จริยธรรมประการที่หนึ่ง : การปฏิบัติตาม الإِتباع
  จำนวนคนเข้าชม  1158


100 เรื่องจริยธรรมอิสลาม


เรียบเรียง อบูฮานีย์ 

 

จริยธรรมประการที่หนึ่ง : การปฏิบัติตาม الإِتباع

 

          อิหม่ามอะหมัด (ขออัลลอฮทรงเมตตาท่าน) กล่าวว่า (การปฏิบัติตาม คือ) การที่คนหนึ่งได้ดำเนินตามสิ่งที่ท่านนบี และบรรดาซอฮาบะห์ได้นำมา หลังจากนั้นก็เป็นยุคตาบิอีน ซึ่งเขามีสิทธิ์เลือกที่จะดำเนินตามหรือไม่ดำเนินตาม และยังได้กล่าวอีกว่า ท่านจงอย่าปฏิบัติตามฉัน อย่าปฏิบัติตามมาลิก อย่าปฏิบัติ ตามอัซเซารี อย่าปฏิบัติตามเอาซาอีย์ แต่ท่านจงยึดถือเอาในสิ่งที่พวกเขาได้นำเอามา

อัลลอฮ์ ตรัสว่า

 

قُلْ إِن كُنتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ ۗ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَّحِيمٌ..

 

     “จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ์ ก็จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮ์ก็จะทรงรักพวกท่าน และจะทรงอภัยให้แก่พวกท่านซึ่งโทษทั้งหลายของพวกท่าน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

(ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน 31)

 

อัลลอฮ์ตรัสว่า

 

مُلْكُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ قُلْ يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنِّي رَسُولُ اللَّهِ إِلَيْكُمْ جَمِيعًا الَّذِي لَهُ ونَنُوا بِاللَّهِ وَرَسُولِهِ النَّبِيِّ الْأُمِّيِّ الَّذِي يُؤْمِنُ بِاللَّهِ وَكَلِمَاتِهِ وَاتَّبِعُوهُ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُيُحْيِي وَيُمِيتُ فَآمِ

 

     “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า โอ้มนุษย์ทั้งหลาย! แท้จริงฉันคือร่อซูลของอัลลอฮ์มายังพวกท่านทั้งมวล ซึ่งพระองค์นั้นอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินเป็นของพระองค์ ไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพสักการะ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย ดังนั้นพวกท่านจงศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ ผู้เป็นนะบีที่เขียนอ่านไม่เป็น ซึ่งเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และดำรัสทั้งหลายของพระองค์ และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามเขา เถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำ ” 

(ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ 158)

 

อัลลอฮ์ ตรัสว่า

 

وَأَنَّ هَٰذَا صِرَاطِي مُسْتَقِيمًا فَاتَّبِعُوهُ ۖ وَلَا تَتَّبِعُوا السُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَنْ سَبِيلِهِ ذَٰلِكُمْ وَصَّاكُمْ بِهِ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

 

     “และแท้จริงนี้คือทางของข้าอันเที่ยงตรงพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และอย่าปฏิบัติตามหลาย ทาง เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกไปจากทางของพระองค์ นั่นแหละที่พระองค์ได้สั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง

 ( ซูเราะฮฺ อัล-อันอาม 153 ) 

 

อัลลอฮ์ ตรัสว่า

 

وَهَذَا كِتَابٌ أَنْزَلْنَاهُ مُبَارَكٌ فَاتَّبِعُوهُ وَاتَّقُوا لَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ

 

     “และนี้แหละคือคัมภีร์ ที่มีความจำเริญซึ่งเราได้ให้คัมภีร์ลงมายังเจ้า จงปฏิบัติตามคัมภีร์นั้นเถิด และจงยำเกรง เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความกรุณาเมตตา

(ซูเราะฮฺ อัล-อันอาม 155 )

 

อัลลอฮ์ ตรัสว่า

 

الذِّكْرَ وَخَشِيَ الرَّحْمَٰنَ بِالْغَيْبِ ۖ فَبَشِّرْهُ بِمَغْفِرَةٍ وَأَجْرٍ كَرِيمٍإِنَّمَا تُنذِرُ مَنِ اتَّبَعَ

 

     “แท้จริงเจ้าเพียงแต่ตักเตือนผู้ที่ปฏิบัติตามข้อตักเตือนเท่านั้น และเขาเกรงกลัวพระผู้ทรงกรุณาปรานีโดยลับ ดังนั้น จงแจ้งข่าวดีแก่เขาด้วยการอภัยโทษและรางวัลอันมีเกียรติ

 (ซูเราะฮฺ ยาซีน 11 )

 

عن أبي هريرة رضي الله عنه أن رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: «كُلُّ أُمَّتِي يَدْخُلُونَ الْجَنَّةَ إِلَّا مَنْ أَبَى...قَالُوا: يَا رَسُولَ اللَّهِ وَمَنْ يَأْبَى؟ قَالَ: مَنْ أَطَاعَنِي دَخَلَ الْجَنَّةَ، وَمَنْ عَصَانِي فَقَدْ أَبَى»

 

     จากท่านอบูฮุรัยเราะห์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ แท้จริงท่านศาสนทูตของอัลลอฮ ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า 

     “ ประชาชาติของฉันทุกคนจะได้เข้าสวนสวรรค์ นอกจากผู้ปฏิเสธที่จะไม่เข้า 

     บรรดาซอฮาบะห์ได้ทรงกล่าวถามท่านว่า โอ้ ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ มีด้วยหรือผู้ที่ปฏิเสธที่จะไม่เข้า 

     ท่านกล่าวตอบว่า ผู้ใดเชื่อฟังฉันเขาได้เข้าสวรรค์ ผู้ใดฝ่าฝืน(คำสอน)ของฉัน แท้จริงเขานั้นคือ ผู้ปฏิเสธ(ที่จะไม่เข้าสวรรค์)”

( บันทึกโดย อัลบุคอรีย์)

 

عَنْ أَنَسٍ ، أَنَّ نَفَرًا مِنْ أَصْحَابِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ سَأَلُوا أَزْوَاجَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عَنْ عَمَلِهِ فِي السِّرِّ ؟ فَقَالَ بَعْضُهُمْ : لَا أَتَزَوَّجُ النِّسَاءَ ، وَقَالَ بَعْضُهُمْ : لَا آكُلُ اللَّحْمَ ، وَقَالَ بَعْضُهُمْ : لَا أَنَامُ عَلَى فِرَاشٍ ، فَحَمِدَ اللَّهَ وَأَثْنَى عَلَيْهِ . فَقَالَ : مَا بَالُ أَقْوَامٍ قَالُوا كَذَا وَكَذَا ؟ لَكِنِّي أُصَلِّي وَأَنَامُ ، وَأَصُومُ وَأُفْطِرُ ، وَأَتَزَوَّجُ النِّسَاءَ ، فَمَنْ رَغِبَ عَنْ سُنَّتِي فَلَيْسَ مِنِّي

 

     จากท่านอนัส มีบรรดาซอฮาบะห์กลุ่มหนึ่ง ได้มาถามภรรยาของท่านนบีเกี่ยวกับการปฎิบัติตนของท่านนบีในขณะที่ผู้คนภายนอกไม่ได้รู้เห็น 

     (หลังจากพวกเขาทราบแล้ว) บางคนจึงพูดขึ้นว่า ฉันจะไม่ขอแต่งงานแล้ว อีกบางคนก็พูดว่า ฉันจะไม่ขอกินเนื้อสัตว์อีกต่อไป และอีกบางคนพูดว่า ฉันจะไม่ขอนอนบนที่นอน(นุ่มๆ)แล้ว 

     (เมื่อท่านนบีทราบ) ท่านก็สรรเสริญอัลลอฮ์ และสดุดีต่อพระองค์ พลางได้กล่าวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนกลุ่มชนนี้หรือ ที่พวกเขาได้กล่าวว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ฉันนี้ละหมาดแล้วฉันก็นอนหลับพักผ่อน ฉันนี้ถือศีลอดแล้วฉันก็ละศีลอดด้วย และฉันก็แต่งงานด้วย ดังนั้นผู้ใดที่ปฏิเสธแบบอย่างของฉัน เขาก็ไม่ใช่พวกของฉัน

 ( บันทึกโดย อัลบุคอรีและมุสลิม)

 

จากท่านอุมัร ครั้งที่ท่านอุมัรได้มาที่หินดำ แล้วท่านก็จูบหินดำ พลางกล่าวว่า

      “ฉันรู้ว่าแท้จริงเจ้า(หินดำ)นั้นเป็นเพียงแค่หิน(ธรรมดาๆ) ไม่ไห้คุณให้โทษแต่ประการใด มาตรแม้นฉันไม่เห็นท่านนบีจูบเจ้าแล้ว ฉันก็จะไม่จูบเจ้าหรอก

 

สรุป

          การปฏิบัติตาม(แบบปฏิบัติของท่านนบี)นั้น เป็นเครื่องหมายที่แสดงออกถึงความมีศรัทธาอันแรงกล้า มีความผูกพันและยึดมั่นต่อศาสนาอย่างแน่นแฟ้น และเป็นตัวชี้วัดระหว่างความรักโดยแท้จริงกับความรักที่เพียงกล่าวอ้างแค่ลมปาก

     อบูสุลัยมาน อัดดารอนี่ กล่าวว่า เมื่อหัวใจที่อ้างว่ารักอัลลอฮ์ อัลลอฮ์จึงประทานอายะห์นี้มาเพื่อทดสอบความรักที่มีต่อพระองค์

 

قُلْ إِن كُنتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ ۗ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَّحِيمٌ..

 

     “จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ์ ก็จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮ์ก็จะทรงรักพวกท่าน และจะทรงอภัยให้แก่พวกท่านซึ่งโทษทั้งหลายของพวกท่าน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 (ซูเราะฮฺ อาละอิมรอน 31)