ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์ 90
วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง
ท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า:
" จะเอาไหม หากฉันจะบอกพวกท่าน ถึงคนที่ถูกห้ามจาก ไฟนรก
และคนที่นรกจะถูกขัดขวางกีดกันไปจากเขา (เป็นการย้ำว่าจะไม่มีทางตกนรกเป็นอันขาด)
คือ ทุกคนที่ใกล้ชิด (ใกล้ชิดกับความดีและการเชื่อฟัง และใกล้ชิดกับผู้คนด้วยการมีจิตใจ
และมารยาทที่ดีงาม (ไม่ดุดัน ก้าวร้าว ไม่แข็งกระด้างหยาบคาย ไม่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวหนีหาย)
คนที่สำรวม สงบเสงี่ยม คนที่ง่ายดาย" (ไม่เรื่องมากยุ่งยาก และเป็นมิตรกับผู้คน )
(บันทึกโดย อิมาม อัตติรมีซีย์และอิมามอิบนิฮิบบาน)
- เชค สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮ์-
พี่น้องที่รักพวกเราละเลยกันเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าเราได้ยินเสียงอะซานแล้วทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนกับที่บรรพชนก่อนหน้าเราได้ทำกัน
มีรายงานว่าสลัฟบางท่าน
ขณะที่กำลังยกค้อน(เพื่อตีเหล็ก)แล้วได้ยินเสียง อัลลอฮุอักบัร ท่านจะไม่เอาคัอนลง และจะโยนค้อนทิ้งจากมือทันที
และท่านนบี صلى الله عليه وسلم ขณะที่ท่านกำลังช่วยงานคนในบ้านอยู่ เมื่อมีเสียงอะซานดังขึ้น ท่านจะทำประหนึ่งว่าท่านไม่เคยรู้จักพวกเขา !
ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ หากใครในพวกเรา เวลามุอัซซินอะซาน แล้วเขาอาบน้ำละหมาดแล้วไปมัสยิด แล้วละหมาด 2 ร็อกอัต จากนั้นเขาเปิดกุรอาน เขาจะอ่านกุรอานได้กี่อายะฮฺ ?
(สิ่งนี้) ดีสำหรับเขายิ่งกว่า การยุ่งแต่กับเรื่องของดุนยา และได้รับรายได้มากมายมหาศาล
ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ พี่น้องที่รัก คนที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง คือคนที่ใช้เวลาอยู่กับดำรัสของอัลลอฮฺ
คนที่มั่งมี และ เป็นผู้ชนะที่แท้จริง คือคนที่ใจจดใจจ่ออยู่กับอัลกุรอาน !
- อัลฮาฟิศ อิบนิ รอญับ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ส่งเสริมให้ช่วยเหลือสนับสนุนผู้ที่ถือศีลอด ผู้ที่ละหมาด และผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺ ในการฏออะฮฺ (ทำคุณงามความดี) ของพวกเขา
ทั้งนี้เพราะ ผู้ที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุน คนทำความดีเหล่านั้น พวกเขามีสิทธิ์สมบูรณ์ในการได้รับภาคผลตอบแทน เช่นเดียวกับที่ผู้กระทำความดีได้รับ
ฉันใดก็ฉันนั้น กับผู้ที่ตระเตรียมกองกำลังเพื่อออกไปทำศึก เท่ากับว่าเขาได้ร่วมทำศึกด้วย คนในครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังเขา เท่ากับว่าได้ออกไปทำศึกด้วย
เพราะท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า :
“ผู้ใดที่เลี้ยงอาหารละศีลอดแก่ผู้ถือศีลอด สำหรับเขาจะได้รับผลบุญตอบแทน เสมือนกับผู้ที่ถือศีลอดได้รับ โดยที่ผลบุญนั้นจะไม่ลดน้อยพร่องไป จากผลบุญของผู้ที่ถือศีลอดแต่ประการใด”
(บันทึกโดย อิมามอัตติรมีซีย์ )
- ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
การเกื้อกูลคนยากคนจนด้วย การเลี้ยงอาหารในเดือนรอมฎอนนั้น ถือเป็นแบบฉบับของอิสลาม
เพราะท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้ความว่า
“ผู้ใดที่เลี้ยงอาหารละศีลอดแก่ผู้ที่ถือศีลอด เขาจะได้รับผลบุญเช่นเดียวกับผู้ที่ถือศีลอด”
- เชคอับดุลร็อซซ้าก อัลบัดร์ หะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -
กี่คนต่อกี่คนมาแล้ว ที่อัลลอฮฺทรงนำทางพวกเขา ทรงทำให้หัวอกของพวกเขาชื่นมื่นอิ่มเอม และทำให้อีหม่านฝังลึกอยู่ในหัวใจของพวกเขา เพียงเพราะอายะฮฺเดียวเท่านั้นที่ตรงเข้าสู่หัวใจของเขา
ด้วยเหตุนี้เอง การคิดใคร่ครวญ พินิจพิจารณา (ในความหมายของอัลกุรอาน)จึงถือเป็นรากฐานสำคัญของประเด็นนี้ เวลาที่อ่านอัลกุรอาน อย่าได้สนใจแต่เพียงว่า เมื่อไหร่จะอ่านจบซูเราะฮฺ แต่จงให้ความสนใจของท่านเวลาที่ท่านกำลังอ่านอัลกุรอาน อยู่ที่ (การคิดว่า)
เมื่อไหร่กันที่ฉันจะได้รับทางนำด้วยอัลกุรอาน
เมื่อไหร่ที่ฉันจะได้รับประโยชน์จากอัลกุรอาน
เมื่อไหร่ฉันจึงจะได้เป็นพลพรรคแห่งอัลกุรอาน
พลพรรคของอัลลอฮฺ ผู้เป็นบุคคลพิเศษเฉพาะของพระองค์เท่านั้น
-เชคอับดุรรอซซ้าก อัลบัดร์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-
สมควรจะต้องรู้ว่า อีหม่านที่เพิ่มพูนขึ้นด้วยกับการอ่านอัลกุรอานนั้น จะเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ให้ความสำคัญกับ การทำความเข้าใจในอัลกุรอานและนำมาประพฤติปฏิบัติจริง
ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะอ่านอัลกุรอานแต่เพียงอย่างเดียว โดยปราศจากความเข้าใจและการใคร่ครวญ
หาเช่นนั้นแล้ว จะมีผู้อ่านอัลกุรอานกี่มากน้อยมาแล้ว ที่อัลกุรอานกลายเป็นปฏิปักษ์กับเขา เป็นคู่กรณีกับเขาในวันกิยามะฮฺ
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:
"ขณะที่ฉันนอนหลับอยู่นั้น ได้มีชายสองคนมาหาฉัน แล้วเขาทั้งสองได้จับแขนของฉัน และพาฉันไปยังภูเขาลูกหนึ่ง ในสภาพหนทางที่ยากลำบาก
ทั้งสองบอกกับฉันว่า "ท่านจงปีนขึ้นไปเถิด"
ฉันกล่าวว่า : "ฉันทำไม่ได้หรอก"
ทั้งสองบอกว่า :"เราจะทำให้มันสะดวกง่ายดายขึ้นสำหรับท่าน "
แล้วฉันก็ปีนขึ้นไปจนกระทั่งถึงกลางภูเขา ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงดังกึกก้อง
ฉันถามว่า: "นี่เสียงอะไร?"
พวกเขากล่าวว่า :" นี่คือเสียงร้องโหยหวนของชาวนรก"
หลังจากนั้น เขาก็พาฉันไป ทันใดนั้น ฉันก็ได้เห็นชนกลุ่มหนึ่ง ที่ข้อเท้าของพวกเขาถูกแขวนเกี่ยวเอาไว้ ที่แก้มทั้งสองมีบาดแผลฉีกออกและมีเลือดไหลอาบ
ฉันถามว่า : "พวกเขาเหล่านั้นคือใครกัน? "
เขาตอบว่า : "พวกเขาเหล่านั้น คือ บรรดาผู้ที่เจตนาละศีลอด(รอมฎอน) ก่อนที่จะได้เวลาละศีลอด"
(บันทึกโดย อิมามอันนะซาอีย์)
๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗๘๗