การอดทนต่อเคราะห์กรรม และภัยพิบัติที่มาประสบ
  จำนวนคนเข้าชม  12233

 

การอดทนต่อเคราะห์กรรม และภัยพิบัติที่มาประสบ

โดย อ. กอเซ็ม เดชเลย์

 

มีรายงานจากท่านอนัส บิน มาลิก ระบุว่า :

ท่านนบี ได้เดินผ่านสตรีผู้หนึ่งที่กำลังร้องไห้อยู่ที่หลุมฝังศพ ท่านนบีจึงได้กล่าวกับนางว่า :

          จงยำเกรงอัลเลาะห์ และจงอดทนเถิด

นางจึงได้กล่าวตอบว่า :

          เจ้าจงไปให้ไกลๆฉันเลย เจ้ามิได้ประสบเคราะห์กรรมเช่นเดียวกับที่ฉันได้ประสบนี่(สตรีผู้นี้ไม่รู้จักท่านนบีมาก่อน)

ดังนั้นจึงมีคนบอกกับนางว่า :

          แท้จริงเขาผู้นั้นคือ ท่านนบี

นางจึงได้ไปที่ประตูบ้านของท่านนบี และพบว่าประตูบ้านของท่านนบีไม่มีใครเฝ้าอยู่ นางจึงได้กล่าวกับท่านรอซูลในเชิงขอโทษว่า :

          ฉันไม่รู้จักท่านมาก่อน

ท่านนบี จึงกล่าวว่า :

          การอดทนที่แท้จริงนั้น คือการอดทนในวินาทีแรกที่ประสบกับเคราะห์กรรม

บันทึกโดยอิมามบุคอรีย์


หมายเหตุ

           คำว่า : تبكي  ร้องไห้  ที่ระบุในฮะดีษนี้ มิได้หมายถึงการร้องไห้แบบธรรมดา หากแต่เป็นการร้องไห้แบบโหยหวน และตะโกนโวยวาย ท่านนบี จึงห้ามนางมิให้ร้องได้ในลักษณะดังกล่าว

           ส่วนการร้องไห้ มิได้ร้องตะโกนโวยวาย ไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิด หรือต้องห้ามแต่อย่างใด ดังหลักฐานจากคำพูดของท่านนบี เมื่อท่านกล่าวไว้อาลัยต่อบุตรชายของท่าน ที่มีชื่อว่าอิบรอฮีม :

           แท้จริง ดวงตานั้นย่อมจะต้องหลั่งน้ำตา(หมายถึงร้องไห้) และหัวใจนั้นย่อมจะต้องโศกเศร้า(กับการสูญเสีย) และเราจะไม่พูดสิ่งใด เว้นแต่สิ่งที่อัลเลาะห์ทรงพอพระทัยเท่านั้น และแท้จริงพวกเรานั้นเสียใจกับการจากไปของเจ้า โอ้อิบรอฮีม

           คำว่า : الصبر อดทน ที่ระบุในฮะดีษ มีความหมายตามหลักภาษาอาหรับว่า  : การระงับ การยับยั้งต่อสิ่งที่ใจไม่ปรารถนาและรังเกียจ

            ซึ่งการอดทนนั้นมีหลายประเภท หรือหลายชนิดด้วยกันคือ :

1. การอดทนต่อภัยพิบัติ หรือเคราะห์กรรมที่มาประสบ
2. การอดทนในการปฏิบัติสิ่งที่เป็นการเชื่อฟังและภักดี
3. การอดทนต่อการละทิ้งสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืน

อัลเลาะห์ ทรงตรัสว่า :

            จงบอกข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทน

คำอธิบาย

           การสูญเสียคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ลูกอันเป็นที่รัก หรือญาติสนิทมิตรสหายนั้น นับเป็นภัยพิบัติหรือเคราะห์กรรมที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บางที่ก็ไม่สามารถอดทน หรือยับยั้งความเสียใจเอาไว้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ศาสนาอิสลามก็ได้รักษา เยียวยาจิตใจของผู้ที่ประสบกับเคราะห์กรรม และทำให้ความเศร้าเสียใจเบาบางลง

           ดังนั้น สำหรับผู้ที่มีความศรัทธาแล้วเขาจะมีความยึดมั่น และเชื่อมั่นในการกำหนดสภาวการณ์ของอัลเลาะห์ และเชื่อมั่นว่าทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ หรือในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นความดี ความชั่ว สิ่งที่มีประโยชน์ สิ่งที่เป็นโทษ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกำหนดการณ์ของอัลเลาะห์ ที่ได้กำหนดเอาไว้แล้วทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้เองผู้ศรัทธาที่ยึดมั่น จึงมีความยินดี และพึงพอใจต่อการตัดสินของอัลเลาะห์ อนทน อดกลั้น และหวังในความพอพระทัยจากพระองค์

ดังดำรัสของอัลเลาะห์ ที่ว่า :

          ไม่มีเคราะห์กรรมอันใดเกิดขึ้นในแผ่นดิน และไม่มีแม้แต่ในตัวของพวกเจ้าเอง เว้นแต่ได้มีไว้ในบันทึกก่อนหน้าที่เราจะบังเกิดมันขึ้นมา แท้จริงนั่นเป็นการง่ายสำหรับอัลเลาะห์ เพื่อพวกเจ้าจะได้ไม่เสียใจ ต่อสิ่งที่ได้สูญเสียไปจากพวกเจ้า และไม่ดีใจต่อสิ่งที่พระองค์ทรงประทานแก่พวกเจ้า และอัลเลาะห์มิชอบผู้ที่หยิ่งจองหอง และผู้ที่คุยโตโอ้อวด
(อัลฮะดีด 57 : 22-23)

          นี่คือผลของการศรัทธา(อีมาน) ต่อการกำหนดสภาวะการงานต่างๆของอัลเลาะห์ ซึ่งมีผลทำให้เคราะห์กรรมหรือภัยพิบัตินั้นเบาบางลงไป

          ตรงกันข้าม สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาจะไม่มีความอดทนต่อสิ่งที่มาประสบถึงขั้นที่ว่าจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายก็มีมามาก เพราะไม่มีสิ่งใดยึดเหนี่ยวจิตใจของพวกเขา ไม่มีสิ่งใดจะมาบรรเทาความเจ็บปวดและทุกข์นั้นให้เบาบางลงไปได้

          แท้จริงแล้วผลตอบแทนของการอดทนอดทนนั้นยิ่งใหญ่มหาศาล เพราะเขาผู้นั้นได้หักห้ามและยับยั้งจิตใจในสิ่งที่ตัวเองไม่ปรารถนาได้ อีกทั้งยังได้ยับยั้งจิตใจมิให้กระทำในสิ่งที่เป็นการทำใหอัลเลาะห์ โกรธกริ้ว

อัลเลาะห์ ตรัสว่า :

           และเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทนเถิด คือบรรดาผู้ที่เมื่อมีเคราะห์กรรมมาประสบกับพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ และแท้จริงพวกเราจะกลับไปยังพระองค์ ชนเหล่านี้แหละพวกเขาจะได้รับคำชมเชยและการเอ็นดูเมตตาจากพระเจ้าของพวกเขา และชนเหล่านี้แหละ คือผู้ที่ได้รับข้อแนะนำอันถูกต้อง
(อัลบะเกาะเราะห์ 2 : 155-157)


           และยังมีฮะดีษอีกมากมายที่ท่านรอซูล ได้กล่าวถึงภาคผลหรือผลรางวัลของผู้ที่อดทน เมื่อเขาได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของเขา

ท่านรอซูลกล่าวไว้ในฮะดีษอัลกุดซีย์ว่า :

          อัลเลาะห์ ทรงตรัสว่า : เมื่อข้า(อัลเลาะห์) ได้เอาวิญญาณของบุคคลผู้ใกล้ชิดกับบ่าวที่เป็นมุอฺมินของข้า และเขาก็อดทนและห่วงในการตอบแทน ไม่มีสิ่งใดที่เขาจะได้รับ ณ ที่อัลเลาะห์นอกจากสวนสวรรค์

สาระที่ได้รับจากฮะดีษ

1. ฮะดีษนี้สอนให้มุสลิมทุกคนมีความอดทน และมีความยำเกรงต่ออัลเลาะห์ เมื่อได้ประสบกับเคราะห์กรรมหรือภัยพิบัติ
2. คำสอนของศาสนา คือ สิ่งที่จะมาเยียวยาและรักษาหัวใจของผู้ประสบกับเคราะห์กรรม
3. ผลรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่ผู้อดทนจะได้รับ
4. การที่ไม่พบผู้ใดเฝ้าประตูบ้านของท่านนบี แสดงให้เห็นถึงความถ่อมตน และการมีชีวิตแบบเรียบง่ายของท่าน

 

 


 

 

เผยแพร่โดย : สายสัมพันธ์