ผู้ที่แอบอ้างเป็น นบี
  จำนวนคนเข้าชม  12705

 

ผู้ที่แอบอ้างเป็น นบี


แปลและเรียบเรียง อ. อิหฺซาน มีผลกิจ


อิบนิ ซายาด จอมโกหก อ้างตนว่าเป็นนบี

          อิบนิ ซิยาด เป็นชาวยิวคนหนึ่ง เขาได้รับการแนะนำจากชัยฏอน จนกระทั่งท่านนบี เข้าใจไปว่า เขา คือ มะเซี๊ยะ อัจ ดัจญาล แต่ต่อมาก็ปรากฏว่าเขาคือพวกหมอผีคนหนึ่ง ท่านนบี  ได้สนทนากับเขาดังต่อไปนี้

ท่านนบี : ท่านจะยอมรับการเป็นนบีของข้าหรือไม่?

อิบนิซิยาด : และท่านล่ะ จะยอมรับการเป็นนบีของข้าด้วยหรือไม่?

ท่านนบี : ท่านเห็นสิ่งใดบ้าง

อิบนิซิยาด : ฉันเห็นบัลลังค์อยู่เหนือน้ำ

ท่านนบี : ที่ท่านเห็นมันคือ บัลลังค์ ของอิบลีส

          ท่าน อุมัร บินค็อตต็อบ ได้ขออนุญาต ท่านนบี  เพื่อสังหาร อิบนิ ซิยาด เพราะเข้าใจว่า เขาผู้นี้คือ มะเซียะ อัลดัจญาล แต่ ท่านนบี  ก็ไม่อนุญาต จนกระทั่งมีการกล่าวกันว่า อิบนิ ซิยาดนั้น ได้เข้ารับอิสลาม ท่านนบี จึงได้กล่าวกับ ท่านอุมัร ว่า หากเขาผู้นี้เป็น(ดัจญาล) จริงตามที่ท่านกลัว ท่านก็ไม่มีความสามารถที่จะสังหารเขาได้หรอก

ลักษณะของมะเซี๊ยะ อัจ ดัจญาล ที่ท่านนบี   ได้กล่าวถึง

         ดัจญาลที่ท่านนบี ได้กล่าวถึงนั้น มันจะมายึดครองสร้างความเสียหายบนแผ่นดินนี้ เมื่อมันผ่านไปยังที่ใด ตรงนั้นก็จะพังพินาศ โดยมันจะกล่าวกับแผ่นดินว่า “จงคลายทรัพย์สินออกมา” มันจะอยู่บนแผ่นดินนี้ 40 วัน และมันจะกล่าวกับบรรดามนุษย์ทั้งหลายว่า

         “ข้าคือ พระเจ้าของท่าน ผู้ใดที่เชื่อฟังและปฏิบัติตาม ก็จะถูกตอบแทนด้วยกับสวรรค์ ส่วนใครที่ไม่เชื่อฟัง ก็จะถูกตอบแทนด้วยกับนรก ดัจญาลนั้นจะมาสร้างความเสียหายแก่แผ่นดินมากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น และมันจะยังคงสร้างความเสียหายต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งท่านนบีอีซา จะลงมาจากฟากฟ้ามาตามหามัน และก็สังหารมัน”

(จากหะดีษ อิหม่าม มุสลิม เรื่องฟิตนะต์ และลักษณะของ ดัจญาล)

         สิ่งที่ได้กล่าวมา ท่านผู้อ่านคงจะได้เห็นดัจญาล 2 ตัว ตัวแรก คือ อิบนิ ซิยาด ตัวที่ 2 คือ ดัจญาล ตามลักษณะที่ท่านนบี  ได้บอกให้ทราบ ซึ่งทั้ง 2 คือ จอมโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น

           บรรดาจอมโกหกทั้งหลาย บางคนก็อ้างตนว่า ได้รับวะฮีย์มาจากฟากฟ้า บางคนกล่าวว่า เขาคือ อิหม่ามมะห์ดีย์ ที่ถูกรอคอย บางคนก็อ้างว่าตนเอง เป็นนบี ฯลฯ แต่บรรดาจอมโกหกเหล่านี้ ก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องให้ใครเชื่อฟังพวกมันได้ นอกจากบรรดาผู้ที่โง่เขลาเบาปัญญาเท่านั้น และต่อมาไม่นาน อัลลอฮฺ ก็จะทรงเปิดโปงความจริงออกมาให้กับชาวโลกได้รับรู้ จนในที่สุด การเชิญชวนของพวกจอมโกหกทั้งหลายก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ

 

อัสวัด อัล-อันซีย์ ชาวซอนอา และมุซัยละมะห์ จอมโกหกชาวเยเมน

        ในยุคท่านนบี ก็เคยมี ผู้ที่อ้างตนเองว่าเป็นนบี เช่น อัสวัด อัล-อันซีย์ ชาวซอนอา และมุซัยละมะห์ จอมโกหกชาวเยเมน

          ครั้งหนึ่ง ท่านนบี  ได้ฝันว่า ท่านมีกำไลอยู่ในมือ 2 วง แต่ท่านก็เกลียดมันมาก จนกระทั่งมีเสียงกล่าวกับท่านว่า จงทิ้งมันไป และท่านก็ขว้างกำไลทั้งสองออกไปจนหักกระจาย และท่านได้กล่าวว่า กำไล วงแรกนั้น มันคือ จอมโกหกจากซอนอาอ์ (อัสวัด อัล-อุนซีย์) ส่วนกำไลวงที่สอง มันคือ จอมโกหก จากเยเมน (มุซัยละมะต์ จอมโกหก) สำหรับ อัสวัด อัล-อุนซีย์ นั้นๆ ได้ถูก ฟัยรูซ อัด ดัยละมีย์ ฆ่าตาย ส่วนมุซัยละมะห์ จอมโกหกนั้น เขาได้กุเรื่องราวขึ้น โดยบอกว่า “แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงกำหนดให้มุฮัมหมัด มีส่วนร่วมกับเขาในการเป็นนบี"  มุซัยละมะห์จอมโกหกนั้น เขามาจากเผ่าบะนีย์ ฮะนีฟะต์

เขาได้เคยกล่าวกับท่านนบี  ว่า “หากท่านมุฮัมหมัด ให้ฉันสืบทอดกิจการต่อจากเขา ฉันก็จะปฏิบัติตามแนวทางของเขา(มุฮัมหมัด)"

       ท่านนบี ได้ตอบกลับไปว่า “แม้ท่านจะขอกิ่งอินทผาลัมจากเราพียงหนึ่งกิ่ง เราก็จะไม่ให้เจ้าอย่างเด็ดขาด และหากท่าน ดำเนินการใดๆต่อจากฉัน อัลลอฮฺ ก็จะไม่ทรงให้เกิดความสำเร็จ ฉันเห็นแล้วว่า สิ่งที่ท่านทำไปนั้น ฉันไม่ได้เห็นด้วยเลย”

           กองทัพมุสลิมได้ทำสงครามกับกองทัพของ มุซัยละมะห์จอมโกหก ในสมรภูมิ “ริดดะต์” กองกำลังของมุซัยละมะห์ มีจำนวนถึง 1 แสนคน แต่กองทัพมุสลิมที่นำโดย คอลิด บิน วะลีดนั้น มีเพียงจำนวนหมื่นคน แต่ก็สามารถขับไล่กองทัพของมุซัยละมะห์ ให้กระเจิดกระเจิงไปได้ ในที่สุดมุซัยละมะห์ ก็ถูกสังหาร ณ สถานที แห่งหนึ่งที่เรียกว่า “สวนแห่งความตาย”  จนกระทั่งมีคนหนึ่งได้ตะโกนว่า “ทาสผิวดำ (วะฮซีย์ ) ได้ฆ่า มุซัยละมะห์ ได้แล้ว”

 

มุกตาร บิน อะบีด อัซซะกอฟีย์ ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนบี

          ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนบีอีกคนหนึ่ง ก็คือ มุกตาร บิน อบี อะบีด อัซซะกอฟีย์ เขาคือผู้ก่อการกบฎในสมัยคอลีฟะต์บะนี อุมัยยะต์ เขาออกมาต่อต้านท่านฮุเซน บินอาลี และต่อมาก็ได้สังหารท่านฮุเซน ต่อจากนั้น เขาก็เข้ายึดเมืองกุฟะต์ และได้ประกาศตนว่าเขาคือ นบี โดยกล่าวอ้างว่า ญิบรีลได้มาหาเขา

           มีรายงานจากท่านอบูดาวูด อัตตอยยาลิซีย์ จากสายสืบศอเฮี๊ยะจากท่านริฟาอะต์ บิน ซัดด้าดได้กล่าวว่า “ฉันได้แอบซ่อนท่านมุกตาร และวันหนึ่ง ฉันได้เข้าไปหาเขา เมื่อฉันเข้าไป เขาก็กล่าวขึ้นว่า ขณะที่ท่านเข้ามา ญิบรีลก็ยืนอยู่ตรงเก้าอี้ด้านนี้”

          มีรายงานจากท่านยะกูบ บินซูฟยาน  จากสายสืบที่ฮะซัน จากท่านซะอบีย์ได้กล่าวว่า แท้จริง อัล อะหฺนัฟ บิน กอยสฺ ได้เห็นจากบันทึกที่มุกตาร ได้จัดส่งมาหาเขาโดยในบันทึก นั้น มีข้อความว่า”เขา(มุกตาร) นั้น คือ นบี....”

 สำหรับมุกตาร ที่ได้อ้างตนว่าเป็นนบี ท่านนี้ได้ถูกมุสอับ บิน ซุเบร ฆ่าตายประมาณปีฮิจเราะฮฺศักราชที่ 60

 

มุฮัมหมัด บิน ตูมรอต

           ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นอิหม่ามมะหฺดีย์ อีกคนหนึ่ง ก็คือ มุฮัมหมัด บิน ตูมรอต เขาสามารถยึดครองเมืองมอร็อกโคได้ และได้จัดตั้งเป็นอาณาจักรของตนเอง โดยให้มีชื่อว่า “อาณาจักรแห่งเอกภาพ” แทน อาณาจักรผสมที่เขาได้โค่นล้มไป เขาผู้นี้ทำลายศาสนาอิสลามมากยิ่งกว่าท่านฮุจญาจ บินยูซุฟ เสียอีก บรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามเขาได้ให้เขาเข้าไปอยู่ภายในกุบู้ร ต่อจากนั้นก็ออกมาบอกกับประชาชนว่า แท้จริงมุฮัมหมัด บิน ตูมรอต นั้นคือ อิหม่ามมะห์ดีย์ ตามที่ท่านนบีได้บอกเอาไว้ เขาได้รับการสนับสนุนในเรื่องหลักอากิดะห์ จากพวกญะห์มียะต์ที่ปฏิเสธคุณลักษณะต่างๆของอัลลอฮฺ ซึ่งกลุ่มฮะนาบะละต์บางกลุ่ม ได้กล่าวว่า อะกีดะห์ของพวกนี้ คือ สิ่งที่หลงทาง

 

อับดุลลอฮฺ บิน มัยมูน อัล- กอดาหฺ ผู้ที่อ้างตนว่า เป็น อิหม่ามมะห์ดีย์

          ผู้ที่ได้อ้างตนว่าเป็นอิหม่ามมะห์ดีย์อีกท่านหนึ่งได้แก่ อับดุลลอฮฺ บิน มัยมูน อัล-กอดาหฺ เขาได้โกหกว่า เขามาจากวงศ์วารของท่านร่อซูล ซึ่งบรรดาลูกหลานของเขา ได้เข้ายึดครองมอร็อกโค อียิปต์ ชาม ฮิญาซ พวกเขาได้แต่งตั้งให้เป็นคอลีฟะต์ของกลุ่มรอวาฟิดอย่างลับๆ ท้ายทีสุดอัลลอฮฺ  ก็ทรงทำให้เขาหมดอำนาจลง โดยการปราบปรามของศอลาฮุดดีน อัล-อัยยูบีย์

 

 


ที่มา : อัลอิศลาห์ สมาคม