คนตาดี กับข้อคิดดีๆ ของคนตาบอด
  จำนวนคนเข้าชม  11662

 

คนตาดี กับข้ิอคิดดีๆ ของคนตาบอด

 

By : SA Student

 

          วันหยุดสบายๆบรรยากาศชายทะเล เดินตากลมชิวๆหาของกินตามประสาคนหิวยามวิกาล สูดหายใจเอากลิ่นลมผสมกลิ่นเกลือเข้าจมูกสองครั้งยาวๆเพื่อพักหายใจ … ทั้งๆที่รู้ว่าร้านรวงมักไม่เปิดรับลูกค้ายามวิกาลอย่างผมในขณะนี้ แต่ด้วยความหิว ทำให้ผมหวังลึกๆว่าจะมีร้านขายของชำเปิดบ้าง

 

What your eyes see, what your ears heard, your mind believe. "คนเราเชื่อในสิ่งที่สองหูฟัง และสองตามองเห็น"

 

         เดินมาตามคำบอกเล่าของชายแก่ๆคนหนึ่ง แกบอกว่ามีบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของในซอยนี้ … ทางเดินแคบๆทำเอาผมท้อใจไปไม่น้อย แต่ในที่สุด ผมก็มาถึงร้านที่ชายคนนั้นพูดถึง

 

What your eyes see, what your ears heard, your mind believe. "คนเราเชื่อในสิ่งที่สองหูฟัง และสองตามองเห็น"

 

         เดินหิ้วขนมปังครึ่งแถว เนยก้อนหนึ่ง กับไข่ครึ่งโหลกลับอพาร์ทเม้นท์ที่เช่าอยู่ชายทะเล ตอกไข่ใส่ชาม คนเคล้าไปมา เติมนมนิดหน่อย เทลงกะทะร้อนๆ ห่อขนมปังกินกับน้ำชาอุ่นๆ ลมสบายๆกับบรรยากาศชั้นห้าชายทะเล ทำให้ผมลืมความยากลำบากที่ดั้นด้นไปหาซื้อของมาไกลโขได้ไม่น้อย หลับตาลงนึกถึงเรื่องสะกิดใจเล็กๆ

 

         สองวันก่อนหน้านี้ผมนั่งคุยกับเพื่อนคนหนึ่งถึงเรื่องทั่วๆไป แม้เราจะรู้จักกันเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า "นี่เพื่อนเรา" เรามีหลายสิ่งคล้ายๆกัน ความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ไปจนถึงผู้หญิงในฝัน แต่สิ่งหนึ่งที่แยกเราสองคนอย่างชัดเจนคือ เพื่อนผมคนนั้นเป็นคนตาบอด!! เราคุยไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงเรื่อง "การมองเห็น"

 

นั่งอยู่มุมโปรดนอกระเบียง

SA .. : บรรยากาศดีมากเลย

เพื่อน .. : หือ?

SA .. : ชอบบรรยากาสข้างนอกมากเลย

เพื่อน .. : ชอบเหรอ?

SA .. : คนอื่นๆไม่รู้น่ะ เราชอบมาก

เพื่อน .. : ชอบยังไงอ่ะ?

SA .. : (อึ้ง) สวยมั้ง? คนเรามักชอบอะไรที่สวย

เพื่อน .. : ไม่นึกบ้างล่ะว่า คนเรามองสิ่งที่ชอบสวยไปหมด

SA .. : (อึ้งยกกำลังสอง) แล้วนายล่ะ?

เพื่อน .. : เรามองไม่เห็น

 

555 เราสองคนหัวเราะพร้อมกัน … หลังจากนั้นต่างคนต่างเงียบ

 

… ความเงียบบางครั้งก็สื่ออะไรได้มากเหลือเกิน …

 

——————————————————————————–

 

What your eyes see, what your ears heard, your mind believed. "คนเราเชื่อในสิ่งที่สองหูฟัง และสองตามองเห็น"

วลีโดนๆที่จำมาจากไหนไม่รู้ผุดขึ้นมาในหัวผม

 

หลายครั้งเหลือเกินเรามองอะไรที่เรา “ชอบ” แล้วเราเห็นว่า “มันดี” ทั้งๆที่ควรจะกลับกันคือ “มันดี” เราถึง “ชอบ”

 

… ปัญหาอยู่ที่ เมื่อไหร่เราจะรู้ว่ามัน “ดี” …

 

อัลลอฮฺ ทรงตรัสไว้ในกุรอ่าน

(อัลกุรอ่าน9:37) “ความชั่วแห่งบรรดาการงานของพวกเขาได้ถูกประดับประดาให้สวยงามแก่พวกเขา และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธา”

เป็นการเตือนสำทับอย่าได้หลงระเริงถึงการงานที่มนุษย์คิดว่าดี แต่ในสายตาของพระองค์มันไร้ค่า และเป็นสิ่งหลอกลวง

 

(อัลกุรอ่าน 25:1) “ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ ผู้ทรงประทานอัลฟุรกอน แก่บ่าวของพระองค์(มุฮัมมัด) เพื่อเขาจะได้เป็นผู้ตักเตือนแก่ปวงบ่าวทั้งมวล”

 

"อัล-ฟุรกอน" อั้ลลามาอฺ ซะอฺยูตีย์ให้คำอธิบายว่า

{ الذي نزل الفرقان } القرآن لأنه فرق بين الحق والباطل

หมายถึง อัล-กุรอ่าน ที่ใช้คำว่า “ฟุรกอน” เพราะมันจำแนกความเท็จออกจากความจริง

 

กอฎีย์ บัยฎอวีย์ ให้คำอธิบายว่า

{ الفرقان } مصدر فرق بين الشيئين إذا فصل بينهما سمي به القرآن لفصله بين الحق والباطل

รูปนามแท้ของมันคือ فرق หมายถึง การจำแนกสองสิ่งออกจากกัน เมื่อจำแนกแล้วเราเรียกว่า “القرآن” ด้วยเหตุที่มันแยกความจริงออกจากความเท็จ โดยการกล่าวย้ำเตือนอย่างสม่ำเสมอ(ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี)

 

ในคำอธิบายของอิบนิกะซัรก็ได้ให้น้ำหนักไปในทางเดียวกันคือ

أنه يفرق بين الحق والباطل والهدى والضلال والغي والرشاد والحلال والحرام

เพราะมัน(อัลกุรอ่าน)ได้จำแนกความจริงออกจากความเท็จ จำแนกทางนำออกจากทางที่หลงผิด ทางแห่งความเสื่อออกจากทางนำ และจำแนกสิ่งที่ฮาล้าออกจากสิ่งที่ฮารอม

 

แรงจูงใจของผู้ที่แสวงหาความจริง เช่นเดียวกับคนหิวที่เดินหาอาหาร การเดินตามทางที่ไม่รู้จักและเป็นเพียงคำบอกเล่า นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มา หลายครั้งเรารู้สึกท้อแท้ใจ นั่นเป็นการทดสอบความมุ่งมั่นแสวงหาความจริงเท่านั้น

 

What your eyes see, what your ears heard, your mind believed. "คนเราเชื่อในสิ่งที่สองหูฟัง และสองตามองเห็น"

 

รู้ได้อย่างไรว่า "จริง"

 

ผู้ศรัทธาทุกคนมีไม้บรรทัดอยู่กับตัว นั่นคืออัลกุรอ่านและแนวทางของท่านนะบีมุฮัมมัด จงใช้มันวัดทุกๆย่างก้าวของท่าน ให้หนทางที่ท่านเดินไป เป็นหนทางที่นำไปสู่ทางนำ

 

… “ไม่ใช่หนทางของผู้ที่พระองค์ทรงกริ้ว และไม่ใช่หนทางของผู้ที่พระองค์ให้หลงผิด” …

 

วัสลาม


http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=ali-wasal&group=6