คำแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจะสังคมกับผู้คน 2
  จำนวนคนเข้าชม  6261

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจะสังคมกับผู้คน

 (ตอนที่ 2)


คำถาม

         ผมไม่ชอบที่จะสังคมกับคนอื่น ๆ และผมชอบที่จะอยู่เพียงลำพัง  ผมมีความรู้สึกกังวลเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น  แต่ท่านนบีมุฮัมมัด  ได้สั่งใช้ให้พวกเราทำการละหมาดในมัสยิด  ผมควรจะทำเช่นไร เมื่อผมปรารถนาที่จะไม่ละหมาดมากกว่าการไปละหมาดที่มัสยิด


บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮฺ


อันดับที่สอง

          ถ้าคุณรู้สึกเป็นกังวลเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น  ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็เชื่อมั่นได้เลยว่า  คุณเองก็คงไม่ได้รู้สึกดีกับการอยู่เพียงลำพังหรือแยกตัวออกมาจากผู้คน  เช่นเดียวกันกับที่หมาป่ามักจะกินแกะที่หลงออกมาจากฝูงของมัน  และชัยฏอนนั้นก็จะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นกับบุคคลที่แยกตัวออกมาเพียงลำพังซึ่งเขานั้นจะขาดผู้ช่วยเหลือในการให้เขาเชื่อฟังต่อพระผู้เป็นเจ้า หรือขาดผู้ให้การสนับสนุนที่จะต่อสู้กับชัยฏอนและพลพรรคของมัน 

          แม้ว่าการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นนั้นอาจนำมาซึ่งความรำคาญใจให้กับคุณ  แต่ถ้าคุณเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นด้วยกับความอดทน  มันจะเป็นการดีกว่าการที่คุณไม่สังคมกับใครเลย  ซึ่งท่านนบีมุฮัมมัด   ได้กล่าวสรรเสริญบุคคลที่อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นและเผชิญต่อการความยุ่งยากด้วยกับความอดทน

ได้มีรายงานจากท่านอิบนุ อุมมัรว่า  ว่า ท่านเราะซูล   ได้กล่าวเอาไว้ว่า 

“ผู้ศรัทธาที่อยู่ร่วมกันกับผู้คนและเผชิญกับความยุ่งยากด้วยกับความอดทนนั้น 

เขาได้รับรางวัลที่ดีกว่าผู้ศรัทธาที่ไม่ได้อยู่ร่วมกับบุคคลอื่น และไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากใด ๆ”

[ รายงานโดย อัล-ติรมีซี (5207) และอิบนุ มัยยะฮฺ (4032) ]


         ยิ่งไปกว่านั้น  ไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่คุณจะต้องปลีกตัวออกมาอยู่เพียงลำพัง  เท่าที่เราได้พิจารณาจากคำถามของคุณ  เราก็ไม่พบเหตุผลใด ๆ ที่คุณควรจะดำรงชีวิตอย่างโดดเดี่ยว  และเราก็ไม่เห็นด้วยกับการที่คุณจะแยกตัวออกมาเพียงลำพัง และไม่ทำการละหมาดร่วมกันกับบุคคลอื่น  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้และเราก็ไม่สนับสนุนให้คุณกระทำเช่นนั้น

         เหตุผลบางอย่างที่เราจะต้องแยกตัวออกมาเพียงลำพังนั้น  เช่น  ผู้คนที่เราอยู่ด้วยเต็มไปด้วยคนที่เลวทราม ขาดคนที่จะสนับสนุนให้เราดำเนินอยู่บนแนวทางที่เที่ยงตรง แต่ละคนยึดตึดอยู่กับความคิดเห็นส่วนตัวและขาดความจริงใจในการให้คำแนะนำ  แต่ด้วยกับมารยาทที่พึงมีต่อพระองค์อัลลอฮฺ แล้วนั้น  บุคคลดังกล่าวนี้จะไม่ได้รับการยอมรับในสังคมของมุสลิมหรือแม้แต่สังคมของชาวกาเฟรเอง


          เราคงเคยได้ยินว่ามีชาวกาเฟรหลายพันคนที่ยังคงเข้ารับนับถือศาสนาอิสลามอยู่ตลอดเวลา  และเราก็เคยได้ยินคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ที่กระทำความผิดบาปได้กลับเนื้อกลับตัว  หันมาปฏิบัติตามแนวทางที่เที่ยงตรง  ในความเป็นจริงเราได้พบว่าผู้คนที่กำลังหิวกระหายนั้น  เขาต้องการหาผู้เป็นที่พึง ผู้ที่จะช่วยดับกระหายหรือคลายความหิวให้กับเขาได้  เช่นเดียวกัน  สำหรับทางด้านจิตวิญญาณนั้นผู้คนก็ต้องการที่จะพบกับความดีงามและทางนำ

          หากเหตุผลของคุณในการถือสันโดษนั้น  เป็นไปตามชารีอะแล้ว  เราก็ไม่คิดว่าในกรณีของคุณจะเป็นไปตามชารีอะ  เนื่องจากคุณต้องการที่จะอยู่เพียงลำพังมากกว่าการสังคมกับผู้อื่นซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติ  ดังนั้นการถือสันโดษของคุณในขณะนี้ก็เป็นการบกพร่องในหน้าที่ของอิสลาม  ซึ่งคุณคงจะถามเราว่า  ถ้าเช่นนั้นการถือสันโดษตามชารีอะเป็นเช่นไร  ซึ่งเราก็คงจะแนะนำให้คุณปลีกตัวออกไปจากผู้คนและให้มุ่งมั่นอยู่กับการภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าและปกป้องหน้าที่ความรับผิดชอบทางด้านศาสนาของคุณ 


แต่ในกรณีเช่นนี้  ท่านอะบู สุลัยมาน อัลฆัตตาบิ (ขอพระองค์อัลลอฮฺ ทรงโปรดประทานความเมตตาแก่ท่านด้วยเทอญ)  ได้กล่าวเอาไว้ว่า

 

“การถือสันโดษนั้นจะมีประโยชน์เฉพาะบรรดาผู้รู้  และผู้ที่คงแก่เรียน  แต่จะนำมาซึ่งอันตรายอย่างมาก ต่อผู้ที่ขาดความรู้”

 


และท่านได้รายงานจาก ท่านอิบรอฮีม  ที่ได้กล่าวกับ ท่านมักฮีระฮฺ  ว่า

 

 “เมื่อท่านมีความรู้ความเข้าใจอิสลามอย่างลึกซึ้งแล้ว  ท่านจึงจะสามารถแยกตัวออกมาเพียงลำพังได้ ”

 

(ดูหลักฐานจาก al-‘Azlah by al-Khattaabi, หน้า 225 )

 

แปลโดย  : นูรุ้ลนิซาอฺ

ที่มา http://www.islamqa.com/en/ref/126845