รู้จัก...โรคตาแดงในเด็กเล็กหรือยัง ?
  จำนวนคนเข้าชม  12177

รู้จัก...โรคตาแดงในเด็กเล็กหรือยัง ?


            บรรดาโรคติดเชื้อ หรือที่เข้าใจกันอย่างง่ายว่า "โรคติดต่อ" นั้น นอกเหนือจากโรคหวัด ที่ขึ้นชื่อเป็นเบอร์หนึ่งพบได้บ่อยแล้ว อีกหนึ่งโรคที่ต้องทำความรู้จัก ระวังไว้ก่อนก็คือ "โรคตาแดง" ที่ส่วนมากพบได้ในช่วงหน้าฝนค่ะ แล้วตาแดงที่เกิดขึ้นกับเด็กเล็กมีสาเหตุ มาจากอะไร มีวิธีป้องกัน และรักษาอย่างไรนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ...
 
 


ตาแดงเพราะอะไร ?

          โรคตาแดงในเด็กแรกเกิดมักจะพบในช่วง 1 เดือนแรกคลอด ซึ่งอาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อหรือไม่ก็ได้ สิ่งที่คุณแม่จะต้องระวังเมื่อพบตาแดงในเด็กแรกคลอด คือการติดเชื้อแบคทีเรีย คลาไมเดีย (Chlamydia) หรือเชื้อไวรัสก็ได้ ซึ่งเด็กแรกเกิดอาจได้รับเชื้อขณะที่ผ่านช่องคลอดของ แม่ในกระบวนการคลอด

         หากเด็กแรกเกิดเป็นตาแดงแล้ว นอกจากอาจรุนแรงจนทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นได้ แล้ว เชื้อโรคอาจแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง หัวใจ และอาจทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกและให้การรักษาอย่างรวดเร็ว จึงมีความสำคัญมาก เชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคตาแดงที่พบได้บ่อย คือ


           เชื้อแบคทีเรียหนองใน จะทำให้เกิดอาการตาแดงตั้งแต่เด็กอายุ 3-5 วัน เชื้อชนิดนี้มีความรุนแรงจนทำให้ตาบอดได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนใหญ่มักพบทั้งสองตา มีขี้ตาที่เป็นหนองจำนวนมาก อาจมีแผลที่กระจกตาหรือแผลลุกลามจนกระจกตาทะลุ และมีการติดเชื้อเข้าไปในลูกตา


          เชื้อคลาไมเดีย มักพบในเด็กอายุ 5-14 วัน ทำให้เกิดตาแดง เปลือกตาบวม มีขี้ตาเหนียวแต่ไม่มากนัก หากไม่ได้รับการรักษาเชื้อชนิดนี้จะทำให้เกิดแผลเป็นที่เปลือกตา เยื่อบุตาและกระจกตาได้


           เชื้อไวรัสเริม มักพบใน 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด เชื้อชนิดนี้ทำให้เกิดตาแดง เป็นแผลที่กระจกตา อาจเห็นตุ่มน้ำรอบๆ เปลือกตา ถ้าไม่รักษาอาจกลายเป็นแผลเป็นฝ้าขาวที่กระจกตา และเชื้ออาจลุกลามไปที่สมองทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้
อาการแบบไหนเรียกว่าตาแดง

          หากลูกเป็นโรคตาแดง ดวงตาของลูกจะมีขี้ตามาก โดยเฉพาะ ในช่วงเช้าๆ น้ำตาไหล เจ็บตา เคืองหรือแสบตา เกิดตุ่มเล็กๆ ขึ้นบริเวณดวงตา และอาจมีเลือดออกใต้เยื่อบุตา ทำให้ตาดูแดงจัด นอกจากนี้เด็กที่เป็นโรคตาแดงมักมีอาการไข้หวัดนำมาก่อน เช่น เจ็บคอ มีไข้ เพราะเกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกัน

         ถ้าเป็นในเด็กเล็กต่ำกว่าขวบ ก็จะมีอาการเช่นเดียวกับเด็กโต แต่เด็กเล็กไม่สามารถบอกอาการเองได้ ดังนั้น คุณแม่จึงต้องสังเกตดวงตาของลูกน้อยอยู่ตลอดว่า เด็กมีตาขาวสีแดง ตาดูฉ่ำๆ ขยี้ตาหรือกะพริบตาบ่อยกว่าปกติ มีขี้ตาติดที่หัวตาหรือที่เปลือกตาโดยเฉพาะช่วงตื่นนอน ร้องไห้งอแงกว่าปกติหรือไม่


ดูแลลูกน้อยเมื่อเป็นตาแดง

          เมื่อคุณแม่รู้ว่าลูกน้อยเป็นตาแดง ก็ควรพาลูกไปพบคุณหมอ ไม่ควรซื้อยาทาหรือยาหยอดตาเอง ซึ่งคุณหมอจะให้ยาหยอดตามาหยอด ซึ่งอาการตาแดงของลูกจะดีขึ้นและหายภายใน 2-4 สัปดาห์

          แต่ในเด็กที่ยังเล็กมาก การหยอดยาอาจทำได้ลำบาก คุณหมออาจให้ยาป้ายตาเพียงอย่างเดียว ซึ่งวิธีการหยอดตาหรือป้ายตานั้น ให้คุณแม่ดึงเปลือกตาล่างลงมาพร้อมกับให้ลูกเหลือบตา มองขึ้นด้านบน ก็จะมีช่องพอที่จะให้คุณแม่หยอดยาหรือป้ายยาลูกได้ถนัดขึ้น ในเด็กเล็กอาจต้องมีคนช่วยจับศีรษะ หรือหาของเล่นมาล่อ

          ให้ลูกเหลือกตาขึ้นด้านบนกันลูกดิ้น แต่ถ้ามีอาการไม่สบายตาหรือตาบวมมาก คุณแม่ก็สามารถใช้น้ำแข็งประคบบริเวณรอบดวงตาให้ลูกได้ และถ้ามีขี้ตามาก ควรทำความสะอาดเปลือกตาหรือขอบตาด้วยสำลีชุบน้ำสะอาด


ป้องกันตาแดงให้ลูกน้อย

         โรคตาแดงเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายจากทั้งขี้ตาและน้ำตา ในเด็กเล็กจะได้รับเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายถ้าไม่ระมัดระวังไปสัมผัสเชื้อโรคและขยี้ตาของตัวเอง ดังนั้น คุณแม่ต้องพยายามอย่าให้ลูกขยี้ตา ล้างหรือเช็ดมือให้ลูกบ่อยๆ รวมถึงก่อนและหลังเช็ดหรือหยอดตาให้ลูก คุณแม่ต้องล้างมือให้สะอาดเสมอ เวลาเช็ดตาให้ลูกควรใช้สำลีเช็ดจากหัวตาไปยังหางตาและเปลี่ยนก้อนใหม่ เมื่อต้องเช็ดซ้ำหรือเช็ดอีกข้าง
 


ที่มาข้อมูล : www.junjaowka.com

www.siamdara.com