บาลา ภัยชนิดหนึ่ง
  จำนวนคนเข้าชม  26834

 

บาลา ภัยชนิดหนึ่ง


อาจารย์ อิรฟาน ทองคำ


السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

          ก่อนอื่นผมใคร่ถือโอกาสเตือนตัวผมเองและพี่น้องทั้งหลาย ขอจงตั้งมั่นอยู่ในความยำเกรง  التقوى ต่ออัลเลาะห์ อย่างแท้จริง ด้วยการประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงใช้      ละเว้น ห่างไกลในสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงห้าม

          ท่านพี่น้องผู้มีเกียรติที่รักและเคารพ ในขณะนี้สภาวะของสังคมนั้น อยู่ในสภาวะที่เลวร้ายลงทุกๆวัน เพราะสภาพต่างๆหรือสถานการณ์ต่างๆของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั่งสถานการณ์ในบ้านเมืองเราก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้เราได้ประสพกับสภาวะอุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งก็เป็นเพียงแค่ บาลา ภัยชนิดหนึ่ง ที่พระองค์อัลเลาะห์ ได้ทรงทดสอบกับมวลบ่าวผู้มีศรัทธามั่นของพระองค์ ผู้ที่มีความยึดมั่นต่อเอกองค์อัลเลาะห์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้นมันต้องมี ซะบับ หรือมีสาเหตุในการเกิดขึ้น อุทกภัยน้ำท่วมเป็น บาลา ภัยชนิดหนึ่งที่พระองค์อัลเลาะห์  ได้ทรงกำหนดให้กับมวลบ่าวของพระองค์นั้น  สืบเนื่องมาจากความชั่วร้ายของสังคมมันหนักขึ้น ความเลวร้าย สิ่งต่างๆที่เป็นอบายมุข ไม่ว่าจะเป็นอบายมุขเล็กๆน้อยๆ หรือเป็นอบายมุขที่มันใหญ่ๆโตๆนั้น มันมีเพิ่มมากขึ้นในสังคมของเรา ดังนั้น บาลา ภัยต่างๆที่พระองค์อัลเลาะห์ ได้ทรงกำหนดให้กับมวลมนุษย์นั้นเป็นเพียงแค่บทพิสูจน์  บททดสอบ พลังแห่งความศรัทธา พลังแห่งความอีมานของพวกเราท่านทั้งหลายเนั่นเอง

ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานอัลเลาะห์ ตรัสไว้ความว่า

ولنبلونكم بشيئ من الخوف والجوع ونقص من الأموال والأنفس والثمرات   وبشرالصابرين 

“และแน่แท้ เราจะได้ทำการทดสอบพวกท่านทั้งหลายด้วยสิ่งหนึ่ง จากความกลัว ความหิว

การลดหย่อนของทรัพย์สินเงินทอง การขาดสะบั้นของชีวิต และผลหมากรากไม้ต่างๆ 

และเจ้า(มูฮำมัด) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ที่มีความ ซอบัร มีความอดทน มีความขันติธรรมเถิด”


          ท่านพี่น้องผู้มีเกียรติที่รักและเคารพ ความซอบัร ความอดทนนั้น มิใช่แต่เพียงว่า มีความซอบัร มีความอดทนในสิ่งต่างๆที่เป็นความดีงาม หรือในสิ่งต่างๆที่เป็น บาลา ภัยต่างๆ ที่พระองค์อัลเลาะห์ กำหนดมา แต่สิ่งที่เราต้อง ซอบัร อดทนนั้นมี 3 ประการ

          1. ต้อง ซอบัร อดทนในเรื่องการประกอบคุณงามความดี หรือมีความจงรักภัคดีต่อเอกองค์อัลเลาะห์  ถ้าหากว่าเรามิได้ประพฤติปฏิบัติสิ่งต่างๆเหล่านี้ แน่นอนที่สุด บาลา ภัยต่างๆที่องค์อัลเลาะห์ จะทรงกำหนดหรือทรงลงโทษกับมวลบ่าวของพระองค์นั้นก็ย่อมที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมากมาย

          2. ต้อง ซอบัร อดทนในสิ่งที่เป็นบาป อบายมุขต่างๆโดยการไม่ประพฤติปฏิบัติสิ่งที่เป็นบาปต่างๆ เพราะสื่งต่างๆเหล่านั้นมันเป็นมูลเหตุที่จะทำให้เกิด บาลา ภัยต่างๆ

          3. ต้อง ซอบัร อดทนในเรื่อง บาลา ภัยต่างๆที่พระองค์อัลเลาะห์ กำหนด เพราะมันเป็นกำหนดของอัลเลาะห์ ที่ไม่มีมนุษย์คนใดมาเปลี่ยนกำหนดนี้ได้ นอกจากการวิงวอนขอต่อพระองค์เท่านั้น ดังนั้นเมื่อไม่มีมนุษย์คนใดมาเปลี่ยนกำหนดนี้ได้ เราจะต้อง ซอบัร อดทนในเรื่อง บาลา ภัยต่างๆที่พระองค์อัลเลาะห์ กำหนด

          ดังที่ได้เรียนแก่ท่านพี่น้องผู้มีเกียรติแต่แรกแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น มันต้องมี ซะบับหรือมีสาเหตุในการเกิดขึ้น ก็ด้วยสาเหตุจากการกระทำบาปมากมาย

ในพระมหาคัมภีร์ อัลกุรอานที่พระองค์อัลเลาะห์  ตรัสไว้ความว่า

وإن من قرية إلا نحن مهلكواها قبل يوم القيامة أومعذبواهاعذابا شديدا 

“ และไม่มีตำบล ชุมชน หมู่บ้านใด นอกจากเราเป็นผู้ทำลายล้างมันก่อนวัน กียามะห์ จะมาถึง

หรือเป็นผู้ลงทัณฑ์ตำบล ชุมชน หมู่บ้านนั้น เป็นการลงทัณฑ์ที่หนักหน่วง รุนแรงยิ่ง”


          ท่านพี่น้องผู้มีเกียรติที่รักและเคารพทั้งหลาย สภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ในบ้านเมืองเรานั้นพระองค์อัลเลาะห์ ได้ทยอยให้เกิดขึ้น เพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกในยุคแห่ง อาเครซามาล ในยุคสุดท้ายแห่งโลกดุนยาเราอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประชาชาติในอดีต ที่เขาเหล่านั้นได้อกตัญญูต่อพระองค์อัลเลาะห์  ได้ทรยศต่อพระองค์อัลเลาะห์ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในประชาชาติในอดีตนั้น จะหวนกลับมาเกิดขึ้นอีกในยุคสุดท้ายแห่งโลกดุนยานี้ ไม่มีชุมชน หมู่บ้าน ตำบลใดจะพ้นไปได้จากการถูกทำลายล้าง เพราะความชั่วร้ายที่ชุมชน หมู่บ้าน ตำบลนั้นมันมีมากขึ้น

          ในประเทศไทยเราก็เช่นเดียวกัน ในเมื่อความชั่วร้ายมันมีมากขึ้น แน่นอน บาลา ภัยต่างๆที่พระองค์อัลเลาะห์  จะทรงลงทัณฑ์ จะทรงลงโทษแก่มนุษย์ที่ปฏิบัติในสิ่งเลวร้ายต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่พระองค์ อัลเลาะห์ ทรงเตือนเราเท่านั้นเอง แต่ในวัน กิยามะฮ์ เมื่อมนุษย์ถูกใล่ต้อนไปรวมกัน ณ ทุ่งม๊ะห์ชัร จะอยู่ในสภาพที่แตกต่างกัน แต่ละคนจะแหวกว่ายในเหงื่อไคลบาปของตนเอง บางคนเหงื่อแค่ตาตุ่ม ไปจนกระทั่งเหงื่อมิดศีรษะ ถามว่า วันนี้เราอยู่ในน้ำ เราเปียกน้ำ และเราอยู่ในสภาพที่ทำบาปหรือไม่ และอัลเลาะห์  ได้ให้เกิดน้ำท่วมขึ้นมาให้กับพวกเรา แต่ในวัน กิยามะห์ เหงื่อไคลของตัวเองและของแต่ละบุคคลที่ได้ปฏิบัติในโลก ดุนยา นี้

 

          ท่านทั้งหลาย น้ำท่วมในวันนี้เราสามารถให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ แต่ในวัน กิยามะห์ จะไม่มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ เป็นแบบตัวใครตัวมัน ในวันที่เราจะต้องกลับไปสู่ความเมตตาของพระองค์อัลเลาะห์  ในวันที่เราจะต้องถูกสอบสวนจากพระองค์อัลเลาะห์

 

ท่านทั้งหลาย มีหะดิษบทหนึ่งที่พระนางไซหนับ ผู้เป็นภรรยาท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ได้บอกว่า

ท่าน ร่อซูลุ้ลลอฮ์ ได้นอนหนุนตักเธอ และได้ตกใจตื่นขึ้นมาแล้วบอกเธอว่า ความวิบัติ ความหายนะจะเกิดขึ้นกับชาวอาหรับ (และนั่นหมายถึงว่า ความวิบัติ ความหายนะจะเกิดขึ้นกับประชาชาติของท่านทั้งหมดด้วย สรุปแล้ว ม๊ะยูจ ย๊ะยูจ มันจะพังกำแพงของ ซุ้ลก็อรนัย ที่ได้สร้างอุดพวกมันเอาไว้ มันจะออกมาทำลายล้างโลก )

พระนางไซหนับ ได้กล่าวกับท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ว่า พวกเราจะเกิดความหายนะแล้วหรือ พวกเราจะเกิดความวิบัติแล้วหรือ พวกเราจะเกิดความพินาศแล้วหรือ ในเมื่อมวลหมู่พวกเรายังมีคนดีอยู่ ยังมีคนที่มีอีหม่านอยู่ ยังมีคนที่ศรัทธาอยู่ ยังมีคนที่ยอมรับปฏิบัติอยู่  พวกเราจะเกิดความวิบัติแล้วหรือ

ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์  กล่าวว่า ใช่แล้ว ก็ในเมื่อความสกปรก ความโสมม ความชั่วนั้นมันมากขึ้น และความวิบัตินั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนเลวเท่านั้น แล้วคนดีก็จะได้รับความวิบัตินั้นด้วย เพราะไม่มีการตักเตือนซึ่งกันและกัน หรือไม่ก็คนไม่ดีได้รับการตักเตือนแล้วไม่เชื่อฟัง ไม่ปฏิบัติตาม นั่นหมายถึงภัยพิบัติมันจะเกิดขึ้นกับชุมชนที่มีความชั่วมากกว่าความดีงาม

 

ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ กล่าวว่า 

إذاأنزل الله تعالى بقوم عذابا أصاب العذاب من كان فيهم ثم بعثوا على أعمالهم   

“เมื่อพระองค์อัลเลาะห์ ได้ลงทัณฑ์ต่อกลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใดแล้ว การลงทัณฑ์ได้ประสพกับผู้คนที่อยู่ในหมู่พวกเขา

หลังจากนั้นพวกเขาจะถูกบังเกิดขึ้นมาใหม่ในวันกิยามะฮ์ บนพฤติกรรม การกระทำของพวกเขา ในโลกดุนยานี้”


          ท่านพี่น้องที่มีเกียรติที่รักและเคารพทั้งหลาย จากหะดิษบทนี้จะเป็นสิ่งยืนยันว่า ภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม อุทกภัย วาตภัย หรืออื่นๆที่จะมีมา ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่พระองค์อัลเลาะห์ ได้ทรงกล่าวถึงวันกิยามะฮ์ ภูเขานั้นประดุจขนไก่ที่ปลิวว่อนอยู่กลางอากาศ นี่เป็นการทดสอบจากพระองค์อัลเลาะห์  ที่เกิดขึ้นกับพวกเราเท่านั้น


          ท่านพี่น้องผู้มีเกียรติที่รักและเคารพทั้งหลาย   คุตบะฮ์ วันนี้เป็นเพียงเครื่องเตือนสติพวกเราถึงคำบัญชาของพระองค์อัลเลาะห์ ที่พวกเราต้องทำตามคำสั่งใช้ต่างๆ ด้วยความ อิคลาส ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจมุ่งตรงต่อพระองค์อัลเลาะห์ เช่นเดียวกันกับคำสั่งห้ามของพระองค์อัลเลาะห์ เราต้องละทิ้ง เราต้องหลีกเลี่ยง เหินห่างจากคำสั่งห้ามต่างๆเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอบายมุข การกระทำที่ไม่ดีงามต่างๆในสังคม เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นความเลว ความชั่วที่เราจะต้องไปพบไปเห็นในวันกิยามะฮ์อย่างแน่นอน

 


คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ