ยิวกับลัทธิก่อการร้าย
  จำนวนคนเข้าชม  16438

ยิวกับลัทธิก่อการร้าย


         แนวคิดของยิวเกี่ยวกับการก่อร้าย  มีรากเหง้ามาจากความเชื่อที่บิดเบือนซึ่งเคียดแค้นบรรดาผู้ที่ดำรงตนในความดี  บรรดานบีทั้งหลายและบรรดาผู้ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชาติมุสลิมผู้ศรัทธาต่อนบีมูฮัมมัด  ประวัติศาสตร์ของชาวยิว จึงเป็นประวัติศาสตร์ที่แปดเปื้อนด้วยเลือดผู้บริสุทธิ์  การทรยศหักหลัง  การหลอกลวง  ละเมิดสัญญาและพฤติกรรมไร้ศีลธรรมทั้งหลาย  การที่จะเรียกว่าพวกเขามีพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ป่าที่ดุร้าย  ดูเหมือนว่าจะน้อยไปและไม่ค่อยยุติธรรมกับสัตว์มากนัก  ทั้งนี้เนื่องจากสัตว์ป่าจะล่าเหยื่อเพียงเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ เท่านั้น  แต่ยิวไซออนนิสต์ไม่เคยอิ่มหนำกับคราบเลือดและซากศพของชีวิตมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นเด็ก  สตรี  คนแก่หรือหญิงมีครรภ์ก็ตาม


ปรากฏในหนังสือคำสั่งเสียสำหรับชาวยิวว่า
 
“ท่านจงทำลายล้างชาวโลกให้สิ้นซาก  ห้ามให้อภัยโดยเด็ดขาด  อย่าริทำสัญญาใดๆกับพวกเขา  จงฆ่าพวกเขาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นชาย  หญิง  เด็กน้อย  หญิงมีครรภ์  วัวควาย  แพะแกะ  ม้าและลา”

 


คัมภีร์โตราห์ที่มีการบิดเบือนได้ระบุว่า
 

“เราไม่สามารถยึดครองแผ่นดินด้วยวิธีเจรจาสันติภาพ  แต่ด้วยวิธีการหลั่งเลือดเท่านั้นที่ เราสามารถยึดครองแผ่นดิน”



 
หนึ่งในคำสอนโตราห์ได้บัญญัติว่า

“ข้าจะมอบให้แก่เจ้าและวงศ์วานของเจ้า แผ่นดินทั้งหมดที่อยู่บริเวณแม่น้ำไนล์จนกระทั่งแม่น้ำ        ยูเฟรติส”

โมเช่ห์ ดายัน หนึ่งในแกนนำก่อการร้ายยิวได้เคยกล่าวว่า

“หากเรามีคัมภีร์โตราห์ และเรายึดมั่นว่าเราคือประชาชาติแห่งคัมภีร์โตราห์ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องทวงคืนแผ่นดินทั้งหมดที่ถูกระบุไว้ในคัมภีร์โตราห์ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา”

          แผ่นดินที่อยู่ระหว่างแม่น้ำไนล์จนถึงแม่น้ำยูเฟรติส ครอบคลุมประเทศต่างๆ ได้แก่ อิยิปต์ จอร์แดน ซีเรีย เลบานอน ค็อยบัร(จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศซาอุดิอาระเบีย)และอีรัก
 
Dr.Hertzel   หนึ่งในผู้ก่อการร้ายยิวได้กล่าวว่า
 
“หากมีโอกาสยึดครองแผ่นดินกุดส์  และฉันยังมีชีวิตอยู่และมีความสามารถทำได้ตามอำเภอใจแล้ว  แน่นอนฉันจะทำลายทุกอย่างที่ไม่ใช่สถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว  และฉันจะเผาทำลายโบราณวัตถุต่างๆให้สิ้นซาก”

“หากเจ้าเข้าประชิดเมืองใด  และชาวเมืองนั้นประกาศสงครามกับท่าน  ท่านจงล้อมเมืองนั้น  เมื่อใดที่ท่านประสบชัยชนะ  ท่านจงฆ่าพลเมืองที่เป็นชายด้วยดาบของท่าน  สำหรับสตรี  เด็ก  สัตว์ตลอดจนสิ่งของต่างๆที่มีอยู่ในเมืองนั้น  ท่านจงใช้ประหยัดได้ตามอำเภอใจ  แต่สำหรับพลเมืองที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่พระเจ้าประทานแก่พวกท่านนั้น (ปาเลสไตน์)  ท่านอย่าปล่อยให้พวกเขามีชีวิตแม้เพียงคนเดียว  เพราะหากท่านปล่อยให้พวกเขามีชีวิต  พวกเขาก็จะสร้างปัญหาให้กับพวกท่านได้  และพวกเขาอาจยื้อแย่งที่ดินและที่อยู่อาศัยของพวกท่าน”


 
ในหนังสือยุทธ์ศาสตร์ยิวไซออนนิสต์ได้กล่าวว่า
 
“ผลลัพท์ที่ดีที่สุดสู่การครอบครองโลกคือ  การได้มาด้วยวิธีการใช้ความรุนแรงและการก่อการร้าย  ไม่ได้ด้วยวิธีสานเสวนาทางวิชาการ  มนุษย์ทุกคนมีความพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ  และทุกคนเสน่หาที่จะสถาปนาตนเองเป็นจอมเผด็จการ”
 
          นายเบนกูเรียน นายกรัฐมนตรีคนแรกของรัฐก่อการร้ายอิสราเอล  ตลอดจนบรรดาสานุศิษย์ของ         นายราบิน และเปเรส  ต่างก็ยอมรับว่า  ความรุนแรงและการก่อการร้ายเท่านั้นที่เป็นหลักประกันให้คนอาหรับยอมรับการมีอยู่ของรัฐอิสราเอลและยอมอพยพออกจากแผ่นดินของตนเอง  ชาวยิวได้สนับสนุนการใช้ความรุนแรงและการก่อการร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ก่อนที่จะขยายวงกว้างใช้ความรุนแรงสู่ประเทศอาหรับที่ใกล้เคียง
 
         เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวยิวได้ศรัทธามั่นว่าพวกเขาคือประชาชาติที่มีเกียรติเหนือชนชาติอื่นๆ  และพวกเขาคือชนชาติที่ได้รับการคัดเลือกจากอัลลอฮ์ ชนที่ไม่ใช่ยิวล้วนเป็นลาที่ต้องเป็นสัตว์พาหนะสำหรับชาวยิวเท่านั้น ส่วนหนึ่งที่เป็นคำกล่าวของบรรดานักปราชญ์ของชาวยิวได้แก่
 


“ชาวอาหรับนับล้านคน  ไม่สามารถเทียบเคียงกับเล็บมือของยิวคนเดียว”

 


 

 


ที่มา : จากหนังสือ"ปาเลสไตน์ แผ่นดินที่ไร้ประชาชน เพื่อทรชนผู้ไม่มีแผ่นดิน"

ผู้เขียน : มัสลัน มาหะมะ

الكاتب : مرسلان محمد

สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา