ฟิตนะที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน
  จำนวนคนเข้าชม  5731


ฟิตนะที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน


 

โดย เชค ซอแหละฮฺ บิน เฟาซาน บิล อับดุลลอฮฺ บิน เฟาซาน
แปลและเรียบเรียงโดย อับดุลวาเอด สุคนธา

 

 

          แท้จริงแล้ว ฟิตนะมีหลายรูปแบบ เช่น ฟิตนะเรื่องทรัพย์สิน, ฟิตนะเรื่องผู้หญิง, ฟิตนะเรื่องศาสนา, ฟิตนะเรื่องลูกหลาน แต่ในบทความนี้ จะพูดถึงฟิตนะที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน การทดสอบของอัลลอฮ์  คือการช่วยเหลือบ่าวผู้ศรัทธาในเรื่องศาสนา เพื่อให้มีชัยเหนือพวกมุนาฟิก จากพวกที่วิจารณ์ในเรื่องของอัลลอฮ์  ต่าง ๆ นานา
 

อัลลอฮฺ  ตรัสความว่า

  الَّذِينَ يَتَرَبَّصُونَ بِكُم     "บรรดาผู้ที่คอยดู พวกเจ้าอยู่นั้น"

 (อัลนิซา 141)

หมายถึงคนที่ วิจารณ์ในบรรดาโองการของพระองค์ จงออกห่างจากพวกเขาเสีย

อัลลอฮ์  ตรัสความว่า

          "ถ้าหากพวกเจ้าได้รัยชัยชนะจากอัลลอฮฺ พวกเขาก็จะกล่าวกับเราว่า มิได้ร่วมรบกับพวกเจ้าดอกหรือ และหากว่ามีส่วนหุ้นใด แก่บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา พวกเขากล่าวว่า พวกเรามิได้มิอำนาจเหนือพวกเขาดอกหรือ และเรามิได้ป้องกันพวกท่านให้รอดพ้นจากบรรดาผู้ที่ศรัทธากระนั้นหรือ

          และอัลลอฮฺคือ ผู้ตัดสินระหว่างพวกเจ้าในวันกิยามะ และอัลลอฮ์ นั้นจะไม่ให้บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธามีทางใดที่เหนือกว่าผู้ศรัทธาทั้งหลายเป็นอันขาด แท้จริงบรรดาคนมุนาฟิกกำลังหลอกลวงอัลลอฮ์ แต่ อัลลอฮ์ ทรงหลอกลวงพวกเขา"

( อัลนิซา 141-142)

ไม่มีใครที่จะชอบเป็นผู้โกหกและหลอกลวงไปมากว่าพวกมุชรีกีน


แท้จริง ความวุ่นวายและฟิตนะนั้นหลักมี 2 ประเภท ด้วยกัน

1. ความวุ่นวายและฟิตนะในเรื่องศาสนาและหลักอากีดะ การเชื่อมั่น
 

2. ความวุ่นวายและฟิตนะในเรื่องปัจจัยยังชีพและอารมณ์ใฝ่ต่ำ

อัลลอฮฺ  ตรัสความว่า

          "และพวกเขาได้หาความสุขสำราญในสิ่งที่พวกเขาแสวงหามาจากปัจจัยยังชีพ และพวกเจ้าก็ได้แสงหาความสุขสำราญเช่นกัน ในสิ่งที่พวกเจ้าแสวงหามันมาจากปัจจัยยังชีพ เช่นเดียวกับคนก่อนหน้าพวกเจ้า"

( เตาว์บะ 69)

          อารมณ์ใฝ่ต่ำที่ครอบงำพวกเขาอยู่ในโลกนี้ การใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยสิ่งต้องห้าม(ฮะหรอม)จากสิ่งที่อัลลอฮฺ  ประทานให้มา ทำให้พวกเขาลืมอัลลอฮ์  และการมีชีวิตอยู่โลกหน้า

อัลลอฮ์  ตรัสความว่า

"เช่นเดียวกับบรรดาคนก่อนหน้าพวกเจ้า ซึ่งพวกเขานั้น คนมีกำลังแข็งแรงกว่าพวกเจ้า

และมีพรัทย์สมบัติและลูกหลานมากกว่าพวกเจ้า"

( เตาว์บะ 69)

          นี้คือ บททดสอบที่อัลลอฮ์  ประทานแก่บ่าวของพระองค์ จากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในศาสนา ความแตกแยกเป็นกลุ่มต่างๆมากมาย จากฟิตนะความเคลือบแคลงในศาสนา ที่ทำให้เกิดกลุ่มต่างๆในอิสลาม เช่น กลุ่มก็อดดารียะ กลุ่มชีฮะ ญะมียะ ดังที่ท่านนบี  กล่าวเอาไว้

          แท้จริงแล้วท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บอกไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่า ประชาชาติมุสลิมจะแบ่งแยกออกเป็นพวกๆ มากกว่าเจ็ดสิบจำพวกดังหะดีษที่ว่า

“พวกยิวได้แบ่งออกเป็นเจ็ดสิบเอ็ดจำพวก พวกคริสต์ได้แบ่งออกเป็นเจ็ดสิบสองจำพวก

และประชาชาติของฉันจะแบ่งออกเป็นเจ็ดสิบสามจำพวก ทั้งหมดอยู่ในไฟนรก นอกจากพวกเดียวเท่านั้น 

มีรายงานที่ถูกต้องอีกว่า : 

พวกเขาถามว่า “โอ้รอซูลุลลอฮฺ พวกที่รอดพ้นเป็นพวกไหน?” 

ท่านนบี  ตอบว่า “พวกที่อยู่บนแนวทางเหมือนกันกับฉันและบรรดาสาวกของฉัน 

(บันทึกโดย บุคคอรีย์)

          กลุ่มที่เรียกว่า "นาญียะ" กลุ่มคนที่รอดพ้นจากไฟนรก คือ แนวทางของอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ์ และสะละฟุศศอและฮฺ คือกลุ่มที่มีการปฏิบัติแนวทางของท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และบรรดาสาวกของท่าน สิ่งใดก็ตามที่พวกเขาได้รับการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม ก็จงอดทนต่อสิ่งเหล่านั้น และจงยืนหยัดในแนวทางของท่านนบีและบรรดาศ่อฮาบะ อย่าได้เอนเอียงไปสู่กลุ่มต่างๆที่หลงผิด

          จากอัลอิรบาฎ อิบนุซาริยะฮฺ กล่าวว่า ท่านนบี  ได้ตักเตือน(เมาอิเซาะฮฺ)พวกเราครั้งหนึ่ง หัวใจของพวกเราได้เกิดความยำเกรง(หวาดกลัว) แล้วดวงตาของเราก็เกิดหลั่งไหลซึ่งน้ำตา เศาะฮาบะฮฺได้กล่าวกับท่านนบี  ว่า “โอ้เราะซูลของอัลลอฮฺ ประหนึ่งการตักเตือนของท่านเป็นการตักเตือนอำลา (เป็นการตักเตือนครั้งสุดท้าย เหมือนว่าท่านนบี  จะจากไปแล้ว) ดังนั้นได้โปรดสั่งเสียพวกเรา

ท่านนบี  กล่าวว่า 

          “ข้าพเจ้าขอสั่งเสียพวกท่านให้ยำเกรงอัลลอฮ์ ให้จิตภักดีต่อพระองค์ และสั่งเสียพวกท่านให้ภักดีต่อผู้นำ แม้นว่าผู้ที่จะเป็นผู้นำของพวกท่านนั้นเป็นทาส เพราะแท้จริงผู้ใดที่จะมีอายุยืนนานภายหลังที่ฉันเสียชีวิตไปแล้ว เขาจะพบการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

          ดังนั้นพวกท่านทั้งหลายจงยึดมั่นในซุนนะฮฺ(แนวทาง)ของฉัน และแนวทางของผู้นำ(เคาะลีฟะฮฺ)ที่จะมาหลังฉัน ซึ่งมีความปรีชาและได้รับคำแนะนำจากอัลลอฮฺ ตะอาลา, และจงกัดมันด้วยฟันกราม(ยึดมั่นอย่างหนักแน่น)

          แล้วพวกท่านจงระมัดระวังให้ห่างไกลจากสิ่งอุตริกรรม เพราะแท้จริงทุกอุตริกรรมนั้นเป็นการหลงผิด"

(บันทึกโดย อาบูดาวูด ติรมีซีย์)

          แท้จริงท่านนบี  มิได้ละทิ้งอะไรเอาไว้ เว้นแต่ทว่าสิ่งนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแก่เราแล้ว ในเรื่องนี้ได้อธิบายถึงจุดยืนของมุสลิมต่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยึดหลักการแนวทางของท่านนบี  และบรรดาศ่อฮาบะ จงอดทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายที่มาประสบ นี้คือทางรอดจากความวุ่นวายต่างๆมากมายที่เกิดขึ้น อย่าได้เอนเอียง หลงเชื่อ กับสิ่งที่หลงผิด ให้ยืนหยัดตั้งมั่นอยู่บนศาสนาที่ถูกต้อง และอดทน นี้แหละคือแบบฉบับของท่านนบี  ตลอดจนบรรดาศ่อฮาบะ ค่อลีฟะ ทั้งหลาย

     ทางรอดจากความวุ่นวาย คือ การยึดมั่นและอยู่ในญามาอะห์มุสลิม ไม่แตกแยกและต่อต้านผู้นำ หลีกห่างจากหลุ่มที่หลงผิด 

     ญามาอะห์ คือ กลุ่มคนส่วนมากที่อยู่ในศาสนาอิสลามภายใต้การเชื่อฟังผู้นำมุสลิม ท่านจงอยู่รวมกับกลุ่มของบรรดามุสลิม และผู้นำของพวกเขา”

     แท้จริงอัลลอฮ์  สั่งใช้ให้มุสลิมมีความสามัคคีกลมเกลียว รักใคร่ซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสั่งห้ามมิให้แตกแยกกัน


          อัลลอฮ์  ทรงใช้ให้ท่านเราะซูล  ออกห่างจากกลุ่มชนที่ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ และกลุ่มที่อยู่บนความหลงผิด และปลีกตัวออกจากการกระทำของพวกเขา ดังนั้นผู้ใดที่ปฏิบัติตามแนวทางของท่านเราะซูล จึงจำเป็นที่จะต้องหลีกห่างจากคนกลุ่มนี้ และผู้ใดปฏิบัติตามแนวทางของพวกเขาเท่ากับได้ฝ่าฝืนต่อท่านเราะซูล 

หะดีษที่ได้กล่าวถึงความสำคัญของการยึดมั่นในญามาอะฮ์

          รายงานจากท่านอุซัยฟะห์ บินยะมาน ได้กล่าวว่า ผู้คนต่างได้ถามถึงความดี แต่ฉันได้ ถามถึงความชั่วเพราะกลัวว่าความชั่วนั้นจะย่างกรายมาหาฉัน

ฉันได้กล่าวว่า: โอ้ท่านเราะซูล  แท้จริงใน ยุคที่พวกเราอยู่ในความงมงาย อยู่กับความชั่ว แล้วอัลลอฮ์  ได้ให้ความดีงามมาถึงยังพวกเรา ดังนั้นหลังจากความดีนั้นมีความชั่วอีกไหม ?

ท่านเราะซูล   ได้กล่าวว่า : มีอีก

แล้วฉันได้ถามต่อไปว่า: หลังจากความชั่วมีความดีอีกบ้างไหม ?

ท่านเราะซูล  ได้ตอบว่า : มีแต่ว่า มันเลือนลาง

ฉันได้กล่าวว่า: อะไรความเลือนลางของมัน ?

ท่านเราะซูล  ได้กล่าวว่า : กลุ่มชนที่พวกเขามิได้อยู่ในทางนำของฉัน ณ ที่พวกเขามีทั้งความดีและความชั่ว

ฉันได้กล่าวว่า: และหลังจากความดีดังกล่าวมีความชั่วอีกบ้างไหม ?

ท่านเราะซูล  ได้กล่าวว่า : มีอีกคือบรรดาผู้ที่เรียกร้องผู้คนมาสู่ประตูนรกญะอันนัม ผู้ใดที่ตอบรับการเชิญชวนของพวกเขา ก็จะถูกโยนสู่นรกญะอันนัม

ฉันได้กล่าวว่า : โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮ ท่านจงบอกลักษณะของพวกเขาแก่พวกเรา

ท่านเราะซูล  ได้กล่าวว่า : “ พวกเขาเป็นกลุ่มที่มาจากพวกเรา และพูดภาษาเดียวกับพวกเรา ”

ฉันได้กล่าวว่า : ดังนั้นท่านมีอะไรจะสั่งเสียแก่ฉันหากฉันมีชีวิตอยู่ในขณะนั้น ?

ท่านนะบี  ได้กล่าวว่า : ท่านจงยึดมั่นอยู่กับกลุ่มของมุสลิม และผู้นำของพวกเขา (หมายถึงญามาฮะห์มุสลิม)

ฉันได้กล่าวว่า : ถ้าไม่มีญามาฮะห์และผู้นำ ?

ท่านนะบี  ได้กล่าวว่า : ท่านจงปลีกตัวออกจากทุกๆกลุ่มเหล่านั้น ถึงแม้ท่านจะมีชีวิตด้วยการกัดกินรากไม้ก็ตาม จนกระทั่งความตายได้มาหาโดยที่ท่านมีชีวิตอยู่อย่างนั้น 

 

(บันทึกโดยบุคคอรีย์ มุสลิม)