ให้เกียรติบรรดาผู้รู้
  จำนวนคนเข้าชม  6214


ให้เกียรติบรรดาผู้รู้

อาบีดีน พัสดุ แปลเรียบเรียง

 

          ท่านอิหม่าม ชาฟิอี ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ เมื่อนั่งอยู่ในสถานที่สอนของอิหม่ามมาลิก ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ท่านจะเปลี่ยนหน้ากระดาษด้วยความแผ่วเบาอย่างมาก เพื่อ (ไม่ให้เสียงที่เกิดจากการเปลี่ยนหน้ากระดาษ) รบกวนอิหม่ามมาลิก "ครูของท่าน"

 

           ความรู้ ....คือสิ่งที่ประเสริฐและมีเกียรติอย่างที่สุด และมีคุณค่ามากที่สุดในการจะนำมาประดับประดาแก่ผู้คน , ความรู้คือ รากฐานแห่งความเจริญรุ่งเรือง , ที่มาแห่งความสง่างามของประชาชาติ ความสูงส่งและความเจริญก้าวหน้าในชีวิต และเป็นหนทางนำสู่ความผาสุกอันนิรันดร์ และเกียรติยศทั้งในดุนยาและอาคีเราะฮฺ

 

          บรรดาผู้รู้ ....พวกเขาคือผู้รับมรดกจากบรรดานบี , เป็นผู้รวบรวมความรู้ , ผู้เรียกร้องสัจธรรม , ผู้ช่วยเหลือศาสนา , นำพาผู้คนสู่การรู้จักอัลลอฮฺและการภักดีต่อพระองค์ , หันเหพวกเขาสู่แนวทางแห่งความดีและการประพฤตดี

 

อัลลอฮฺ ตรัสว่า

{ يَرْفَعِ اللَّهُ الَّذِينَ آمَنُوا مِنكُمْ وَالَّذِينَ أُوتُوا الْعِلْمَ دَرَجَاتٍ وَاللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ خَبِيرٌ}

 

อัลลอฮฺจะทรงยกย่องเทอดเกียรติแก่บรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้ได้รับความรู้หลายชั้น

และอัลลอฮฺทรงรอบรู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

(11) سورة المجادلة)

อัลลอฮ์ ตรัสว่า

{ قُلْ هَلْ يَسْتَوِي الَّذِينَ يَعْلَمُونَ وَالَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ إِنَّمَا يَتَذَكَّرُ أُولُو الْأَلْبَابِ}

 

จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) บรรดาผู้รู้และบรรดาผู้ไม่รู้จะเท่าเทียมกันหรือ ?

แท้จริงบรรดาผู้มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะใคร่ครวญ

(الزمر من الآية:9)

 

           เมื่อประชาชาติต้องการที่จะก้าวขึ้นสู่หนทางแห่งเกียรติและความสำเร็จ สิ่งแรกที่พวกเขาจะต้องมีคือการให้ความสูงส่งในเรื่องความรู้และบรรดาผู้รู้และบรรดาผู้สอนความดีให้แก่ผู้คน , ไม่สมควรที่จะให้ความสำคัญกับผู้ใดมากกว่าบรรดาผู้รู้และบรรดาผู้สอน , เช่นเดียวกัน สมควรที่จะพยายามให้สิทธิที่จำเป็นแก่พวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติ การเคารพนับถือ และการมีมารยาทต่อพวกเขา

 

          ในยุคสมัยแห่งความเจริญรุ่งเรืองและสูงส่งของอุมมะฮฺนั้น บรรดาผู้รู้และครูอาจารย์ต่างได้รับการให้เกียรติและการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

 

     ♥ ท่านเซด บิน ซาบิต ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้มาร่วมญะนาซะฮฺ และเมื่อเขาต้องการกลับ ท่านอับดุลลอฮฺ บิน อับบาส ก็ได้จับเหล็กที่สอดเท้าเพื่อขี่พาหนะให้กับท่านเซด ท่านเซดจึงกล่าวกับท่านอิบนุอับบาส ว่า ท่านจับมันให้ฉันทั้งๆที่ท่านเป็นลูกของลุงท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม

     ท่านอิบนุอับบาส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า เช่นนี้แหละที่พวกเราปฏิบัติต่อบรรดาผู้รู้ของเรา

 

     ♥ ท่านอิหม่ามอบู ฮะนีฟะฮฺ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ จะไม่หันเท้าของท่านไปทางบ้านท่านฮัมมาด ครูของท่าน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่เขา , ทั้งๆที่ระหว่างบ้านของเขาและบ้านครูของเขาอยู่ห่างกันมาก

 

     ♥ ท่านอิหม่าม ชาฟิอี ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ เมื่อนั่งอยู่ในสถานที่สอนของอิหม่ามมาลิก ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ท่านจะเปลี่ยนหน้ากระดาษด้วยความแผ่วเบาอย่างมาก เพื่อ(ไม่ให้เสียงที่เกิดจากการเปลี่ยนหน้ากระดาษ)รบกวนอิหม่ามมาลิก ครูของท่าน

 

     ♥ ส่วนท่าน อัรร่อบีอฺ บิน สุลัยมาน ได้พูดถึงตัวของท่านเองว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันไม่กล้าที่จะดื่มน้ำในขณะที่ชาฟิอียฺมองมายังฉัน เป็นการให้เกียรติท่าน

 

     ♥ ท่านฮารูน อัรร่อชีด ผู้ซึ่งปกครองครึ่งหนึ่งของโลกใบนี้ ผู้ซึ่งกล่าวกับเมฆที่ลอยผ่านไปว่า (เจ้าจงไปตกในสถานที่ที่เจ้าประสงค์เถิด แล้วสิ่งที่งอกเงยจากเจ้า (ค่อร็อจ) ก็จะกลับมาหาฉัน) .... เขาได้ขอจากอิหม่าม อาลิม อัลอัศมะอียฺ ให้ช่วยอบรมและสอนลูกชายทั้งสองของเขา

     วันหนึ่งท่านฮารูน อัรร่อชีด เดินผ่านมา และเห็นว่าท่าน อัศมะอียฺ กำลังล้างเท้าของเขาโดยที่ลูกของท่านเป็นผู้ราดน้ำให้ , ลูกชายของท่านฮารูนคือผู้ที่ราดน้ำให้ท่านอัศมะอียฺ เพื่อล้างเท้าของท่าน

     ท่านฮารูนจึงได้ถามท่านอัศมะอียฺ โดยกล่าวว่า ฉันส่งเขา (ลูก) มาอยู่กับท่านเพื่อให้ท่านสอนสั่งและอบรมเขา แล้วทำไมท่านจึงไม่บอกให้เขาเทน้ำด้วยมือข้างหนึ่งแล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งล้างเท้าให้แก่ท่าน ?

 

     ♥ ค่อลีฟะฮฺ อัลมะมูน เขาได้ขอจากท่าน ฟัรรออฺ ให้สอนไวย์กรให้แก่ลูกสองคนของเขา , และในวันหนึ่ง ท่านฟัรรออฺต้องการที่จะลุกจากที่นั่งของท่าน เด็กทั้งสองคนจึงแข่งกันไปที่รองเท้าของท่านฟัรรออฺ ว่าใครจะได้เป็นคนหยิบรองเท้าให้ท่านฟัรรออฺ แล้วทั้งสองก็ขัดแย้งกันว่าใครจะได้เป็นคนทำ , แต่ในที่สุดทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะยื่นให้คนละข้าง , และเรื่องราวนี้ก็ถูกเล่าไปถึงท่านมะมูน , เขาจึงได้เรียกท่านฟัรรออฺมาหาและกล่าวกับท่านฟัรรออฺว่า ผู้ใดกันที่มีความสูงส่งที่สุดในหมู่ผู้คน

     ท่านฟัรรออฺกล่าวว่า ฉันไม่รู้ว่าใครจะมีความสูงส่งมากไปกว่าผู้นำแห่งศรัทธาชน 

     ท่านมะมูนจึงกล่าวว่า มิใช่เช่นนั้น แท้จริงผู้ที่มีความสู่งส่งที่สุดในหมู่ผู้คนคือผู้ที่เมื่อเขาจะลุกจากที่นั่งของเขา มงกุฎราชกุมารทั้งสองของบรรดามุสลิม ต่างแย่งชิงที่จะเป็นผู้ยื่นรองเท้าให้แก่เขา , กระทั่งทั้งสอง (ตกลง) พอใจที่จะยื่นให้คนละข้าง

     ท่านฟัรรออฺจึงคิดไปว่าเรื่องดังกล่าวได้ทำให้ค่อลีฟะฮฺไม่พอใจ เขาจึงขอโทษและอธิบายว่าเขาได้พยายามห้ามทั้งสองแล้วแต่ทั้งสองปฏิเสธ

     ท่านมะมูน กล่าวว่า หากท่านห้ามทั้งสองจากการกระทำดังกล่าวแล้วละก็ ฉันก็จะตำหนิท่าน ....จนท่านมะอฺมูน ได้กล่าวว่าการกระทำของทั้งสองมิได้ทำให้เกียรติของทั้งสองด้อยลง แต่มันทำให้ทั้งสองสูงส่งขึ้นต่างหาก

 

          แท้จริงการนอบน้อมต่อครูผู้สอนและให้เกียรติแก่เขานั้น จะทำให้เขาถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดที่เขามีให้แก่ท่าน แล้วผู้คนก็จะต้องการท่าน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาหนึ่งหลังจากนี้ก็ตาม

 

          แท้จริงสื่อบางสำนักได้รายงานว่า วันหนึ่งจักพรรดิญี่ปุ่นได้ถูกถามถึงสาเหตุที่ประเทศของเขามีการพัฒนาเป็นอย่างมากในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ , เขาตอบว่า เราได้เริ่ม ที่ คนอื่น จบสิ้นลง , และเราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของพวกเขา , และเราได้ให้แก่ครูผู้สอนซึ่งสิทธิพิเศษเหมือนกับนักการทูตและให้เงินเดือนเท่ากับรัฐมนตรี

 

          ดังที่ได้มีรายงานกล่าวถึง บรรดาผู้พิพากษาในเยอรมันขณะที่พวกเขาขอเพิ่มเงินเดือนให้เท่ากับเงินเดือนครูอาจารย์ ที่ปรึกษาอังเกลา แมร์เคิล ได้ตอบโต้พวกเขาโดยแสดงความไม่เห็นด้วย ด้วยคำกล่าวของเธอที่โด่งดังว่าฉันจะให้พวกท่านเท่ากับผู้ที่ให้ความรู้แก่พวกท่านได้อย่างไร ?"

 

หน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อครูผู้สอน

 

     ๑- ปฏิสัมพันธ์กับเขาด้วยดี ให้เกียรติและให้ความสำคัญ , เพราะเขาเป็นดั่งบิดาของท่าน 

     ๒- พยายามแสวงหาประโยชน์ที่จะได้รับจากเขา (ในเรื่องความรู้และแบบอย่างที่ดี) มีเรื่องราวมากมายที่เขามีซึ่งท่านไม่มี

     ๓- พยายามปฏิบัติตามความประพฤติและการงานที่ดีของเขา

     ๔- ปกป้องเกียรติของเขา และห่างไกลจากการว่าร้ายเขา

     ๕- ให้เขามีส่วนได้ในการวิงวอนขอดุอาของท่าน แท้จริงท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้แจ้งว่าสิ่งที่คนหนึ่งจะได้รับในหลุมศพของเขาจากสิ่งที่เขาได้เคยกระทำไว้คือดุอาของลูกที่ดี , และศิษย์ก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับลูกที่ซอลิฮฺ

     ๖- ท่านจะต้องเข้าใจว่าเขาคือมนุษย์ ซึ่งไม่อาจรอดพ้นจากความผิดพลาด ท่านพึงปฏิบัติต่อความผิดพลาดของเขาดังต่อไปนี้

          - ท่านจะต้องไม่ลอกเลียนแบบตามความผิดของเขา แต่จะต้องออกห่างจากพฤติกรรมเหล่านั้น

           - ท่านควรจะต้องปกปิดความผิดพลาดและข้อบกพร่องของเขา ไม่เผยแผ่มันแก่ผู้คน และไม่ยินดีที่ผู้อื่นจะนำมาเป็นข้อตำหนิเขาต่อหน้าท่าน

          - หาเหตุผลในความผิดพลาดของเขา

          - การให้คำตักเตือนในความผิดดังกล่าวของเขา ด้วยความระมัดระวังเกี่ยวกับความแตกต่างด้านอายุและสถานะ และพยายามเลือกเฟ้นถ้อยคำที่ดีและเหมาะสม

          - การที่ท่านจะต้องเข้าใจว่า ด้วยความเป็นมนุษย์ของเขา จึงอาจทำให้มีบุคลิกบางอย่างที่บกพร่องไปบ้าง เพราะความเป็นมนุษย์ย่อมไม่อาจหลีกพ้นจากสิ่งเหล่านี้ไปได้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงไม่ควรที่จะทำให้สิ่งที่ท่านรู้ในข้อบกพร่องบางประการของเขา ทำให้ท่านไม่ให้ความสำคัญหรือแยกตัวไปจากเขา , แต่ท่านควรเสาะแสวงหาความสมบูรณ์ให้แก่ตัวท่าน (ในด้านที่อาจารย์ของท่านบกพร่อง) จากแหล่งอื่น

 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในวันนี้

 

          สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในสังคมของเราวันนี้ ในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกหลานของเรากับบรรดาครูอาจารย์ คือสภาพการณ์ที่มิได้บ่งบอกถึงสิ่งที่ดี  เราได้เห็นผู้ที่เกินเลยต่อครูอาจารย์ของเขาด้วยคำด่าทอและข้อบกพร่อง มีผู้ที่เกินเลยต่อครูอาจารย์ของเขาด้วยการทำร้าย การข่มขู่ และการทำลายทรัพย์สินของครูอาจารย์ให้เสียหาย แล้วเราจะคาดหวังความดีใดกันจากประชาชาตินี้ เหล่านี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดระหว่างเขากับครูอาจารย์ของเขาหรือ ?

 

          พวกท่านพึงให้เกียรติแก่ครูอาจารย์ชายและหญิง จงเพาะปลูกความรัก การให้เกียรติ การเชิดชูครูอาจารย์ในหัวใจลูกหลานของพวกท่าน และความอดทนต่อการลงโทษของครูอาจารย์ (เมื่อเป็นไปตามความเหมาะสม) แล้วพวกท่านจะพบความดีอันมากมาย และเพื่อที่เราจะได้ระลึกถึงฮาดีษของท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม โดยท่านนบีกล่าวว่า

 

ليس منَّا مَنْ لم يُجِلَّ كبيرَنا ، ويرحمْ صغيرَنا ! ويَعْرِفْ لعالِمِنا حقَّهُ".

 

มิใช่พวกของเรา ผู้ที่ไม่ยกย่องผู้อาวุโสของเรา ไม่เอ็นดูเมตตาต่อผู้เยาว์ของเรา และไม่รู้สิทธิของผู้รู้ของเรา

 

 

https://www.islamweb.net/ar/article/219397/