จุดยืน มุสลิมท่ามกลางฟิตนะฮ์ความวุ่นวาย
  จำนวนคนเข้าชม  2150


จุดยืน มุสลิมท่ามกลางฟิตนะฮ์ความวุ่นวาย

 

โดย เชค ซอแหละฮฺ บิน เฟาซาน บิล อับดุลลอฮฺ บิน เฟาซาน
แปลและเรียบเรียงโดย อับดุลวาเอด สุคนธา
 

บทนำ

 
بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ

 

          มวลการสรรเสริญทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ เราขอสรรเสริญต่อพระองค์ เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์ เราขออภัยโทษจากพระองค์ เราขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายในตัวของเรา จากการงานที่เลวร้าย และการตั้งเจตนาไม่ดีที่อยู่ในจิตใจของเรา ผู้ใดก็ตามที่พระองค์ทรงนำทางเขา เขาก็จะไม่หลงทาง และผู้ใดก็ตามที่พระองค์ให้เขาหลงทาง ก็จะไม่มีผู้ใดให้ทางนำแก่เขาได้ เว้นแต่พระองค์เท่านั้น

 

          ข้าพเจ้า ขอปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ และข้าพเจ้าขอปฏิญาณตนว่านบีมุฮัมมัด(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)คือบ่าวและศาสนทูตของพระองค์ ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านและบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านและบรรดาเครือญาติของท่านตลอดจนบรรดาผู้ปฏิบัติตามแนวทางของท่านให้ได้รับความดีด้วยเถิด


          คำว่า "ฟิตนะฮฺ" หมายถึง การสร้างความเดือดร้อน, ความวุ่นวาย, การทำให้เกิดความเสียหาย, การสร้างความเจ็บแค้นให้แก่ผู้อื่น, การทำให้สังคมโดยรวมปั่นป่วน, การสร้างความเสื่อมเสีย ฉะนั้นคำว่า "ฟิตนะฮฺ" จึงมิได้หมายรวมว่า บททดสอบจากอัลลอฮ ซุบฮานะฮูตะอาละ อย่างเดียวเท่านั้น

          อัลลอฮฺ  ทรงได้บอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เรา คือ อัลลอฮฺ  ทรงทดสอบบ่าวของพระองค์ โดยจะไม่ทรงปล่อยพวกเขาอยู่ตามลำพังโดยปราศจากการทดสอบ หากว่าอัลลอฮฺ  ไม่ทรงทดสอบบ่าวของพระองค์ ก็จะทำให้เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ใครคือผู้ศรัทธา ใครคือคนหน้าไหว้หลังกลอก คน พูดจริง คนโกหก จากการอำพลางอยู่ของเขา 

อัลลอฮฺ  ตรัสความว่า

"อะลีฟ ลาม มีม มนุษย์คิดหรอกหรือว่า พวกเขาจะถูกทอดทิ้ง เพียงแต่พวกเขากล่าวว่า เราศรัทธา

และพวกเขาจะไม่ถูกทดสอบกระนั้นหรือ และโดยแน่นอนเราได้ทดสอบบรรดาก่อนหน้าพวกเขาแล้ว

ดังนั้น อัลลอฮ์จะทรงจำแนกให้รู้แจ้งถึงบรรดาผู้สัจจริง และจะทรงจำแนกให้รู้แจ้งถึงบรรดาผู้กล่าวเท็จ"

(อัลกะบูต 1-3)


          อัลลอฮฺ  ทรงทดสอบพวกเขาเพื่อให้รู้ว่าคนใดในหมู่ของพวกท่านเป็นคนที่สัจจริง และคนที่โกหก หากว่าไม่มีการทดสอบจากอัลลออฮฺ  เราจะไม่สามารถรับรู้ได้เลยจากการปกปิดสิ่งที่อยู่ในตัวถึงการอิม่านและศรัทธาของพวกเขา และจะทำให้มุสลิมเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ศาสนาอิสลามไม่ชอบให้มีการหลอกลวง คดโกง การใช้ชีวิตในรูปแบบของอิสลามเพื่อให้มีชีวิตที่ดี อยู่อย่างระมัดระวัง จากการเชื่อในเรื่องต่างๆโดยที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้เว้นแต่ว่าต้องการทดสอบที่เกิดขึ้น หากว่าไม่มีการทดสอบจากอัลลอฮฺ  แน่นอน การปะปนกันระหว่างคนดีและไม่ดี ผู้ศรัทธา มูนาฟิก คนโกหก คนสัจจริง มันจะนำมาซึ่งความวุ่นวาย สูญเสียตามมา นี่คือเหตุผลที่อัลลอฮฺ  ทรงทดสอบบ่าวของพระองค์ เพื่อแยกคนดีและไม่ดีออกจากกัน

อัลลอฮฺ  ตรัสความว่า

     "ใช่ว่าอัลลอฮฺทรงทอดทิ้งบรรดาผู้ศรัทธาไว้ในสภาพที่พวกเจ้ากำลังเป็นอยู่ก็หาไม่ จนกว่าอัลลอฮฺจะจำแนกผู้ที่เลวออกจากผู้ที่ดีเท่านั้น

     ใช่ว่าอัลลอฮฺทรงให้พวกเจ้ามองเห็นสิ่งเร้นลับก็หาไม่ แต่ทว่าอัลลอฮฺทรงคัดเลือกจากบรรดาร่อซูลของพระองค์เท่านั้น ที่พระองค์ทรงประสงค์"

(อาละอิมรอน 179)

          บททดสอบจะทำให้เกิดการปะปนระหว่าง มุนาฟิกจอมโกหก กับมุมินที่สัจจริง และจะทำให้เกิดฟิตนะมากมายทั้งเรื่องดุนยาและศาสนา และฟิตนะจะเกิดขึ้นกับบ่าวของพระองค์ทุกคน พวกเขาไม่รู้สิ่งที่อยู่ในหัวอกของพวกเขา และสิ่งที่แสดงให้เห็นได้อย่างชันเจน คือ ความสัจจริง การมีอามานะ มีความรักต่อผู้ศรัทธา เพราะนี้คือ สิ่งที่เราไม่สามารถรับรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจเว้นแต่สิ่งเหล่านี้เท่านั้น ว่าใครคือ มิตร ใครคือ ศัตรู ในเมื่อมนุษย์ไม่สามารถล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจได้ ดังนั้น อัลลอฮฺ  ทดสอบพวกเขาเพื่อจะเปิดเผยสิ่งที่ซ้อนเร้นอยู่ในหัวอกของพวกเขาเหล่านั้น ครั้นเมื่อความวุ่นวายเกิดขึ้น บรรดาคนหน้าไว้หลังหลอกจะมีชีวิตที่ไม่เป็นสุข กระวนกระวาย เดือดเนื้อร้อนตัว ลังเล เพราะตอนที่เขามีความสุขพวกเขาไม่รู้ว่า เขานั้นคือคนที่โกหก หลอกหลวง กระทำในสิ่งที่ไม่ดีมากมาย 

        ฉะนั้น อัลลอฮฺ  ทรงคัดเลือกร่อซูลคนหนึ่งจากบรรดาร่อซูลทั้งหลาย เพื่อให้เขาล่วงรู้สิ่งเร้นลับ และเป็นการยืนยันถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่จะเชื่อร่อซูลลุลลอฮฺ และเป็นการเยียวยารักษาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสังคม

อัลลอฮฺ  ตรัสความว่า

"อัลลอฮฺผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับ ดังนั้นพระองค์จะไม่ทรงเปิดเผยสิ่งเร้นลับของพระองค์แก่ผู้ใด

นอกจากผู้ทีพระองค์ทรงประสงค์ยินดี เช่น บรรดาร่อซูล" 

(ญิน 26-27)

          และบรรดาร่อซูลของอัลลอฮฺ  ทรงเปิดเผยสิ่งที่เป็นเรื่องเร้นลับให้แก่พวกเขาเพื่อง่ายต่อการทำงานเผยแพร่อิสลาม และยืนยันถึงความจริงว่า นี่คือสารแห่งพระเจ้า ส่วนบรรดานบีนั้นอัลลอฮฺ  ไม่ทรงเปิดเผยเรื่องเร้นลับให้พวกเขารับทราบเช่นเดียวกับบรรดาร่อซูล

"จงกล่าวเถิด มูฮัมหมัด ไม่มีผู้ใดในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน จะรู้ในสิ่งที่เร้นลับนอกจากพระองค์

และพวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถูกฟื้นคืนชีพ" 

(อันนัมลฺ 65)

นี่คือเหตุผลที่อัลลอฮฺ  ทรงทดสอบบ่าวของพระองค์


ฟิตนะ มันจะไม่เกิดช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ มันจะอยู่กับบ่าวตลอดไป


وَلَقَدْ فَتَنَّا الَّذِينَ مِنْ قَبْلِهِمْ     "และแน่นอน เราได้ทดสอบบรรดาคนก่อนหน้าเจ้าแล้ว"

( อังกะบูต 3)

นี่คือ กฎของอัลลอฮฺ  ที่มีต่อบ่าวผู้ถูกสร้างทั้งหลาย