มิตรภาพและความรักระหว่างชายและหญิง

แปลโดย นูรุลนิซาอ์

คำถาม

          ผมทราบว่า  การคบกันกับเพื่อนหญิงในสถานะคนรักโดยที่ยังไม่ได้มีการแต่งงานกันนั้น  เป็นสิ่งที่จะทำลายครอบครัวและนำมาซึ่งความหายนะในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย 

         แต่ถ้าหากผมและเพื่อนหญิง  ยังคงสถานะในการเป็นเพื่อนกัน  โดยไม่ให้ผู้อื่นได้รู้ว่าเราได้คบกัน  เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน  โดยที่พวกเรายืนยันได้ว่าการที่เราอยู่ด้วยกันนั้น จะไม่มีการกระทำในสิ่งที่ผิดหรือการกระทำซินาใด ๆ  จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน  

          ไม่ทราบว่า  การกระทำดังกล่าวของผมนี้เป็นที่อนุมัติหรือไม่  และมีเรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่เป็นที่ต้องห้าม ว่าอย่างไรบ้างครับ

บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์อัลลอฮ

คำตอบ

ข้อแรก

         ในการคบกันระหว่างชายหญิง  ในสถานะคนรักนั้น  ไม่เพียงแต่จะเป็นการทำลายครอบครัว  แต่ยังเป็นการทำลายสังคม  และผู้ที่กระทำดังกล่าวนั้น  จะได้รับการลงโทษและได้รับการโกรธเคืองจากพระองค์อัลลอฮ  เนื่องจากความรักนั้น  คือโรค  ที่ทำร้ายหัวใจและนำมาซึ่งความชั่วร้ายและการผิดศีลธรรม  ซึ่งชัยฏอนจะคอยล่อลวงเขาและผลักดันเขา  จะกระทั่งเขาได้กระทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม  และสุดท้ายแล้ว  ชัยฏอนจะล่อลวงให้พวกเขาต่างกระทำให้สิ่งที่ฝ่ายชายมีความต้องการที่จะได้จากฝ่ายหญิง  และฝ่ายหญิงมีความต้องการที่จะได้จากฝ่ายชาย

         ซึ่งการกระทำในที่นี้มีหลายอย่างที่เป็นที่ต้องห้าม  ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดต่อเกียรติยศของทั้งสองฝ่าย  การไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน  การอยู่เพียงลำพังกับเพศตรงข้าม  การสัมผัส การจูบ การพูดจาเกี้ยวพาราสี  หรือคำพูดที่ผิดศีลธรรม  และความชั่วร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นก็คือ  การทำซินา(ผิดประเวณี) 

         และการที่ผู้ถามได้พูดว่า  โดยไม่ให้ผู้อื่นได้รู้ว่าเราคบกันนั้น  เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง  เนื่องจาก  พระองค์อัลลอฮ    นั้นเป็นผู้ที่ทรงรอบรู้ยิ่ง  พระองค์ทรงรู้ในสิ่งที่ท่านซ้อนเร้นและสิ่งที่ปกปิดยิ่งกว่า 

"และพระองค์ทรงรอบรู้ถึงการทรยศของดวงตาและสิ่งที่ทรวงอกปกปิดอยู่"

(ซูเราะฮ  Ghaafir  40:19)

           เราขอให้คำแนะนำแก่ผู้ถาม  ซึ่งอายุของท่านยังน้อยอยู่นั้น  ให้ท่านหมั่นฝึกฝนตนเองให้เชื่อฟังในคำสั่งของพระองค์อัลลอฮ  และพึงรำลึกไว้เสมอว่า  พระองค์คือผู้ทรงมองเห็น  จงเกรงกลัวพระองค์ในเรื่องของเกียรติยศของผู้คนเถิด  จงแข่งขันในการทำความดีเพื่อวันที่ท่านจะได้พบกับพระผู้อภิบาลของท่านพร้อมกับบรรดาการงานของท่าน  พึงรำลึกไว้เถิดว่าการงานที่ไม่ดีที่ท่านได้ทำนั้น  ท่านก็จะพบกับมันทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า 

          ท่านพึงรำลึกไว้เถิดว่า  ตัวท่านเองก็คงจะมีพี่สาวและน้องสาว  และอาจจะมีภรรยาและลูกสาว  ซึ่งท่านเอง  ก็คงไม่อยากจะให้สมาชิกคนใดในครอบครัวของท่าน  ได้รับการกระทำดังกล่าว  ในเรื่องที่ท่านกำลังกระทำกับลูกสาวของพี่น้องมุสลิมอยู่นี้  ในเมื่อตัวของท่านเองไม่ต้องการให้การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของท่าน  ผู้อื่นก็ไม่ต้องการเช่นเดียวกัน  และพึงรำลึกไว้เถิดว่า  ผลของการกระทำในสิ่งที่ผิดนี้  คุณอาจจะพบมันซึ่งเป็นการลงโทษจากพระองค์อัลลอฮ  ให้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของคุณเอง

          คุณต้องมองหาเพื่อนที่ดีมาเป็นเพื่อน  คุณต้องทำตัวของคุณเองในการหมั่นทำกิจการงานที่พระองค์อัลลอฮ์  ทรงรักและพอพระทัย  จงอาศัยความอดทนและพยายามให้มากในการทำในสิ่งที่ดีที่ประเสริฐ  และหลีกห่างจากเรื่องชั่วร้ายและสิ่งที่เป็นบาปต่าง ๆ  จงใช้อายุในวัยหนุ่มของท่านให้หมดไปกับการเชื่อฟังและภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของท่านเถิด จงศึกษาหาความรู้และเรียกร้องเชิญชวนผู้อื่นให้ไปสู่แนวทางของพระองค์อัลลอฮเถิด 

          ซึ่งในสมัยของนะบีมุฮัมมัด  ชายหนุ่ม  ซึ่งมีอายุเท่ากันกับท่าน  หรือมีอายุน้อย     กว่าท่าน  จำนวนไม่น้อยเลย  ที่เขาเป็นผู้จดจำอัลกุรอ่าน  เป็นผู้แสวงหาความรู้  เป็นผู้ที่ นะบีมุฮัมมัด    ใช้เขาให้ออกไปเรียกร้องผู้คนให้เข้ามาอยู่ในแนวทางของพระผู้เป็นเจ้า  และเชิญชวนผู้อื่นให้เข้ามาสู่ศาสนาอิสลาม

           เราขอแนะนำให้ท่านทำการแต่งงาน  ซึ่งเป็นหนทางที่ถูกต้อง   ท่านควรเลือกแต่งงานกับหญิงผู้ศรัทธา  ผู้ที่จะช่วยคุณในการยึดมั่นในแนวทางของศาสนา  และสนับสนุนคุณในการดำเนินตามกฎคำสั่งใช้ของพระองค์อัลลอฮ์  ผู้ที่จะดูแลบรรดาลูก ๆ ของคุณให้เติบโตขึ้นมาด้วยกับศีลธรรมและการกระทำที่ถูกต้องตามหลักศาสนา 

          คุณควรจะยุติความสัมพันธ์กับสตรีที่คุณกำลังคบอยู่นี้  เนื่องด้วย เธอมีความยินดีที่จะออกไปอยู่กับชายผู้แปลกหน้าสำหรับเธอ  (ไม่ใช่มะฮรอม)   ยินดีที่จะพบปะและพูดคุยกับชายแปลกหน้าผู้นี้  ซึ่ง ณ เวลานี้  เธอยินดีในการกระทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมเหล่านี้แล้ว  ในอนาคตข้างหน้า  เธอจะสามารถปกป้องตัวของเธอเองไม่ให้กระทำในสิ่งที่ผิดบาปอื่น ๆ ได้อย่างไร

          พึงรำลึกไว้เถิดว่า  คุณกำลังทำให้พระผู้เป็นเจ้าทรงกริ้ว  ด้วยกับความผิดที่คุณอยู่กับสตรีเพียงลำพังสองต่อสอง  การที่พบและพูดคุยกับเธอ  และหากคุณจะทำให้สิ่งที่ผิดบาปมากกว่านี้  พระองค์จะทรงเพิ่มความกริ้วโกรธแก่คุณมากยิ่งขึ้น

          คุณควรจะตระหนักด้วยกว่า  ซินานั้น  ไม่ใช่เพียงการทำผิดประเวณีเท่านั้น  แต่ยังมีซินาทางสายตา  ซึ่งเป็นการมองในสิ่งที่ต้องห้าม  การฟังที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดซินาได้  มือที่ทำในสิ่งที่จะทำให้เกิดซินา  ดังที่ท่านนะบีมุฮัมมัด ได้กล่าวไว้ว่า  ทุกส่วนนั้นล้วนนำไปสู่การทำให้เกิดซินา (ผิดประเวณี) 

          ดังนั้น  จงอย่าปล่อยให้ชัยฏอนซึ่งมันเป็นศัตรู  คอยหลอกลวงให้กระทำในความผิดบาป  และคอยบอกให้กระทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม 

เชค Muhammad al-Saalih al-‘Uthayameen กล่าวว่า  

          การติดต่อกันระหว่างชายหญิงในกรณีของคู่รักนั้น  เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องตามหลักการ  ซึ่งเป็นความหายนะและเป็นภัยพิบัตโดยแท้  มันเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตสำหรับชายหรือหญิงในการที่จะติดต่อกันในกรณีนี้   ซึ่งถ้าหากฝ่ายชายมีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับฝ่ายหญิงแล้ว  เขาต้องเข้าไปบอกกล่าวแก่วะลีหรือผู้ปกครองของฝ่ายหญิง  ว่าเขามีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับนาง  เช่นเดียวกันกับที่ฝ่ายหญิงเองก็จะต้องทำการบอกกับผู้ปกครองของหล่อน  เมื่อหล่อนมีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับฝ่ายชาย

         ดังที่ท่านอุมัร  ได้ทำการเสนอลูกสาวของท่าน (ท่านหญิง Hafsah)  ให้ทำการแต่งงานกับท่านอะบูบัก  แต่การที่ฝ่ายหญิงจะทำการติดต่อกับฝ่ายชายโดยตรงนั้น  ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดฟิตนะขึ้นได้  (As’ilat al-Baab il-Maftooh คำถามที่ 868)

ข้อที่สอง

         จากคำถามที่เกี่ยวข้องกับ  ความสัมพันธ์ที่เป็นที่ต้องห้ามในเรื่องราวของความรัก  ในสมัยอดีตนั้น  เราไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานที่สอดคล้องกับหลักชารีอะได้  เนื่องจากเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นกับบุคคลก่อนหน้าเรานั้น  ไม่ได้อยู่ในกฎของชารีอะ  ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้ในการตัดสินเรื่องต้องห้ามและเรื่องที่ศาสนาอนุญาตให้ทำ  โดยใช้แม่บทมาจากอัลกุรอ่านและซุนนะฮ์  ซึ่งเป็นคำสั่งใช้และคำสั่งห้าม

         และบางเรื่องราวก็ได้เกิดขึ้นมาก่อน  การมาของศาสนาอิสลาม  เช่นเรื่องราวของ  ‘Antarah’ และบุคคลอื่น ๆ  ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดในวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีนั้น  เราก็ไม่สามารถที่จะยึดเรื่องราวดังกล่าวนั้น   เป็นกฎของชารีอะได้  เนื่องจากการมาของศาสนาอิสลามนั้น  มีมาเพื่อจะนำทางผู้คนให้ออกจากสิ่งที่เขาปรารถนาจะประพฤติปฏิบัติตามความใคร่ของเขา แต่ให้เขาเป็นผู้ยอมตน  เพื่อพระองค์อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลกเพียงองค์เดียว

เราวิงวอนของทางนำจากพระองค์และขอให้เราได้ยืนหยัดได้ในหนทางของพระองค์

ที่มา  http://www.islamqa.com/en/cat/58