แพ้ท้องเป็นเรื่องธรรมชาติ..จริง ๆ นะ
  จำนวนคนเข้าชม  42615

แพ้ท้องเป็นเรื่องธรรมชาติ..จริง ๆ นะ


นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
 
 
 

      สาเหตุของการแพ้ท้อง ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทราบแน่นอนว่าเกิดจากอะไร บางตำราก็ว่าเป็นเพราะปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อฮอร์โมนที่รก และทารกสร้างขึ้น ยิ่งทารกแข็งแรงมาก ก็ยิ่งสร้างฮอร์โมนออกมามาก ก็ยิ่งแพ้ท้องมาก แต่ถ้าทารกไม่ค่อยแข็งแรง ไม่เป็นตัว เป็นท้องลม มีภาวะเสี่ยงต่อการแท้ง ฮอร์โมนน้อย ก็เลยไม่ค่อยแพ้
      
       พอท้องแล้วก็ไม่ใช่ว่าต้องแพ้ท้องทุกคน คุณแม่ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่จะมีอาการแพ้ท้อง บางคนแพ้มาก บางคนแพ้น้อย คนที่แพ้น้อย ๆ อาจแค่เหม็นอาหารนิด ๆ หน่อย ๆ วิงเวียนคลื่นไส้ ไม่ถึงกับอาเจียน คนที่แพ้มาก ๆ อาจจะอาเจียนตลอด เช้าสายบ่ายค่ำ กินอะไรนิดก็อาเจียน ได้กลิ่นอะไรหน่อยก็อาเจียน
      
       นอกจากนี้ คุณแม่ส่วนใหญ่มีอาการอ่อนเพลีย อยากนอนทั้งวัน ไม่อยากไปไหน เหมือนมีไข้ต่ำ ๆ ปากแห้ง น้ำลายขม กินอะไรไม่อร่อย อารมณ์แปรปรวน หงุดหงุดง่าย ขี้งอน ขี้น้อยใจมากกว่าปกติอีกต่างหาก
      
       แพ้ท้อง รักษาได้ด้วยกาลเวลา
      
       รักษาแพ้ท้องก็เหมือนรักษาอาการอกหัก คือรักษาด้วยกำลังใจและกาลเวลา (คนไม่เคยอกหักคงไม่เคยเข้าใจ) เมื่อแพ้ท้อง ไม่ว่าจะทำยังไง กินยาอะไร มันก็ยังแพ้ท้องอยู่ดี ได้แต่รอวันเวลาผ่านไปก็จะดีขึ้นตามลำดับ ยิ่งสัปดาห์ที่ 16 - 18 เมื่อเริ่มรู้สึกได้ว่าลูกดิ้น อาการแพ้ท้องก็ยิ่งหายสนิท มันเป็นความรู้สึกที่คุณแม่จับต้องได้ถึงชีวิตอีกชีวิตหนึ่งภายในครรภ์ของคุณแม่เอง ความรู้สึกนี้จะช่วยย้ำให้จิตใต้สำนึกของคุณแม่ยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แล้วก็จะตามมาด้วยช่วงของการ "กินล้างแค้น"
      
       ถึงแม้ว่าอาการแพ้ท้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะจิตใจค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ได้เป็นการเสแสร้างเพื่อเรียกร้องความสนใจ และเป็นอาการที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น คุณพ่อและคนรอบข้างต้องเข้าใจ และคอยช่วยเหลือให้กำลังใจ ก็จะมีส่วนทำให้อาการแพ้ท้องดีขึ้นได้ แต่หากคุณพ่อไม่เข้าใจ รู้สึกรำคาญ หรือหมดความอดทน ก็อาจทำให้ภาวะจิตใจของคุณแม่แย่ลง อาการแพ้ท้องก็อาจเป็นมากขึ้นกว่าเดิมได้
      
       เมนูพิเศษสำหรับคนแพ้ท้อง
      
       คุณแม่บางคนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินไปอย่างผิดหูผิดตา ของที่เคยชอบกลับไม่ชอบ ของที่เคยไม่ชอบอาจทานได้ บางคนชอบทานรสจัด ๆ ของเปรี้ยว ๆ เช่น บ๊วย มะนาวดอง ฯลฯ ตอนซื้อก็ควรเลือกดี ๆ หน่อย แบบที่มีตรา อย. จะดีกว่าซื้อแบบที่ล้วงออกมาจากขวดโหล จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย
 
       อาหารการกินของคุณแม่ในช่วงนี้มีความสำคัญมาก จะกินได้มาก หรือน้อยขึ้นกับของที่จะกินนี่แหล่ะ
      
       อาหารของคนแพ้ท้องควรเป็นอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย ๆ เพราะในระหว่างตั้งครรภ์ ฮอร์โมนที่สูงขึ้นจะมีผลทำให้ลำไส้ทำงานช้าลง อาหารที่ย่อยยากจะผ่านไปได้ยาก มีอาการอืด แน่นท้องได้
      
       อาหารที่มีกลิ่นคาว หรือมัน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการกระตุ้นให้อาเจียนได้ง่าย ๆ เช่น  ข้าวต้มปลา จะมีกลิ่นคาวมากกว่าข้าวต้มขาวกับไข่เค็ม  เป็นต้น
      
       ไม่ได้กินอะไรเลย แล้วลูกจะโตหรือ
      
       คนที่แพ้ท้องมักไม่แท้ง คนที่แท้งมักจะไม่แพ้ท้อง ยิ่งลูกในท้องแข็งแรงมาก ก็จะสร้างฮอร์โมนออกมามาก แม่ก็ยิ่งแพ้มาก หมอจึงมักแอบดีใจว่า ลูกในครรภ์มักจะแข็งแรง แม้ว่าแม่จะสุดโทรมก็ตาม
      
       ลูกในครรภ์ช่วง 12 สัปดาห์แรกจะไม่ได้ใช้อาหารที่แม่กินเข้าไปสักเท่าไร ช่วงแรก ๆ ลูกในครรภ์จะมีถุงอาหารของเขาเองติดตัวมาด้วย เหมือนไข่ไก่ที่มีไข่แดงเป็นถุงอาหารสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน คุณแม่ที่แพ้ท้องมาก ๆ จึงไม่ควรกังวลว่าลูกจะไม่มีกินนะครับ ลูกจะใช้อาหารจากไข่แดงที่ติดตัวเขามา เมื่อใช้หมด เขาก็จะใช้อาหารจากกระแสเลือดของแม่ที่แม่เก็บสะสมเอาไว้ก่อน ไม่ได้ใช้อาหารที่แม่พึ่งจะกินเข้าไป ไม่ว่าแม่จะกินหรือไม่ได้กิน ลูกก็จะดูดซึมอาหารจากแม่ด้วยอัตราคงที่
      
       เรื่องแพ้ท้องนี้สำคัญอยู่ที่กำลังใจ ท่องเอาไว้เลยว่า เริ่มที่ 6 สัปดาห์ หนักที่ 9 หายที่ 14 สัปดาห์ แพ้แล้วเดี๋ยวมันก็ชนะเอง ขอเพียงเวลาเท่านั้น ตอนนี้แค่ต้องการกำลังใจให้ตัวเองเยอะ ๆ นับวันเวลาไว้ อีกไม่นานเดี๋ยวก็หายแล้ว มองไปข้างหน้า แล้วเราจะมองเห็นแสงสว่างเสมอ กำลังใจและกาลเวลาจะช่วยทำให้คุณแม่ผ่านพ้นวันอันแสนทรมานไปได้ในที่สุด
      
       ไว้หายแพ้เมื่อไหร่ ค่อยกลับมากินล้างแค้นก็ยังไม่สายนะครับ
 
 


Life & Family / Manager online