เรียนแล้วรู้สึกขี้เกียจทำอย่างไรดี ?
  จำนวนคนเข้าชม  10402

 

เรียนแล้วรู้สึกขี้เกียจจะทำอย่างไรดี ?


 โดย .....อิบนุลฮัค

 

เชคครับ เวลาที่ผมท่องกรุอ่านหรือเรียนหนังสือผมรู้สึกว่าตัวเองเกิดความขี้เกียจทุกที เราควรทำอย่างไรดีที่จะช่วยขจัดความขี้เกียจให้พ้นจากตัวของเรา ?

 

เชคมูอัมมัดมุคต้ารอัชชังกีตีย์ มีคำตอบ

 

          ผมขอสั่งเสียว่า ให้คุณเลิกจากการขี้เกียจ คนเราหากว่าเขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องหนึ่งเรื่องใดแล้ว แน่นอนว่าไม่มีวันที่เขาจะเกิดความรู้สึกว่าตัวเองนั้นขี้เกียจ ถ้าหากว่าวันหนึ่งมีคนมาบอกคุณว่า เอาไหมให้คุณมารอผมที่บ้านหลังนี้เพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ผมจะให้คุณหนึ่งพันริยาล ผมกล้าพูดเลยว่าคงไม่มีใครสักคนแน่ที่รอช้า และคิดว่าทุกคนต้องมารอก่อนที่ชายผู้นี้จะมาอย่างเป็นแน่ คงไม่มีใครขี้เกียจไม่อยากไป คงไม่มีใครหลับใหลในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน


          โอ้ พวกท่านทั้งหลาย พึงรู้เถิดว่าสินค้าของพระองค์อัลลอฮ์นั้นมีราคาแพง แล้วเราจะขี้เกียจ เหนื่อยล้า จะท้อถอยได้อย่างไรกัน ถ้าหากว่าเรานึกถึงสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงตระเตรียมไว้ให้แล้ว เราจะมีความขี้เกียจหรือการท้อถอยอย่างนั้นหรือ ! ทั้งที่เขาต่างรู้ดีอยู่ว่ากลุ่มการศึกษาหาความรู้ที่เขาได้ร่วมอยู่นั้นมีมลาอิกะฮฺกำลังโอบปีกล้อม พร้อมทั้งขอดุอาอ์จากอัลลอฮ์ให้กับพวกเขา  แล้วพวกเขาจะมีความขี้เกียจ ความเหนื่อยล้าใดอีก ทั้งที่เขานั่งร่วมอยู่ในสถานที่ ที่ผู้นำแห่งกษัตริย์(อัลลอฮฺ)ทั้งผองอยากที่จะสัมพันธไมตรีด้วย ซึ่งเป็นพระเจ้าของทุกสิ่งในพื้นพิภพนี้ พระองค์คือพระเจ้าคนแรกและคนสุดท้ายที่มนุษย์โลกทุกคนเคารพ แต่พวกท่านนั้นคือบ่าวที่พระองค์เลือก ได้สละทุกอย่างที่มีในโลกดุนยาเพื่อหวังจะได้มาซึ่งความพอพระทัยจากอัลลอฮฺ  เป็นสิ่งตอบแทน ฉะนั้นแล้วยังจะมีความเกียจคร้านอันใดอีกหรือ ทั้งที่ตอนนี้พวกท่านกำลังเผยแพร่พระดำรัสของพระองค์อัลลอฮฺอยู่ 

รู้ไหมว่าพระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงกล่าวถึงเกียรติคุณของมลาอิกะฮฺของพระองค์ไว้อย่างไรในซูเราะอะบัส ในอายะฮฺ 13-16  ความว่า

“ในคัมภีร์อันทรงเกียรตินั้นมีคำรำลึกข้อเตือนใจแก่ผู้ปรารถนา ที่ได้รับการเทิดทูน ได้รับความบริสุทธิ์

ด้วยมือของมะลาอิกะฮฺ  ผู้ทรงเกียรติ ผู้ทรงคุณธรรม ”

 

         จะมีความขี้เกียจอันใดอีกโดยที่ตอนนี้ท่านกำลังอ่านพระมหาคัมภีร์ของพระองค์อัลลอฮ์ ซึ่งในคัมภีร์นั้นมีแสงสว่างคอยชี้นำสู่หนทางที่เที่ยงตรง คราใดที่ได้อ่านมัน ดวงตาจะเปี่ยมล้นไปด้วยน้ำตาที่รินไหล และหัวใจจะชุ่มฉ่ำไปด้วยอีหม่านที่เดือดระอุในทุกครั้งได้อ่าน อีกทั้งในอัลกุรอานมีทุกเรื่องราวที่พวกท่านควรรู้ ประดุจดั่งอุทยานแห่งการเรียนรู้

 

“แท้จริงพระมหาคำภีร์อัลกรุอ่านนี้ คือคัมภีร์ชี้นำแก่กลุ่มชนทั้งหลายสู่หนทางที่เที่ยงตรง

อีกทั้ง(ในนั้นมันยังมีข่าวดีต่างๆ)ที่บอกแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ประกอบคุณงามความดีว่า เขาจะได้รับการตอบแทนอันยิ่งใหญ่”

(ซูเราะฮฺอัลอิสเราฮฺ 9)


          พวกท่านได้เรียนได้ศึกษาในเรื่องที่ล้วนแล้วแต่เป็นความจริง ไม่ได้เป็นเรื่องที่มดเท็จ งมงาย เมื่อเกิดความเหนื่อยล้าก็จงอดทน ไม่ใช่เพื่อใครอื่นหากแต่ทั้งหมดก็เพื่ออัลลอฮ์ทั้งนั้น แล้วจะมีความขี้เกียจ ความเหนื่อยล้า การท้อถอยอันใดอีกหรือ?

 

         พึงรู้เถิดว่า เหตุผลที่เราขี้เกียจและท้อถอยไม่สู้นั้น เพราะเรายังไม่รู้จักพระองค์อัลลอฮ์ ดีพอ เรายังไม่ทราบถึงผลตอบแทนที่เราจะได้รับ ณ ที่อัลลอฮ์ในวันนี้และโลกหน้า และเรายังไม่เชื่อมั่นในพระองค์อย่างจริงจังว่า พระองค์จะมิทรงบิดพลิ้วอย่างแน่นอน

 


        พวกท่านยังไม่รู้จักตัวเองดีว่าเรียนไปทำไม ...เช่นดั่งคนหนึ่งที่ไปเรียนโดยที่เขาไม่รู้สึกเลยว่าพระองค์อัลลอฮฺกำลังเฝ้ามอง ได้ยิน และได้เห็นทุกการกระทำของเขาอยู่

          โอ้ ! หากว่าวันใดที่ท่านได้เรียนรู้ได้อ่านหนังสือเล่มใดก็ตาม สถานที่ที่ไปเรียน ค่ำคืนใดที่ตื่นขึ้นมา วันเวลาใดที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วกลับพบว่าวันนั้น มันรู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หันไปทางใดก็พบแต่ความตื้อตันไปหมด เส้นทางการเรียนรู้การอ่าน การจดจำของมันมืดมนและรู้สึกว่ามันชั่งยากเหลือเกิน แต่พึงรู้เถิดว่าอัลลอฮฺทรงพอใจในตัวท่านแล้ว และอัลลอฮฺทรงเพิ่มพูนผลบุญให้กับพวกท่านทั้งหลายแล้ว


          พวกท่านไม่ได้เรียนรู้เพื่อสิ่งอื่นใดหรือเพื่อประโยชน์แอบแฝงในโลกดุนยา หากแต่เรียนเพื่อที่จะเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮฺและเป็นคนดี เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ท่านไม่ได้เรียนไม่ได้ท่องจำเพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว หากแต่ท่องจำเพื่อช่วยปกป้องพลโลกทั้งมวลให้พ้นภัยร้ายจากชัยฎอนและลูกหลานของมันยามที่กลับสู่ภูมิลำเนา ในขณะที่ท่านเรียนบรรดามลาอิกะฮฺและบรรดาชาวฟ้าทั้งเจ็ดหรือแม้แต่หมู่ปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในท้องนภาต่างขอดุอาและขออภัยโทษให้กับท่าน

         และจงแจ้งข่าวดีไปยังตัวของท่านเองเลยว่า ทุกการเรียนรู้ ทุกความเหนื่อยล้า ทุกหยาดเหงื่อที่ร่วงหล่นจากร่างอันทรงเกียรติของท่านนั้นไม่ได้เสียเปล่า หากแต่สิ่งใดก็แล้วแต่ที่ทุ่มเทให้กับอัลลอฮฺ ย่อมได้คืนยิ่งกว่าสิ่งที่ได้ทุ่มไปอย่างแน่นอน เพราะผลบุลจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความยากลำบากที่พบเจอ ฉะนั้นวิชาใดความรู้ที่เรียนแล้วมันยากก็พึงรู้เถิดว่า อัลลอฮฺจะประทานผลบุญให้อย่างมากมายเช่นกัน

 ดังที่ท่านนบี  ได้เคยกล่าวให้กำลังใจกับพระนางอาอีชะฮฺว่า

ثوابك علي قدر نصبك .....   شرح مختصر الروضة249

 “ภาคผลบุญที่เธอจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับบททดสอบที่เธอประสบ”

(หนังสือชัรฮฺมุคตาศ็อรอัรเราเฎาะฮฺ 249)


         ดังนั้นความรู้ใดที่ได้จดบันทึก วิชาใดที่ได้อ่าน และความรู้ที่ได้ฟัง คำสั่งสอนที่ได้บรรยาย อัลลอฮฺจะทรงให้มลาอิกะฮ์เป็นสักขีพยาน ทรงส่งพวกเขามาอยู่ร่วมกัน และขอดุอาอ์ให้กับผู้ที่เรียน พระองค์จะทรงเปิดประตูแห่งชั้นฟ้าต่างๆและเปิดหัวใจผู้คนในผืนแผ่นดินให้ตอบรับงานดะวะอ์ ยอมรับผลงานต่างๆ ยอมรับในตัวท่าน และกล่าวถึงสิ่งที่ดีของท่านในโลกนี้และโดยเฉพาะยามที่จากพวกเขาไปแล้ว อีกทั้งพระองค์จะทรงยกเกียรติและลบล้างความผิดให้ตามสภาพของความรู้และอีหม่านที่ฝังอยู่ในตัวของแต่ละคนอีกด้วย

ท่านนบี  ได้กล่าวไว้ดั่งในฮะดีษที่บันทึกโดยอบูดาวุด 3641ว่า

“ผู้ใดที่เสวงหาหนทางเพื่อศึกษาวิชาความรู้พระองค์จะให้ความสะดวกง่ายดายแก่เขาซึ่งหนทางสู่สวรรค์

และแท้จริงบรรดามาลาอิกะฮ์จะโอบปีกล้อมผู้ที่กำลังศึกษาวิชาความรู้ด้วยปีกของเขา อันเนื่องจากความพึงพอใจที่มีต่อผู้เรียน

ผู้ที่อยู่ในท้องฟ้าหรือเหล่าหมู่ปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในท้องนภาก็ยังขอดุอาอ์และขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ให้แก่ผู้ที่ศึกษาหาความรู้”

ท่านนบี  กล่าวอีกดังในฮะดีษที่รายงานโดยอบูฮุร็อยเราะฮฺ

  ((إن الله إذا أحب عبداً دعا جبريل فقال: إنى أحب فلاناً، فأحبه قال: فيحبه جبريل، ثم يُنادى فى السماء فيقول: إن الله يحب فلاناً فأحبوه، فيحبه أهل السماء. قال ثم يوضع له القبول فى الأرض،

“แท้จริงเมื่อพระองค์อัลลอฮฺทรงรักบ่าวคนใดพระองค์ก็จะเรียกญิบรีลมา และพูดแก่เขาว่า “ฉันรักบ่าวคนนี้”

แล้วญิบรีลก็จะรักบ่าวคนนั้นด้วย หลังจากนั้นท่านญิบรีลจะป่าวประกาศลงมาในชั้นฟ้าเพื่อให้คนที่อยู่ในชั้นฟ้าทราบพรางพูดว่า “แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺทรงรักบ่าวผู้นี้”

แล้วพวกเขาก็ตอบรับแล้วชาวท้องฟ้าก็จะรักชายผู้นี้ หลังจากนั้นชาวฟ้าจะประกาศต่อๆกันไปจนกระทั่งถึงคนที่อยู่ ณ พื้นแผ่นดิน

ท่านนบี  ได้กล่าวอีกว่า “หลังจากนั้นพระองค์จะทรงเขียนการตอบรับของผู้คนในพื้นแผ่นดินให้แก่เขาด้วยการทำให้ผู้คนยอมรับในตัวเขาและรักเขา .....”

 (บุคอรีย์ 3209 และมุสลิม2637 อัลมุวัตเฎาะ2/953 ติรมีซีย์ 3160)


         ดังนั้น โอ้ บ่าวของอัลลอฮฺ พวกท่านรู้สึกอย่างไรตอนที่ออกจากบ้านด้วยเนียตอันบริสุทธิ์ต่ออัลลอฮฺเพื่อเรียนกีตาบุลลอฮฺและซุนนะหฺของท่านนบี และอาจจะมีบ้างในบางวันบางเวลาที่ได้จะเจอกับความเหน็ดเหนื่อยหรืออุปสรรคในการเรียน หรือเมื่อคืนตื่นขึ้นละหมาดตะอัจญุตแล้วง่วงนอนสุดๆ หรือจะต้องออกไปสถานที่ต่างๆทั้งที่มีงานยุ่ง แต่จงบอกับตัวเองเถิดว่า ฉันออกมาเพื่ออัลลอฮฺ ฉันออกมาเรียนครั้งนี้โดยไม่มีความโอ้อวดใดๆ หากแต่ฉันออกมาเพื่อให้พระองค์ทรงพอใจในตัวฉัน


          โอ้อัลลอฮ์ ... ขอพระองค์ทรงตอบรับการงานของฉันด้วยและทรงประทานความง่ายดายให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด  แน่นอนพระองค์ทรงรู้ดีถึงสิ่งที่มีในก้นบึงหัวใจของปวงบ่าว พระองค์จะทรงส่งมลาอิกะฮฺเพื่อมายืนยันการกระทำของคุณแล้วทรงให้มลาอิกะฮฺจดบันทึกคุณความดี และจะทรงยกระดับสวรรค์ให้แก่ท่าน


         โอ้ อัลลอฮฺ ... มีนักเรียนเท่าไหร่แล้วที่เขาออกจากบ้านของเขามาในสภาพที่มีบาปติดตัวแต่เขากลับไปในสภาพที่ไม่มีบาปใดๆเลย ซึ่งเขากลับมาเป็นคนบริสุทธิ์อีกครั้งเหมือนดังวันที่เขาถูกคลอดออกมาจากท้องมารดา


         โอ้ อัลลอฮฺ ... มีนักเรียนเท่าไหร่แล้วที่เขาออกจากบ้านของเขาเพื่ออ่านกรุอ่านของพระองค์ เพื่อท่องจำอัลกรุอ่านด้วยความหวังว่า สักวันเขาจะได้ใช้มันปกป้องประชาชาติของท่านนบีมุฮัมมัด ให้พ้นจากความชั่วร้าย พูดไปแล้วประหนึ่งว่าลิ้นของเขากำลังยืนยันแก่พระองค์ได้ทราบว่า ฉันขอเป็นพยานเลยว่าชายผู้นี้เขาอ่านอัลกรุอ่านของพระองค์เพื่อต้องการความพึงพอพระทัยจากพระองค์จริงๆ เขาอ่านเพราะเขาหวังในความเมตตาจากพระองค์


          โอ้ อัลลอฮฺ ... ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งเขาเรียนซุนนะหฺของท่านนบี โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน ตอนนี้สังคมกำลังฟอนเฟะ เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผู้คนกำลังหลับไหลไม่สนใจอิสลาม พวกเขากำลังยุ่งกับการละเล่น จนลืมอาคีเราะฮฺ แต่ฉันคนนี้ต้องการกลับไปโลกอาคีเราะฮฺ ฉันต้องการสิ่งที่มีอยู่ ณ ที่พระองค์ ฉันต้องการให้พระองค์ทรงเมตตาฉันด้วย ฉันยากได้สวนสวรรค์อันสูงส่ง ฉันต้องการศึกษาวิชาความรู้เพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้ฉันได้มีความใกล้ชิดพระองค์มากยิ่งขึ้น ฉันออกมาจากบ้านเพื่อพระองค์เท่านั้น หาได้เพื่อสิ่งอื่นหรือเพื่อการโอ้อวดใดไม่


          โอ้ อัลลอฮฺ ... ขอพระองค์ทรงให้ความรู้ของฉันมีความบารอกะฮฺด้วย ขอพระองค์ทรงให้ความรู้ที่ฉันเรียนเป็นความรู้ที่ก่อประโยชน์แก่ตัวฉันและคนอื่นด้วย ขอให้มันเป็น(ชะฟาอะฮฺ)สิ่งที่ช่วยร้องขออัลลอฮฺให้ฉันรอดพ้นจากไฟนรกในวันกียามะฮฺ


....พวกท่านจะอยู่ตรงไหนกันในสถานที่อันประเสริฐที่กล่าวมา ไหนละท่านนั่งอยู่ในวงความรู้ที่สูงส่งวงใด....

 

         ในวันนั้นอัลลอฮ์ จะทรงถามบรรดามาลาอิกะฮฺถึงปวงบ่าวของพระองค์ และในคำถามนั้นพระองค์ไม่ได้ทรงถามถึงความรวย หรือ ความจน หรือถามถึงการเป็นอยู่ในโลกดุนยาของเขา หากแต่พระองค์จะทรงถามมลาอิกะฮฺว่า ใครบ้างในหมู่มนุษย์ที่เขาได้ร่วมศึกษาเรียนรู้และนั่งในกลุ่มที่มีการพูดคุยในเรื่องของอัลลอฮฺและซุนนะฮฺของนบี  บ้าง

         พระองค์อัลลอฮฺทรงส่งมลาอิกะฮฺมาอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ศึกษาวิชาความรู้ในวันนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อว่าบรรดามลาอิกะฮ์จะได้ช่วยเป็นพยานให้แก่ท่านในวันกียามะฮฺ และการขอพรสดุดีของมลาอิกะฮ์จะช่วยให้ท่านได้ทราบซึ้งถึงความกรุณาธิกุลของพระองค์และจะช่วยให้ได้รอดพ้นจากไฟนรกนั่นเอง


          นักเรียนของอัลลอฮฺและทายาทผู้สืบสานมรดกของท่านนบี  เอ๋ย ดังกล่าวข้างต้นที่ได้กล่าวมานี้คือกระบวนการความเมตตาของอัลลอฮ์ โดยเริ่มตั้งแต่การกำหนดความประสงค์ในแผ่นกระดาน พระองค์ให้ท่านได้เป็นบ่าวผู้ใฝ่รู้ตลอดเวลาจนวะระสุดท้ายก่อนที่จะได้รับสวรรค์เป็นสถานพำนัก ไม่เลยที่พระองค์จะทรงเอาเปรียบ แต่พระองค์คือพระผู้ทรงยุติธรรมที่สุด


        ดังนั้นหากวันนี้พวกท่านขี้เกียจ ย่อท้อแล้ว ไหนละตำแหน่งที่สูงส่งที่จะได้รับทั้งที่ตอนนี้ท่านกำลังเข้าเฝ้าพระองค์อัลลอฮ์อยู่ ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อมหากพวกท่านอดทนอีกนิด เมื่อวันแห่งการอวสานมาถึงพระองค์จะทรงถามถึงความรู้ที่ได้เรียนมา พระองค์จะถามมลาอิกะฮฺที่เคยโอบล้อมเคยขอดุอาอ์ให้กับท่าน

แล้วมลาอิกะฮฺจะกล่าวทูลกับพระองค์อัลลอฮฺว่า" โอ้ อัลลอฮฺ พวกเขาเรียนไม่ได้หวังเพื่อสิ่งอื่นใด แต่พวกเขาเรียนเพื่อจะได้ความรู้ เพื่อเป็นเส้นทางที่จะช่วยให้เขาใกล้ชิดพระองค์"

แล้วพระองค์ก็ทรงกล่าวว่า “ดังนั้นจุดจบของเจ้าและเรื่องราวชีวิตของเจ้าทั้งหมดล้วนแล้วเป็นเรื่องที่ดี”

แล้วพระองค์ยังกล่าวต่อว่า “พวกเขาจะขออะไรฉันบ้างละ? พวกเขาจะขออะไรจากฉันบ้างละ?แล้วพวกเขาเหล่านั้นพวกเขาคือใครกัน ?”

        ดังเมื่อได้อ่านแล้วท่านรู้สึกอย่างไรบ้างหากว่าวันนี้หรือวันพรุ่งต้องออกไปเรียนหนังสือ ต้องนั่งฟังครูสอนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมง แล้ววันหน้าอัลลอฮฺจะทรงถามถึงความรู้ที่ได้เรียน สถานที่ที่นั่งเรียน วิชาการที่ท่านรักอยากเรียน จงพยายามย้ำถามตัวเองให้มากเถิดโดยเฉพาะคราใดที่เกิดความท้อแท้ คราใดที่เหนื่อยและขี้เกียจหรือไม่อยากเรียนอีกต่อไปว่า หากเราไม่เรียนฐานะของเราคืออะไร สวรรค์ของเราคือชั้นใด และอะไรที่จะกลับไปตอบกับพระองค์อัลลอฮ์ในวันกียามะฮ์

หลังจากนั้นอัลลอฮฺ ได้ถามมลาอิกะฮฺว่า พวกเขาตอบพวกเจ้าว่าอย่างไรบ้าง?

มลาอีกะฮฺก็ตอบว่า พวกเขาอยากเข้าสวรรค์ของพระองค์

พระองค์ได้กล่าวถามกลับไปว่า แล้วพวกเขาเห็นมันแล้วหรือยัง? (สวรรค์)

มลาอีกะฮ กล่าวว่า พระองค์ท่านแล้วพวกเขาจะเห็นสวรรค์ได้อย่างไรกัน? พวกเขาต่างขันแข่งศึกษาหาความรู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสวรรค์

แล้วพระองค์ได้กล่าวแก่บ่าวเหล่านี้ในตอนท้ายที่มีระบุไว้ในฮาดีษว่า“และแท้จริงฉันอภัยให้แล้ว

และมลาอิกะฮ์ก็ได้ทูลต่ออัลลอฮฺว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์มีบางคนในหมู่พวกเขาที่ฉันเคยนั่งร่วมวงด้วยมีบาปอยู่บ้าง

พระองค์กล่าวว่า แท้จริงฉันอภัยให้ในกลุ่มพวกเขาแล้ว.....”

 

         ดังนั้นเราสามารถพูดได้ว่าไม่มีใครอีกแล้วในพื้นพิภพนี้ที่ร่ำรวยและได้รับโชคลาภอันล้ำค่าไปกว่าผู้ที่ศึกษากีตาบุลลอฮฺและซุนนะฮ์ของท่านนบี ฉะนั้นหากว่าพวกท่านเหนื่อยล้า หมดแรง หรือรู้สึกขี้เกียจ หรือพบว่าวิชาที่เรียนอยู่มันยากที่จะเข้าใจ ขอให้ตั้งใจ พยายามอดทนฝ่าฝันไปให้ได้และจงขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์ให้มากๆ  เมื่อใดที่พระองค์ทรงตอบรับการเรียนของท่านพระองค์จะทรงให้ทุกอย่างง่ายดายโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน อีกทั้งพระองค์จะทรงเปิดประตูแห่งความสุขให้ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า โดยที่เป็นความสุขที่ไม่มีผู้ใดได้ลิ้มรสมากไปกว่าบุคคลที่แสวงหาความรู้

 

          พึงรู้เถิดว่า.... ความรู้ คือ ประตูแรก และ ประตูสุดท้าย ที่จะนำมาซึ่งความเมตตา

          และเมื่อใดที่พระองค์ทรงเมตตาท่านด้วยการให้ท่านเป็นผู้รู้แล้ว พระองค์จะทรงให้ท่านปลอดภัยจากการลงโทษทั้งปวงสู่ความสุขอันนิรันในสวนสวรรค์อันสถาพร … อินชาอัลลอฮ์

 


 

แปลและเรียบเรียงจากไฟวีดีโอ เชคมุฮัมมัดมุคต้ารอัชชังกีตีย์

الموضوع : أترك الخمول والكسل يا طالب العلم