คิดใคร่ควรผลงานในอดีต
  จำนวนคนเข้าชม  8971

คิดใคร่ควรผลงานในอดีต


อาจารย์ อิบรอเฮม และซัน

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

          ศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย ก่อนอื่นข้าพเจ้าขอตักเตือนตัวของข้าพเจ้าเอง และท่านทั้งหลาย จงตั้งมั่นอยู่บนการยำเกรงต่อ อัลเลาะห์  กันให้มาก ๆ เถิด พยายามประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และพยายามละทิ้งจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม


          ท่านพี่น้องผู้ที่ได้รับพระเมตตาจากองค์พระผู้อภิบาลให้ได้มีอายุยืนยาวมาจนบัดนี้ทั้งหลาย เมื่ออายุของเรามากขึ้น วันสิ้นอายุของเราก็จะใกล้เข้ามา เยาวชนคนหนุ่มสาวต่างก็ดีอกดีใจที่เขาเป็นหนุ่มเป็นสาวมากขึ้น แต่สำหรับคนผู้ใหญ่ วันกลับไปรับการสอบสวน วันที่จะต้องไปรอคอยวันกิยามะห์ในกุบุรใกล้เข้ามา เมื่อความจริงมันเป็นอย่างนี้ ก็ควรคิดใคร่ควรดูผลงานในอดีตที่ผ่านมาว่า ได้เตรียมพร้อมเพื่อวันเดินทางกลับไปอาคิเราะห์เรียบร้อยแค่ไหน

ท่านเอ๊าฟ์ บิน มาลิก  รายงานว่าท่านนบี  กล่าวว่า

كُلَّمَا طَالَ عُمْرُ اْلمـُـسْلِمِ كَانَ لَهُ خَيْرٌ . رَوَاهُ الطَّبْرَانِي 
  
“ทุกระยะทุกช่วงที่อายุของมุสลิมยืนยาวออกไป จะเป็นความดีงามสำหรับเขา”

(จากอัฏฏอบรอนีย์ )


       ท่านนบี  รับรองว่า มุสลิมที่มีศรัทธาต่ออัลเลาะห์ นั้น อายุยิ่งมากความดียิ่งเพิ่ม อีหม่านยิ่งพอกพูน ใครเข้าใกล้ก็ได้แต่สิ่งที่ดีมีแบบอย่างที่น่าชื่นชม   เมื่ออายุเราเพิ่ม ก็หมายถึงว่าเราได้ใช้เวลาใช้อายุที่มีอยู่จำกัดหมดไปคราวละปี จ่ายไปฮิจเราะห์ละ  12 เดือน จ่ายไปชนิดที่ไม่มีการเรียกกลับคืนมาได้ เราได้ขวนขวายสร้างสมความดีรวบรวมบุญกุศลด้านไหนเอาไว้ เพื่อตัวเราเองในวันหน้าบ้าง


       ปีหนึ่งหมดไปเราได้ความดีมาเท่าไร ได้ความชั่วมาแค่ไหน คิดหักลบกลบกันแล้วจะเหลือสักเท่าไร ?เดือนหนึ่งมีละหมาด 150 เวลา ปีหนึ่งมีร่วม 1800  เวลา เราทำละหมาดสักเท่าไร ทอดทิ้งละเลยเสียเท่าไร  ล่วงเกินใครต่อใครเขาไว้แค่ไหน ถือศีลอด  ซะกาต ทำไว้เรียบร้อยแค่ไหน ถ้าขึ้นตาชั่งกันวันนี้ปีนี้ ความชั่วที่ทำกับความดีที่ทอดทิ้ง มันจะมีน้ำหนักมากกว่าความดีที่ทำไว้ก็เป็นได้ และความดีที่ทำเช่น ละหมาด ถือศีลอด ซะกาต ไปละหมาดวันศุกร์ ทำซอดะเกาะห์ ทำฮัจย์ และความดีร้อยแปดที่ทำไม่รู้เท่าไรที่มีเจตนาไม่ถูกต้อง ทำเพราะอยากอวดบ้าง ทำเพราะอยากให้เพื่อนมนุษย์รอบข้างชมเชยบ้าง ทำความดีให้สังคมเพราะอยากได้ตำแหน่ง อะไรเหล่านี้ที่เราทำเอาไว้ 10  อย่าง บางทีความดีที่มีกุศลจริง ๆ จะเหลือสักเท่าไหร่ในอาคิเราะห์
  
ท่านญาบิร รายงานว่า ท่านนบี กล่าวว่า

خِيَارُكُمْ أَطْوَلُكُمْ أَعْمَارًا وَأَحْسَنُكُمْ أَعْمَالاً . رَوَاهُ اْلحَاكِمِ 

  “ผู้ที่ประเสริฐในพวกท่านทั้งหลายได้แก่ผู้ที่มีอายุยืนนาน พร้อมด้วยความประพฤติแต่ความดีงาม”

(อัลฮากิม)
  

          ดังนั้นเราแต่ละคนจึงต้องมีหน้าที่ใคร่ครวญ พิจารณาตัวเอง หาทางพัฒนา หาทางแก้ไข ไม่ปล่อยตัวตามสบาย ไม่ลุ่มหลงกับความสุขในดุนยาจนลืมอาคิเราะห์ จะต้องหาทางพัฒนาให้ตัวเราเป็นคนสูงอายุที่มีราคา  ทำตัวให้ลูกหลานยกย่องเคารพนับถือ อย่าทำตัวให้ชัยฏอนสรรเสริญ

ท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์  รายงานว่า ท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์  กล่าวว่า

مَا مِنْ شَيْءٍ أَحَبَّ إِلَى اللهِ تَعَالَى مِنْ شَابٍّ تَائِبٍ وَمَا مِنْ شَيْءٍ أَبْغَضَ إِلَى اللهِ تَعَالَى مِنْ شَيْخٍ مُقِيْمٍ عَلَى مَعَاصِيْهِ
 
“ไม่มีสิ่งใดทั้งสิ้นที่อัลเลาะห์  จะทรงโปรดปรานยิ่งไปกว่าคนหนุ่มสาวที่กลับเนื้อกลับตัวสารภาพผิด

และไม่มีสิ่งใดทั้งสิ้นที่อัลเลาะห์  จะทรงพิโรธยิ่งไปกว่าคนที่มีอายุมีอาวุโสที่ยังตั้งมั่นอยู่กับการทำชั่วไม่รู้จักเลิก

 

وَمَا فِى اْلحَسَنَاتِ حَسَنَةٌ أَحَبَّ إِلَى اللهِ تَعَالَى مِنْ حَسَنَةٍ تُعْمَلُ فِى لَيْلَةِ اْلجُمْعَةِ أَوْ يَوْمِ اْلجُمْعَةِ   

ไม่มีความดีใด ๆ ในบรรดาความดีทั้งหลายที่อัลเลาะห์ทรงรักยิ่งไปกว่าความดีที่ถูกกระทำขึ้นในคืนวันศุกร์ หรือในวันศุกร์

 

وَمَا مِنَ الذُّنُوْبِ ذَنْبٌ أَبْغَضَ إِلَى اللهِ تَعَالَى مِنْ ذَنْبٍ يُعْمَلُ فِى لَيْلَةِ اْلجُمْعَةِ أَوْ يَوْمِ اْلجُمْعَةِ    

และไม่มีความผิดความชั่วใด ๆ จากบรรดาความผิดทั้งหลายที่อัลเลาะห์ จะทรงพิโรธ

ยิ่งไปกว่าความชั่วความผิดไม่ว่าเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่ถูกกระทำขึ้นในคืนวันศุกร์หรือในวันศุกร์”

 


         ดังนั้นเรื่องนี้ คนมีอายุที่ยังทำชั่วไม่เลิก ความผิดความชั่วที่เกิดขึ้นในค่ำวันศุกร์ ในวันศุกร์ ขอให้เราออกห่างเปลี่ยนมาเป็นการทำความดีเรื่อยไปจนมาถึงค่ำวันศุกร์ มาถึงวันศุกร์เร่งทำความดีให้มากขึ้น ดีขึ้น ยกให้เป็นวันพิเศษที่เรายกย่องให้เกียรติ

           ส่วนความชั่วไม่ว่าวันไหนเลิกกันที ที่ทำเอาไว้ที่แล้วมามันก็มากเกินไปแล้ว กลับตัวสารภาพผิดทำตัวกันใหม่ ใครที่มีตำแหน่งเป็น พ่อแม่ผู้ปกครองก็หาทางให้ลูกหลานของเราได้รับการศึกษาด้านศาสนา ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีของลูกหลาน อย่าปล่อยให้ลูกหลานของเราเป็นมุสลิมเพียงเรือนร่างแต่จิตใจไม่ใช่

ในอัลกุรอานซูเราะห์ อัลบะก็อเราะอฺ อายะห์ที่ 281 พระผู้อภิบาลตรัสว่า

 

وَاتَّقُوْا يَوْمًا تُرْجَعُوْنَ فِيْهِ إِلَى اللهِ ثُمَّ تُوَفَّى كُلُّ نَفْسٍ مَّاكَسَبَتْ وَهُمْ لاَ يُظْلَمُوْنَ 
 

“ และเจ้าทั้งหลายจงหวาดกลัววันหนึ่งที่พวกเจ้าจะถูกส่งตัวกลับคืนสู่อัลเลาะห์

หลังจากนั้นทุก ๆ ชีวิตจะถูกตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้พากเพียรไว้อย่างครบถ้วน โดยที่พวกเขาไม่ถูกฉ้อฉลเลย”

 

 

คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ