รางวัลสำหรับชาวสวรรค์
  จำนวนคนเข้าชม  8563

 

รางวัลสำหรับชาวสวรรค์

 

ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์



 

         การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสดุดีสรรเสริญและความศานติจงมีแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการภักดีนอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีหุ้นส่วนอันใดสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุหัมมัดคือบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์...

 

อัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า
 

        “แท้จริง ในวันนั้นชาวสวรรค์จะอยู่ในกิจกรรมอันสุขสำราญ ทั้งพวกเขาและคู่ครองของพวกเขาจะนอนเอกเขนกบนเก้าอี้นวม อยู่ภายใต้ร่มไม้ที่แสนร่มรื่น ในสวนสวรรค์นั้นจะมีผลไม้ (หลากชนิด) และจะมีสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเขา พวกท่านพึงอยู่ในความศานติเถิด คือพระดำรัสหนึ่งจากพระเจ้าผู้ทรงเมตตาเสมอ” 
 

(ยาซีน : 55-58 )
 

ความหมายของโองการที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า


﴿ إِنَّ أَصۡحَٰبَ ٱلۡجَنَّةِ ٱلۡيَوۡمَ فِي شُغُلٖ فَٰكِهُونَ ٥٥﴾ [يس: ٥٥]

       อิบนุกะษีร ได้อธิบายว่า “อัลลอฮฺได้บอกกล่าวให้เราทราบเกี่ยวกับชาวสวรรค์ว่า ในวันกิยามะฮฺนั้นเมื่อชาวสวรรค์ได้เคลื่อนออกจากอัล-อะรอศอตหมายถึงสถานที่ชุมนุมรวมตัวกันของชาวสวรรค์หลังจากที่ได้ข้ามสะพานผ่านไปแล้ว พวกเขาก็จะเข้าไปพำนักในสวนสวรรค์ ซึ่งแต่ละคนต่างก็หมกหมุ่นอยู่กับการจัดแจงตนเอง เนื่องด้วยความโปรดปรานอันบรมสุขที่พวกเขาได้พบเจอในขณะนั้น”

        อิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ให้ความหมายของคำว่า ( فَٰكِهُونَ ) หมายถึง “พวกเขามีความรื่นรมย์ใจ” ในขณะที่นักอรรถาธิบายอัลกุรอานบางท่านให้ความหมายว่า ”พวกเขามีความสุขใจ ดื่มด่ำกับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ มีความปรารถนาที่จะได้รับในสิ่งที่ต้องการ และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่พวกเขาปรารถนา คือ การที่จะได้แต่งงานกับสาวสวรรค์ซึ่งมีความสวยงามยิ่งพร้อมกับมีจรรยามารยาทอันประเสริฐ”

( อิบนุกะษีร เล่มที่ : 3 หน้า : 575 และตัฟซีรอัส-สะอฺดีย์ หน้า : 819 ) 

ส่วนความหมายของโองการที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า


﴿هُمۡ وَأَزۡوَٰجُهُمۡ فِي ظِلَٰلٍ عَلَى ٱلۡأَرَآئِكِ مُتَّكِ‍ُٔونَ ٥٦﴾ [يس: 56]

 

        หมายถึง “พวกเขาจะนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้นวมอันแสนอบอุ่น ภายใต้ร่มไม้ที่แสนจะร่มรื่น สวมอาภรณ์ที่เลิศหรูอย่างยิ่ง ดำรงอยู่ในสภาพของผู้ที่มีความสุขสบาย สงบร่มเย็นมากยิ่งนัก” 

ส่วนความหมายโองการที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า


﴿لَهُمۡ فِيهَا فَٰكِهَةٞ وَلَهُم مَّا يَدَّعُونَ ٥٧﴾ [يس: 57]

 

        หมายถึง “ผลไม้อันมากมายหลากหลายชนิดที่มีรสชาติแสนอร่อย ทั้งองุ่น มะเดื่อ ทับทิม และอื่นๆ อีกมากมาย โดยที่เมื่อพวกเขาปรารถนาที่จะรับประทานผลไม้ชนิดใดก็ตาม พวกเขาจะได้รับอย่างสมปรารถนา ดั่งที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ว่า

        “จะมีอาหารใส่จานทองคำและเครื่องดื่มถูกนำมาบริการเวียนรอบๆ พวกเขา และในสวนสวรรค์นั้น จะมีสิ่งที่จิตใจของพวกเขาต้องการและสายตาของพวกเขาชื่นชอบยินดี และพวกเจ้าจะได้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล” 

(อัซ-ซุครุฟ : 71)

ส่วนความหมายโองการที่อัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า


﴿ سَلَٰمٞ قَوۡلٗا مِّن رَّبّٖ رَّحِيمٖ ٥٨ ﴾ [يس: ٥٨]  

          ชัยคฺอับดุรเราะมาน อัส-สะอฺดีย์ อธิบายว่า

         “นี่คือคำดำรัสของอัลลอฮฺที่พระองค์จะกล่าวแก่ชาวสวรรค์ โดยที่เน้นด้วยคำว่า (قَوۡلٗا ) ครั้งเมื่ออัลลอฮฺได้กล่าวสลามแก่ชาวสวรรค์แล้ว พวกเขาจะได้รับความสุขไปตลอดกาล เป็นคำกล่าวสลามอันทรงคุณค่าสูงสุด ซึ่งดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยได้รับมา นับเป็นความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ ท่านคิดอย่างไรกับคำกล่าวต้อนรับของผู้ทรงอภิสิทธิ์ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะกล่าวแก่ผู้ที่ได้เข้าไปอยู่ในสวนสวรรค์ของพระองค์ โดยที่พระองค์จะไม่ทรงกริ้วโกรธพวกเขาตลอดกาล และพระองค์จะให้พวกเขามีชีวิตอย่างนิจนิรันดร์ พร้อมกับมีชีวีอันเปี่ยมสุขอย่างจีรัง โอ้อัลลอฮฺขอได้โปรดให้พวกเราได้รับความโปรดปรานประการนี้ด้วยเถิด และขอให้พวกเราได้ยลพระพักต์อันเจิดจรัสของพระองค์ด้วยเถิด” 

(ตัฟซีรอัส-สะอฺดีย์ หน้า : 819-820)  


คำสอนที่ได้รับจากโองการนี้

         1.♥ ในสวนสวรรค์จะมีบรรดาคู่ครองซึ่งมีความสะอาดบริสุทธิ์ ที่บรรดาบุรุษเพศจะได้มีความสุขสำราญกับพวกเธอ โดยที่บรรดาชาวสวรรค์จะมานั่งพักผ่อนภายใต้ร่มไม้ที่แสนร่มรื่นบนเก้าอี้นวมที่แสนอบอุ่น โดยมีบรรดาเด็กคอยเดินให้บริการวนเวียนนำอาหารมาเสิร์ฟอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่เขามีความปรารถนาต้องการอาหาร อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

“และในสวนสวรรค์พวกเขาจะมีคู่ครองที่บริสุทธิ์”

(อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 25 ) 

          มุญาฮิด กล่าวว่า “หมายถึงพวกเธอจะปราศจากเลือดประจำเดือน อุจจาระ ปัสสาวะ ไม่มีสิ่งสกปรกที่จะออกมาจากเรือนร่างของเธอ ไม่มีอสุจิ และเธอจะไม่คลอดบุตร” 

และอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสอีกว่า

       “ ในสวนสวรรค์เหล่านั้นมีหญิงสาวพรหมจารี ผู้ลดสายตาลงต่ำ (มองเฉพาะสามีของเธอเท่านั้น) ซึ่งไม่มีมนุษย์และญินได้เคยสัมผัสแตะเนื้อต้องตัวพวกเธอมาก่อนหน้าเลย” 

(อัร-เราะฮฺมาน : 56 )

      อิหม่ามอัล-บุคอรีย์ได้บันทึกหะดีษจากอะนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮู เล่าว่า ท่านนบี  กล่าวว่า

         “การออกสู่สนามรบไม่ว่าในยามเช้าหรือยามเย็น ย่อมดีกว่าโลกนี้และดีกว่าทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ และพื้นที่ในสวนสวรรค์เพียงน้อยนิด ปริมาณแค่คันธนูหรือแค่หนึ่งศอกของพวกท่านย่อมดีกว่าโลกนี้และทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ และหากสาวสวรรค์คนหนึ่งมาปรากฏกายบนโลกนี้ แน่นอนว่าจะเปล่งรัศมีเจิดจ้าในระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน พร้อมทั้งส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว และผ้าคลุมศรีษะของสาวสวรรค์นั้นย่อมดีกว่าโลกนี้และดีกว่าทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้” 

(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข : 1880 )

       อิหม่ามอัด-ดาริมีย์ ได้บันทึกหะดีษของซัยดฺ บิน อัรกอม เราะฎิยัลลอฮุอันฮู เล่าว่า ท่านนบี  กล่าวว่า

         “แท้จริงอัลลอฮฺจะให้พละกำลังแก่บุรุษชาวสวรรค์เท่ากับกำลังความเข้มแข็งของชายหนึ่งร้อยคน ในด้านการรับประทาน การดื่ม การร่วมประเวณี และในเรื่องของอารมณ์ทางเพศ” 

( บันทึกโดยอัด-ดาริมีย์ หมายเลข : 2825 ) 


         2.♥ ในสวนสวรรค์มีแม่น้ำหลายสายและผลไม้อันหลากหลาย แต่ทว่าจะมีความแตกต่างจากแม่น้ำและผลไม้ในโลกนี้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งมนุษย์เราไม่สามารถรู้ถึงแก่นแท้ของสิ่งเหล่านั้นได้ ดังที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

“ดังนั้น จึงไม่มีชีวิตใดรู้สิ่งที่ถูกซ่อนไว้สำหรับพวกเขา ให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตา เป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้”

 (อัส-สะญะดะฮฺ : 17 )

อิบนุ อับบาส อธิบายว่า ”ไม่มีสิ่งใดในสวนสวรรค์ที่จะเหมือนกับสิ่งที่มีอยู่ในโลกดุนยานี้ นอกจากชื่อเท่านั้นที่เหมือนกัน”

มีหะดีษจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู เล่าว่า ท่านนบี  กล่าวว่า

        “อัลลอฮฺตรัสว่า ฉันได้เตรียมการตอบแทนไว้สำหรับบรรดาปวงบ่าวของฉัน เป็นสิ่งที่สายตาไม่เคยเห็น หูไม่เคยได้ยิน และสิ่งที่หัวใจมนุษย์ไม่เคยจินตนาการไปถึง ดังนั้นพวกท่านจงอ่านโองการนี้เถิด

”ดังนั้น จึงไม่มีชีวิตใดรู้สิ่งที่ถูกซ่อนไว้สำหรับพวกเขา ให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตา เป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้” 

( บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข : 3244 และมุสลิม หมายเลข : 2824 )


3.♥ เป็นการยืนยันว่าพระองค์อัลลอฮฺจะตรัสกับชาวสวรรค์อย่างแน่นอน ดังที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

“การกล่าวคำทักทายของพวกเขาในวันที่พวกเขาพบกับพระองค์คือ ศานติ (สลาม) และพระองค์ทรงเตรียมรางวัลอันมีเกียรติไว้ให้แก่พวกเขาแล้ว” 

(อัล-อะหฺซาบ : 44 )

        อิบนุ กะษีร อธิบายว่า “หากมองอย่างผิวเผินแล้ว เป้าหมายของคำว่า (تَحِيَّتُهُمْ) ในโองการนี้ หมายถึงการกล่าวคำทักทายของอัลลอฮฺ   (يَوْمَ يَلْقَوْنَهُ سَلَامٌ ) คือในวันที่พระองค์ทรงกล่าวสลามแก่พวกเขา” 

(ตัฟซีร อิบนุ กะษีร เล่ม : 3 หน้า : 496) 


         4.♥ การที่บรรดามุอ์มินได้มองเห็นอัลลอฮฺในสวนสวรรค์ และการที่พระองค์ทรงพอพระทัยต่อพวกเขา นับได้ว่าเป็นความโปรดปรานอันใหญ่หลวง ที่อัลลอฮฺได้ให้เกียรติแก่บรรดาชาวสวรรค์ มีหะดีษจากศุฮัยบฺ อัร-รูมีย์ เล่าว่า ท่านนบี กล่าวว่า

”เมื่อชาวสวรรค์ได้เข้าสู่สวนสวรรค์แล้ว อัลลอฮฺจะตรัสถามพวกเขาว่า พวกเจ้าจะร้องขอสิ่งใดบ้าง ฉันจะเพิ่มให้แก่พวกเจ้า 

พวกเขาพูดว่า แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่พระองค์ทำให้ใบหน้าของพวกเราขาวนวล ให้เราได้เข้าสวรรค์ และให้เราได้รอดพ้นจากไฟนรก 

       ท่านนบี  กล่าวว่า หลังจากนั้นอัลลอฮฺทรงเปิดม่านกั้นออก ไม่มีสิ่งใดเป็นที่รักยิ่งแก่พวกเขาจากสิ่งที่พวกเขาได้รับ มากไปกว่าการได้มองเห็นพระผู้อภิบาลของพวกเขา 

มีบางสายรายงานเพิ่มเติมว่า แล้วท่านนบี ได้อ่านโองการ

“สำหรับบรรดาผู้ที่ประพฤติดีจะได้รับสวนสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน และเพิ่มมากกว่านั้น(คือการได้มองอัลลอฮฺ)” 

(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข : 181) 

และอบูสะอีด อัล-คุดรีย์ เล่าว่า ท่านนบี กล่าวว่า

“อัลลอฮฺได้เรียกชาวสวรรค์ว่า โอ้ชาวสวรรค์ทั้งหลาย 

พวกเขากล่าวตอบว่า ครับพระองค์ท่าน 

อัลลอฮฺตรัสถามว่า พวกเจ้าพึงพอใจแล้วหรือยัง ? 

พวกเขากล่าวว่า เราจะไม่พึงพอใจได้อย่างไรกันเล่าในเมื่อพระองค์ พระองค์ทรงตอบแทนให้แก่พวกเรามากกว่าผู้ใดทั้งปวงแล้ว 

อัลลอฮฺตรัสถามต่อว่า ข้าจะตอบแทนแก่พวกเจ้าในสิ่งที่ประเสริฐกว่าที่พวกเจ้าได้รับแล้วเสียอีก 

พวกเขากล่าวว่า แล้วจะมีอะไรจะดีกว่าในสิ่งที่เราได้รับแล้วอีกเล่าพระองค์? 

อัลลอฮฺตรัสว่า นั่นคือความพึงพอใจของข้าที่พึงมีต่อพวกเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบยิ่ง โดยไม่มีวันที่ข้าจะกริ้วโกรธพวกเจ้าอีกอย่างเด็ดขาด” 

(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข : 6549 และมุสลิม หมายเลข : 2829 ) 

5.♥ ชาวสวรรค์จะได้รับทุกสรรพสิ่งที่พวกเขามีความปรารถนาต้องการ ดังที่ท่านนบี กล่าวว่า

“ท่านนบีมูซาได้กล่าวถามอัลลอฮฺว่า ชาวสวรรค์ที่อยู่ชั้นต่ำสุดเป็นอย่างไร? 

อัลลอฮฺตรัสตอบว่า เขาคือผู้ที่ได้เข้าสวรรค์หลังจากที่ชาวสวรรค์ทั้งหลายได้เข้าสวรรค์ไปแล้ว เขาได้รับคำสั่งว่า เจ้าจงเข้าไปในสวรรค์เถิด 

เขากล่าวว่า โอ้ผู้อภิบาลของฉัน ฉันจะเข้าไปอยู่ที่ไหน ในเมื่อชาวสวรรค์ทั้งหลายได้รับที่อยู่ของพวกเขาไปหมดแล้ว? 

อัลลอฮฺตรัสว่า เจ้าจะพึงพอใจหรือไม่หากเจ้าจะได้รับการตอบแทนเหมือนกับพื้นที่การครอบครองของกษัตริย์ในโลกดุนยา? 

เขาตอบว่า ฉันพึงพอใจแล้วโอ้พระผู้อภิบาลของฉัน 

       แล้วอัลลอฮฺก็ตรัสกับเขาว่า เจ้าจะได้รับเช่นนั้นแหละ และเพิ่มเป็นสองเท่า สามเท่า สี่เท่า และห้าเท่า จนเขากล่าวในครั้งที่ห้าว่า ฉันพึงพอใจแล้วโอ้พระผู้อภิบาลของฉัน 

อัลลอฮฺตรัสว่า เจ้าจะได้รับเช่นนั้นและอีกสิบเท่า เจ้าจะได้รับในสิ่งที่เจ้าปรารถนาและที่เจ้าชื่นชอบ 

เขากล่าวว่า ฉันพึงพอใจแล้วโอ้พระผู้อภิบาลของฉัน 

และท่านนบีมูซาถามต่อไปว่า แล้วชาวสวรรค์ชั้นสูงสุดล่ะเป็นอย่างไร? 

       อัลลอฮฺตรัสตอบว่า พวกเขาคือผู้ที่ฉันได้เลือกเฟ้น และดูแลพวกเขาอย่างดีเยี่ยม ด้วยเกียรติและความโปรดปรานที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ซึ่งจักษุไม่เคยเห็น โสตประสาทไม่เคยได้ยิน และหัวใจของมนุษย์ไม่เคยจินตนาการไปถึงเกียรติอันสูงส่งนี้ได้ 

ท่านนบี กล่าวเสริมต่อไปว่า ซึ่งหลักฐานนั้นก็มีปรากฏในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ” 

(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข : 189) 

นั่นคือพระดำรัสของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ที่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงนี้ว่า

“ดังนั้น จึงไม่มีชีวิตใดรู้สิ่งที่ถูกซ่อนไว้สำหรับพวกเขา ให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตา เป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้” 

(อัส-สะญะดะฮฺ : 17)


 

 

แปลโดย : อับดุศศอมัด อัดนาน / islamhouse