การมองเห็นอัลลอฮ์ 1
  จำนวนคนเข้าชม  9311

 

การมองเห็นอัลลอฮ์ 1


ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์


         มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ขอความสุขความจำเริญและศานติจงประสบแด่ศาสนทูตของพระองค์ ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดเป็นบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์

         ความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ชาวสวรรค์จะได้รับ คือการได้เห็นอัลลอฮุตะอาลา อันเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทุกคนขวนขวาย และใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับโอกาสนั้น ในขณะที่ผู้คนส่วนหนึ่งถูกตีตราว่าเป็นผู้ที่ห่างไกลจากความเมตตาของพระองค์ และจะถูกกีดกันมิให้ได้รับความโปรดปรานนี้

1) อัลลอฮฺตรัสว่า

“ในวันนั้น หลายๆใบหน้าจะเบิกบาน จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน”

(อัล-กิยามะฮฺ: 22-23)

ท่านอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวอธิบายอายะฮฺนี้ว่า “คือ มองไปยังพระผู้เป็นเจ้าของมัน”

 (ซาดุลมะสีรฺ เล่ม 8 หน้า 422)


2)    และพระองค์ตรัสว่า

“สำหรับพวกเขาจะได้รับสิ่งที่พวกเขาพึงประสงค์ในสวนสวรรค์ และ ณ เรานั้นยังมีสิ่งที่มากกว่า”

 (กอฟ: 35)

ท่านอะลีย์ บิน อบีฏอลิบ และท่านอนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า َملاز ْ􀉋د (สิ่งที่มากกว่า) ในที่นี้หมายถึง “การได้เห็นอัลลอฮฺ”

 (ซาดุลมะสีรฺ เล่ม 8 หน้า 21)


3)    และในอีกดำรัสหนึ่งพระองค์ตรัสว่า

“สำหรับบรรดาผู้กระทำความดี จะได้รับความดี และได้เพิ่มขึ้นอีก”

 (ยูนุส: 26)

         ซึ่ง ْسُﻟﺤا􀅣 (ความดีงาม) ในที่นี้ หมายถึงสรวงสวรรค์ ส่วน ِزلا َ􀉋 َداة (สิ่งที่เพิ่มขึ้นมา) หมายถึงการได้มองไปยังพระพักตร์อันทรงเกียรติของอัลลอฮฺตะอาลา ดังคำอธิบายของท่านเราะสูล ซึ่งปรากฏในบันทึกรายงานของมุสลิมจากท่านศุฮัยบฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า

 

ท่านนบี กล่าวว่า “เมื่อชาวสวรรค์ได้เข้าสู่สวรรค์แล้ว อัลลอฮฺตะอาลา จะตรัสถามว่า: 'พวกเจ้าต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมจากข้าอีกไหม?'

พวกเขาก็จะตอบว่า: 'มิใช่พระองค์ทรงทำให้ใบหน้าของพวกเราใสบริสุทธิ์แล้วหรอกหรือ? มิใช่พระองค์ทรงให้พวกเราได้เข้าสวรรค์ และรอดพ้นจากไฟนรกแล้วหรอกหรือ?'

(แล้วพวกเราจะต้องการสิ่งใดอีก? – ผู้แปล)

พระองค์จึงทรงปลดฉากที่กั้นอยู่ออก ซึ่งไม่มีความโปรดปรานใดๆ ที่พวกเขาได้รับ จะเป็นที่สิ่งที่พวกเขาปรารถนามากยิ่งไปกว่าการได้มองไปยังพระเจ้าของพวกเขา”

(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 181)

ท่านศุฮัยบฺกล่าวว่า แล้วท่านก็อ่านอายะฮฺนี้

“สำหรับบรรดาผู้กระทำความดี จะได้รับความดี และได้เพิ่มขึ้นอีก”

 (ยูนุส: 26)

        บรรดาเศาะหาบะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม ก็อธิบายความหมายของอายะฮฺดังกล่าวไม่ต่างกัน ดังปรากฏในรายงานซึ่งบันทึกโดยอิบนุญะรีรฺ จากเศาะหาบะฮฺหลายท่าน เช่น ท่าน อบูบักรฺ ท่านหุซัยฟะฮฺ ท่านอบูมูซา อัล-อัชอะรียฺ และท่านอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม

 (ญามิอุลบะยาน เล่ม 5 หน้า 4198-4201)


4) พระองค์ตรัสอีกว่า

“มิใช่เช่นนั้น แท้จริงพวกเขาในวันนั้นจะถูกกั้นจากพระเจ้าของพวกเขา”

 (อัล-มุฏ็อฟฟิฟีน: 15)

         ปราชญ์ในยุคสลัฟบางท่านใช้อายะฮฺนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่าชาวสวรรค์จะได้เห็นอัลลอฮฺ ตะอาลา

อิมามอัช-ชาฟิอียฺ กล่าวว่า

          “อายะฮฺนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า ในวันนั้นบรรดาผู้ศรัทธาจะได้เห็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา”

 

อิบนุกะษีรฺ กล่าวสนับสนุนทัศนะนี้ว่า

         “คำกล่าวของอิมามอัช-ชาฟิอียฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ นั้นช่างงดงามลึกซึ้งยิ่งนัก เป็นการอธิบายบนพื้นฐานของความเข้าใจที่มีต่ออายะฮฺดังกล่าว ในทำนองเดียวกันกับตัวบทหลักฐานที่ระบุอย่างชัดเจนว่า บรรดาผู้ศรัทธาจะได้เห็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาในโลกอาคิเราะฮฺ เป็นการมองเห็นด้วยสายตาขณะที่อยู่ระหว่างการสอบสวนตัดสินและในสรวงสวรรค์อันยิ่งใหญ่สถาพร เช่น ดำรัสของพระองค์ความว่า

 “ในวันนั้น หลายๆ ใบหน้าจะเบิกบาน จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน”

(อัล-กิยามะฮฺ: 22-23)

หรือหะดีษที่มีความถูกต้องจำนวนมากมายซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านสายรายงานที่ต่อเนื่องและเชื่อถือได้” (ตัฟสีรฺอิบนุกะษีรฺ เล่ม 14 หน้า 287)

 

ชัยคฺ อับดุรเราะหฺมาน บิน สะอฺดียฺ กล่าวว่า

           “และความเจ็บปวดทรมานจากการถูกปิดกั้นมิให้มองเห็นพระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลก อันเนื่องจากความกริ้วโกรธและความไม่พอพระทัยที่พระองค์มีต่อพวกเขานั้น เป็นความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัสยิ่งกว่าการถูกลงโทษแผดเผาด้วยไฟนรกเสียอีก ซึ่งจากอายะฮฺดังกล่าวเข้าใจได้ว่า ในวันกิยามะฮฺบรรดาผู้ศรัทธาจะได้เห็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาในสรวงสวรรค์ ในสภาพที่มีความสุขสำราญเหนือกว่าความสุขใดๆ ทั้งปวง พวกเขาจะมีความปลื้มปีติยินดีที่ได้สนทนาและใกล้ชิดกับพระองค์ ดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้ในหลายต่อหลายอายะฮฺ และดังที่ท่านเราะสูล ได้เคยบอกเอาไว้ผ่านการรายงานที่ต่อเนื่องไปถึงท่าน”

 (ตัฟสีรฺ อัส-สะอฺดียฺ หน้า 875)

มีระบุในหนังสือ ชัรหฺ อัฏเฏาะหาวิยะฮฺ ว่า

           “บรรดาหะดีษที่รายงานจากท่านนบี และเศาะหาบะฮฺ ซึ่งกล่าวถึงการมองเห็นอัลลอฮฺนั้น ได้รับการถ่ายทอดผ่านสายรายงานที่ถูกต้องเชื่อถือได้ และได้รับการบันทึกโดยนักบันทึกหะดีษจำนวนมาก ทั้งนี้ มีเศาะหาบะฮฺกว่าสามสิบท่านรายงานหะดีษที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งหากผู้ใดได้ทำการตรวจสอบหะดีษที่มีบันทึกไว้ทั้งหมด จะมั่นใจได้ว่าเป็นสิ่งที่ท่านเราะสูล กล่าวไว้อย่างแน่นอน นอกเหนือไปจากเรื่องการได้เห็นอัลลอฮฺแล้ว หะดีษเหล่านี้ยังระบุอีกว่า อัลลอฮฺจะทรงสนทนากับผู้ใดและเมื่อใดก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และในวันกิยามะฮฺพระองค์จะทรงปรากฏต่อหน้าสรรพสิ่งเพื่อตัดสินลงโทษ และยังระบุว่าพระองค์ทรงอยู่สูงเหนือทุกสิ่ง และทรงขานเรียกพวกเขาด้วยเสียงอันเป็นที่ได้ยินสำหรับผู้ที่อยู่ไกลออกไปในระดับที่ไม่ต่างจากผู้ที่อยู่ใกล้ นอกจากนี้ยังระบุว่าพระองค์ทรงหัวเราะ และทรงมีคุณลักษณะอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนถูกระบุไว้ในอัลกุรอานและสุนนะฮฺ"

 (ชัรหฺ อัล-อะกีดะฮฺ อัฏ-เฏาะหาวิยะฮฺ หน้า 209-210)

ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า

มีบางคนถามท่านเราะสูล ว่า: ในวันกิยามะฮฺพวกเราจะได้เห็นพระเจ้าของพวกเราไหมครับ?

ท่านกล่าวตอบว่า"พวกท่านประสบปัญหาในการมองเห็นดวงอาทิตย์ในวันที่ไม่มีเมฆบดบังไหม?"

พวกเขากล่าวว่า "ไม่เลยครับท่านเราะสูลุลลอฮฺ"

ท่านกล่าวถามอีกว่า "แล้วพวกท่านประสบปัญหาในการมองเห็นดวงจันทร์ ในคืนจันทร์เต็มดวงที่ไม่มีเมฆบดบังไหม"

พวกเขากล่าวว่า "ไม่เลยครับท่านเราะสูลุลลอฮฺ"

ท่านกล่าวว่า "ในวันกิยามะฮฺพวกท่านก็จะได้เห็นอัลลอฮฺอย่างชัดเจนเช่นนั้น"

 (บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หะดีษเลขที่ 6573 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 299)

 

และท่านอบูมูซา เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี กล่าวว่า

"มีสวรรค์อยู่สองแห่งที่ภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ และทุกสิ่งทุกอย่างในนั้นทำมาจากโลหะเงิน

และมีสวรรค์อีกสองแห่งที่ภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ และทุกสิ่งทุกอย่างในนั้นทำมาจากทอง

ทั้งนี้ ระหว่างชาวสวรรค์กับการมองเห็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขานั้น มีเพียงฉากกั้นกลางเท่านั้น"

 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หะดีษเลขที่ 4878 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 180)

 

 

 


แปลโดย : อัสรัน นิยมเดชา / Islamhouse