สอนอย่างไรให้ลูกรู้ "ซ้าย - ขวา"
  จำนวนคนเข้าชม  13637

สอนอย่างไรให้ลูกรู้ "ซ้าย - ขวา"
 

 
       วัยทารกและเด็กเล็กถือเป็นวัยที่ว่ายวนอยู่กับพัฒนาการหลายอย่างที่จะหล่อหลอมให้เขาเติบโตขึ้นตามวัย ภาษาเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการที่ทำให้พวกเขาทั้งสนุก ทั้งค้นหาและเลียนแบบ พวกเขาจะฟังในทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในโสตประสาทโดยเฉพาะที่คุณพูด แล้วเจ้าตัวน้อยก็จะทำการเลียนแบบ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงมีคำแนะนำออกมาไม่ให้เด็กเรียนรู้ภาษาจากเด็กด้วยกันเองเพราะตามธรรมชาติเด็กน้อยจะเรียนรู้ภาษาจากพ่อแม่ของเขาเอง
      
       ดังนั้นคุณอยากให้ลูกพูดแบบใด วิธีการที่ดีที่สุดคุณต้องเป็นแบบอย่างให้ลูกเช่นนั้นด้วย เจ้าตัวน้อยไม่ได้เล็กเกินไปที่จะเรียนรู้ และหลายครั้งเขาอาจจะทำให้คุณถึงกับอึ้งไปกับภาษาที่เขาเข้าใจในแบบฉบับของเขาเอง แถมยังเจื้อยแจ้วออกมาชนิดที่ว่าคุณคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
      
       เช่นเดียวกับการสอนให้เขารู้จักซ้าย และขวา หลักการง่าย ๆ เบื้องต้นคือ พูดสองคำนี้ทุกครั้งที่คุณต้องใช้มัน แล้วเจ้าตัวเล็กของคุณจะค่อย ๆ ซึมซับและเลียนแบบไปทีละเล็กละน้อยเอง ลองมาดูขั้นตอนง่ายๆและทำตามกันดู
      
       ขั้นที่หนึ่ง ทุกครั้งที่หอมแก้มลูกน้อย คุณอาจพูดประโยคที่ให้เขารับรู้ซ้ำๆว่า นั่น คือ ซ้าย หรือ ขวา เช่น “มาจุ๊บแก้มซ้าย. “มาจุ๊บแก้มขวา” หรือ เวลาเล่นจั๊กจี้ฝ่าเท้าลูก ก็ย้ำว่าเป็นเท้าซ้าย หรือเท้าขวา ไปด้วยทุกครั้ง
      
       ขั้นที่สอง เรียนรู้ยามช้อปปิ้งในรถเข็น เวลาที่เข็นรถที่เอาลูกนั่งไปด้วย ระหว่างที่ผ่านชั้นวางสินค้าสารพัด ก็ชี้ชวนให้ลูกดูพร้อมพูดซ้าย ขวา บ่อย ๆ เช่น “ดูดอกไม้สีแดงที่ด้านขวานั่นสิลูก”
      
       ขั้นที่สาม เมื่อลูกน้อยหัดคลาน คุณก็ลงไปนอนราบกับพื้นเล่นลูกบอลกับเขาแล้วบอก “เอ๊...ลูกบอลอยู่ไหนน้า...” “อ่อ...อยู่ใกล้แขนข้างซ้ายของลูกงัยจ๊ะ”
      
       ขั้นที่สี่ ลูกน้อยวิ่งซน เวลาไปเดินซื้อของเจ้าจอมซนมักไม่อยู่นิ่ง คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย แต่เปลี่ยนเป็นส่งเสริมให้เขาเรียนรู้ซ้าย ขวา ด้วยการบอกให้เขานำทาง (ไหน ๆ ก็ไม่ยอมให้จับอยู่แล้ว) ทำเป็นเล่นเกมหาของไปซะเลย
      
       ขั้นที่ห้า เดินหารถในลานจอด “โน่น รถเราอยู่ทางขวานั่นไง” (แต่อย่าลืมจับลูกให้ปลอดภัยก่อน เพราะรถอาจวิ่งเข้า ออก สวนมาเป็นอันตรายได้)
      
       ขั้นที่หก เล่นเกมซ่อนหา ลูกหาเราไม่เจอ คุณอาจส่งเสียงบอกทาง “เลี้ยวขวาซิคะลูก”
      
       ขั้นที่เจ็ด ยามที่จอมซนเริ่มหาของเล่นตัวเองไม่เจอ คุณต้องใจเย็น อย่าด่วนใจร้อนเดินไปหยิบให้ลูกเสียเองล่ะ ค่อย ๆ บอกเขา “อยู่ในลิ้นชักด้านขวามือไงจ๊ะ”
      
       ขั้นที่แปด ชี้โน่นชี้นี่ให้ดูระหว่างนั่งไปในรถ “ลูกดูช้างทางขวานี่สิจ๊ะ”
      
       ขั้นที่เก้า เมื่อลูกโตขึ้นอีกนิดก่อนวัยเรียน อาจทิ้งป้ายราคารองเท้าไว้ข้างใดข้างหนึ่ง หรือถ้าลูกเดินไม่สะดวก อาจหาของมาประดับเก๋ ๆ แทน เพื่อให้เขาจำได้ว่าทุกครั้งที่ก้าวย่างด้วยข้างที่มีป้ายหรือของประดับอยู่คือข้างซ้าย หรือ ขวาเสมอ ๆ นั่นเอง
      
       เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและข้อควรจำ
      
       -คุณต้องอย่าเผลอใช้คำว่า “ตรงนั้น ตรงนี้ หรือ ตรงโน้น” แทน “ทางซ้าย” หรือ “ทางขวา” เด็ดขาด ยกเว้นว่าจะสอนลูกเรื่องระยะใกล้ ไกล
      
       -ลูกอาจเกิดอาการหงุดหงิดกับบทฝึกที่เขาจะต้องแสดงออก แต่นั่นจะกลายเป็นการเรียนรู้โดยธรรมชาติและเข้าใจไปโดยทันที
      
       -ถ้าลูกไปผิดทิศทาง คุณอย่าเผลอแสดงอาการผิดหวังหรือหงุดหงิดเด็ดขาด แต่ต้องไปทำให้เขาเห็นว่าทางไหนถูก
      
       -อย่าสับสนเองเวลาคุณหันหน้าเข้าหาลูกว่าทางไหนกันแน่ คือ ซ้าย และ ขวาของลูก
      
       พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของลูก ฉะนั้นหากต้องการให้ลูกเรียนรู้แบบไหน การกระทำและแสดงออกของพ่อแม่คือบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับเขา
 
 

Manager online / life & Family