"เตาฮีด" ความรู้
  จำนวนคนเข้าชม  782

"เตาฮีด" ความรู้

 

วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง

 

-เชค มุฮัมมัด อิบนิ อับดุลวะฮ้าบ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     "เตาฮีด" คือ คำขนานนามพฤติกรรมของท่าน หากการประพฤติปฏิบัติของท่านทั้งหมด เป็นไปเพื่ออัลลอฮฺแล้ว ก็ถือว่าท่านเป็น "มุวัฮฮิด" (ผู้ที่ให้เอกภาพแด่อัลลอฮฺ)

     แต่หากในการประพฤติปฏิบัติเหล่านั้น ได้ให้สิ่งถูกสร้างใดๆ เข้ามามีหุ้นส่วนเป็นภาคีต่อพระองค์แล้ว เมื่อนั้นก็ถือว่าท่านเป็น "มุชริก" (ผู้ตั้งภาคีต่อพระองค์)

 

 

 

- เชค มุฮัมมัด อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     แท้จริง กุศลผลบุญแห่งการมีเตาฮีดนั้น ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน เตาฮีดจะปลดเปลื้องความผิด ที่เป็นบาปใหญ่ทั้งหลาย เมื่อเขาได้พบกับอัลลอฮฺในสภาพที่ ไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีต่อพระองค์

 

 

 

-เชค ซอลิหฺ อาลุชเชค ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-

 

     ใครที่ทำให้ 'อัตเตาฮีด' สูญหายไป แน่นอน เขาได้ทำให้ 'สิทธิของอัลลอฮฺ' عزوجل สูญหายไปเช่นกัน

     ถึงแม้บนหน้าผากจะมีร่องรอยของการสุญูด และถึงแม้เนื้อหนังที่ติดกระดูกจะเป็นร่องรอยจากการถือศีลอด ทั้งหมดนี้ก็หามีคุณค่าใดๆ ไม่

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:

" แท้จริง ส่วนหนึ่งจากสัญญาณวันสิ้นโลก นั่นก็คือ การแสวงหาความรู้จากผู้เยาว์"*

(บันทึกโดยท่านอิบนิ มุบาร้อก อิมามอัลอัลบานีย์ระบุว่าศ่อฮี้ฮฺ)

*หมายถึง ผู้ที่พูดด้วยความคิดเห็นของตัวเอง ไม่ละเอียดรอบคอบ ไม่อิงกับตัวบทหลักฐาน หรือหมายถึงผู้รู้อายุน้อยจากบรรดาผู้อุตริ)

 

 

 

- ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ มัสอู๊ด ร่อฎิยัลลอฮฺอันฮฺ -

 

     ผู้คนทั้งหลายจะยังคงอยู่ในความดีงาม ตราบใดที่พวกเขารับเอาความรู้จากผู้อาวุโส ผู้มีอมานะฮฺ และจากปวงปราชญ์ในหมู่พวกเขา 

     ดังนั้น เมื่อพวกเขารับเอาความรู้มาจากผู้เยาว์ และจากคนชั่วช้าเลวทรามในหมู่พวกเขาแล้ว พวกเขาย่อมพบกับความวิบัติ

(บันทึกโดยอิมาม อัลบัยหะกีย์)

อีกรายงานระบุว่า

 

 «لا يَزَالُ النَّاسُ بِخَيْرٍ مَا أَتَاهُمُ الْعِلْمُ مِنْ أَصْحَابِ مُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَمِنْ أَكَابِرِهِمْ، فَإِذَا جَاءَ الْعِلْمُ مِنْ قِبَلِ أَصَاغِرِهِمْ فَذَاكَ حِينَ هَلَكُوا»

 

     ผู้คนทั้งหลายจะยังคงอยู่ในความดีงาม ตราบใดที่ความรู้มายังพวกเขาจากทางบรรดาศ่อฮาบะฮฺ ของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และจากผู้อาวุโสในหมู่พวกเขา ดังนั้น เมื่อวิชาความรู้มาจากผู้เยาว์ในหมู่พวกเขาแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาย่อมพบกับความหายนะ

 المعجم الكبير للطبراني (8510 ).

     หมายถึง  มนุษย์จะยังคงอยู่ในความดีงาม ตราบใดที่พวกเขารับเอาวิชาความรู้จากผู้รู้อาวุโส ไม่ใช่ผู้รู้อายุน้อย 

     ทั้งนี้เพราะผู้อาวุโสนั้น ปราศจากอารมณ์ความปรารถนาของคนหนุ่ม ความเป็นตัวของตัวเอง ความรีบร้อน และความเขลา

     ขณะที่ผู้อาวุโส ล้วนมากประสบการณ์ และผ่านการลองผิดลองถูก วิชาความรู้ของท่าน จึงปราศจากข้อคลุมเครือสงสัย ไม่มีอารมณ์นำหน้า ไม่เอนเอียงสู่ความโลภ และชัยฏอนไม่อาจทำให้ท่านแฉลบหันเหออกไป เฉกเช่นที่มันสามารถกระทำได้กับคนอายุน้อย และด้วยกับความอาวุโส จึงเป็นที่เคารพนับถือ และได้รับการยกย่องให้เกียรติ 

 

 

 

- ท่านอิบนิ กุตัยบะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     ส่วนผู้เยาว์นั้น เรื่องต่างๆ ที่ผู้อาวุโสปลอดภัยนี้ อาจเข้ามาหาเขาได้ และเมื่อเขามีอารมณ์ความรู้สึกเช่นนั้น แล้วให้คำตัดสิน วินิจฉัยในเรื่องหนึ่งเรื่องใด เขาก็จะเสียหาย และทำให้ผู้อื่นได้รับเสียหายไปด้วย

(นะซีฮะฮฺ อะฮฺลิ้ล หะดีษ ลิล บัฆดาดีย์)

 

 

 

     ปราชญ์บางท่านกล่าวไว้ว่า : จงเข้าร่วมไปเพิ่มจำนวนกับกลุ่มผู้อาวุโสในหมู่พวกท่าน เมื่อนั้น พวกท่านจึงจะมีเกียรติ

     และอย่าไปเข้าร่วมเพิ่มจำนวนกับกลุ่มผู้น้อย ในหมู่พวกท่าน เมื่อนั้น พวกท่านจะต่ำต้อยไร้เกียรติ

 

 

 

 อิมาม อะฮฺมัด อิบนิ ฮัมบัล 

 

     กล่าวว่า "ไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าวิชาความรู้ได้อีกเลย สำหรับคนที่มีเจตนาที่ถูกต้อง"

     ผู้คนต่างถามว่า : "จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?"

     "คือ การมีเจตนาที่จะขจัด 'ความไม่รู้' ออกจากตัวเองและผู้อื่น เพราะพื้นฐานของพวกเขาคือ 'ความไม่รู้' ดังเช่นที่มันคือพื้นฐานที่มีอยู่ในตัวของท่านเอง

     ดังนั้น เมื่อท่านได้ศึกษาหาความรู้ เพื่อที่จะขจัดความเขลาให้หมดไปจากประชาชาตินี้แล้วล่ะก็ ก็เท่ากับว่า ท่านได้เป็นส่วนหนึ่ง จากบรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ ซึ่งก็คือผู้ที่เผยแพร่ศาสนาของพระองค์"

 

 

 

" บุคคลแรกที่จะถูกเรียกเชิญเข้าสู่สวรรค์ คือ บรรดาผู้ที่สรรเสริญอัลลอฮฺในทุกสภาพการณ์ "

( อัศศุฮฺด์ ลิ อิบนิ้ล มุบาร้อก 97)

 

 

 

 

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙