขอสาบานกับอัลลอฮฺว่าในหมู่พวกเรานั้นไม่มีใครที่โง่ สติไม่สมประกอบ กระด้าง และต่ำต้อยมากไปกว่าเขา" แล้วอุมัรฺก็ร้องไห้ (al-Ghazayliy, n.d.: 3/222)

          การคลุกคลีกับประชาชนของท่านอุมัรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ ไม่เพียงแต่มีกับประชาชนในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ท่านยังลงไปคลุกคลีและเข้าถึงประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารต่าง ๆ ด้วยตัวเองอีกด้วย จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาจ่ายเงินอุดหนุนประจำปีแก่ประชาชน ท่านจะนำเงินอุดหนุนนั้นไปให้พวกเขาถึงถิ่นฐานของพวกเขาเลยทีเดียว

อัล-เฏาะบะรียฺ (al-Tabariy)  กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

          ท่านอุมัรฺเองได้แบกบัญชีของเผ่าคุซาอะฮฺด้วยตัวท่านเองจนกระทั่งถึงที่กุดัยย์ (Quday) แล้วคนในเผ่าทุกคนต่างก็มารวมกัน โดยสตรีทุกคนทั้งหม้ายและโสดต่างมารับเงินด้วยตัวเองจากท่าน จากนั้น ท่านออกเดินทางต่อและมาหยุดที่อัศฟาน (Usfan) แล้วปฏิบัติเช่นเดียวกับที่กุดัยย์ (Quday) ท่านปฏิบัติอย่างนี้จนกระทั่งเสียชีวิต (al-Tabariy, 1988: 2/570)

          นอกจากนี้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับประชาชน ท่านจะพยายามศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนอยู่เสมอ ดังสังเกตว่าเมื่อกำลังอยู่ในภาวะสงคราม หรือหลังจากพิชิตเมืองได้ใหม่ๆ  ท่านมักจะขอข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับเมืองดังกล่าว เช่น การที่ท่านส่งหนังสือไปยังอิรักเพื่อให้ผู้นำที่นั่นส่งผู้แทนสองคนมายังมะดีนะฮฺเพื่อบรรยายเกี่ยวกับข่าวคราวของอิรัก และทางผู้นำอิรักก็ได้ส่งละบีด อิบนฺ เราะบีอะฮฺ อัล-อามิรียฺ และอะดียฺ อิบนฺ หาติม อัล-ฏออียฺ  (al-Suyuytiy, n.d.: 1/56) มาพบท่าน หรือการที่อัมรฺ อิบนฺ อัล-อาศ ส่งมุอาวิยะฮฺ อิบนฺ ญุดัยอฺ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองอเล็กซานเดรีย อียิปต์ (al-Miqriziy,n.d.: 1/207)  เป็นต้น

         อัล-เฏาะบะรียฺได้กล่าวถึงหนังสือบางฉบับที่ท่านได้ส่งไปยังสะอัด อิบนฺ อบี วักก็อศ ในขณะที่กำลังทำสงครามอัล-กอดิสียะฮฺ ซึ่งทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลปัจจุบันของประชาชนอย่างต่อเนื่องว่า

"ดังนั้น ท่านจงอธิบายให้เราเข้าใจถึงลักษณะของบ้านเรือนและเมืองของชาวมุสลิมที่อยู่ระหว่างพวกท่านกับเมืองมะดาอิน จงอธิบายเหมือนกับฉันได้เห็นด้วยตัวเอง และจงให้ฉันรู้เรื่องพวกท่านอย่างชัดเจน " (al-Tabariy, 1988: 2/387)

         เช่นเดียวกันกับอับดุลลอฮฺ อัล-กอรี (2453 :37) ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่กองทัพอิสลามได้รับชัยชนะในการพิชิตเปอร์เซียและโรมันว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าถึงประชาชนของเคาะลีฟะฮฺอุมัรฺ ท่านกล่าวว่า  

        ด้านความสัมพันธ์ระหว่างอุมัรฺกับทหารมุสลิมนั้นนับว่ามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดมาก ต่างกับความสัมพันธ์ของจักรพรรดิเปอร์เซียกับประชาชนของพระองค์ ต่างกับจักรพรรดิไบเซนไทน์กับประชาชนผู้อยู่ใต้การปกครอง ซึ่งทั้งสองอาณาจักรดังกล่าวมีลักษณะของความเป็นเจ้าผู้เข้าครอบครอง อีกทั้งยังรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นชนชั้นศักดินาอีกด้วยและยังมีความไม่เป็นธรรมต่อผู้ใต้การปกครอง ต่างกับเคาะลีฟะฮฺอุมัรฺซึ่งเป็นที่เกรงกลัวแก่บุคคลทั่วไปแต่ทุกคนก็ยกย่องสรรเสริญและให้ความเคารพรักใคร่ในตัวท่าน