กุ ล ส ต รี ..... สุ ภ า พ ส ต รี
  จำนวนคนเข้าชม  248

กุ ล ส ต รี ..... สุ ภ า พ ส ต รี

 

แปลและเรียบเรียง....เพจวันละหนึ่งความคิด

 

 

- เชค อะศีศ ฟัรฮาน ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-

 

     คำถาม : เมื่อสามีรักภรรยาเพื่ออัลลอฮฺ จะนับได้ว่าความรักประเภทนี้เข้าอยู่ในกลุ่มบุคคลที่อัลลอฮฺได้ทรงตระเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ที่รักกันเพื่อพระองค์หรือไม่ ?

 

     คำตอบ : ใช่ หากสามีรักภรรยาเพื่ออัลลอฮฺ และภรรยาก็รักสามีของเธอเพื่ออัลลอฮฺ ความรักนี้นับเป็นความรักซ้อนความรัก ซึ่งแน่นอนว่า นับเป็นสาเหตุของการที่จะได้อยู่ในประเภทของกลุ่มคนที่จะอยู่ภายใต้ร่มเงาของอัลลอฮฺในวันกิยามะฮฺ วันที่จะไม่มีร่มเงาใดนอกจากร่มเงาของพระองค์

     ด้วยเหตุนี้ภรรยาที่ดีที่รักผู้ชายที่ดีที่เป็นสามีของเธอ อัลลอฮฺก็จะรวมพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน ดังที่นักวิชาการได้ระบุเอาไว้ และเช่นเดียวกัน หากสามีรักภรรยาที่เป็นคนดีด้วยความรักที่เป็นไปตามบทบัญญัติของศาสนา ขณะเดียวกันระหว่างสามีภรรยาก็ยังมีความรักที่เป็นไปตามธรรมชาติ จึงนับได้ว่าเป็นความดีงามบนความดีงามนั่นเอง

 

 

 

-เชค อิบนุ บาเดซ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     หากเราต้องการสร้างสุภาพบุรุษ เราจำเป็นต้องสร้าง "แม่ที่มีศาสนา" เสียก่อน

     และไม่มีหนทางใดที่จะนำพาไปสู่สิ่งนี้ได้ นอกจากจะต้องสั่งสอนบอกกล่าวกับลูกสาวในเรื่องราวของศาสนา

     และอบรมบ่มนิสัยพวกเธอเหล่านั้น ตามการอบรมสั่งสอนแบบอิสลาม

     เพราะหากเราปล่อยทิ้งพวกเธอให้อยู่กับ ความเขลาไม่รู้เรื่องรู้ราว ในเรื่องศาสนาแล้ว

     ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะหวังจากพวกเธอ ให้ก่อร่างสร้างสุภาพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ให้กับพวกเรา

 

 

 

- เชค ซอลิห์ เฟาซาน หะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-

 

     หน้าที่จำเป็นของมุสลิมะฮฺ คือ การหาความเข้าใจในเรื่องศาสนาของเธอเท่าที่เธอมีความสามารถจะทำได้

     ขณะเดียวกัน การที่เธอดำรงรักษาหน้าที่ในการปรนนิบัติดูเเลสามี เคารพเชื่อฟังสามี และอบรมเลี้ยงดูลูกๆ เหล่านี้คือภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่

 

     เช่นเดียวกัน มุสลิมะฮฺ จึงควรจัดสรรเวลาในการหาความรู้ในแต่ละวัน ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงเล็กน้อย 

     หรือ เป็นเพียงการนั่งอยู่ชั่วครู่ชั่วยาม (เพื่ออ่าน เพื่อเรียน) เพียงเล็กน้อยก็ตาม 

     หรือ จัดเวลาสำหรับการอ่านหนังสือในแต่ละวัน และใช้เวลาที่เหลือ ในการทำงานต่างๆ ประจำวันของเธอ

     เธอจะต้องไม่ทิ้งการหาความรู้ ขณะเดียวกันเธอก็จะต้องไม่ทิ้ง งานของเธอ ลูกของเธอ และปล่อยทิ้งพวกเขาไว้กับพี่เลี้ยง

     เธอต้องสร้างความสมดุลในเรื่องนี้ ให้เวลากับการทำความเข้าใจ ในเรื่องศาสนา ถึงแม้จะเล็กน้อยเพียงใด และให้เวลาที่เพียงพอกับงานต่างๆ ในบ้านของเธอ

[المنتقى من فتاوى الشيخ الفوزان (4/179)]

 

 

 

-เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

فَٱلصَّٰلِحَٰتُ  قَٰنِتَٰتٌ  حَٰفِظَٰتٞ  لِّلۡغَيۡبِ  بِمَا  حَفِظَ  ٱللَّهُۚ

 

"บรรดากุลสตรีนั้นคือผู้จงรักภักดี ผู้รักษาในทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ลับหลังสามี เนื่องด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺทรงรักษาไว้" 

(อันนิซาอฺ /34)

     หมายถึง เป็นหญิงที่รักษาเรื่องที่คนทั่วไปไม่อาจรู้  นั่นก็คือ ความลับที่อยู่ในบ้านสามี และความลับระหว่างเขาและเธอด้วยเช่นกัน

     เราจะพบว่า ผู้หญิงที่ดี จะไม่มีใครล่วงรู้เรื่องในบ้านของเธอได้ ยิ่งไปกว่านั้น เวลาที่มีคนถามถึงเรื่องในบ้าน

     เธอจะตอบว่า : เราสบายดี เพราะมีผู้หญิงประเภทที่ชอบฟ้อง ชอบพร่ำบ่นเรื่องราวในบ้านให้คนอื่นฟัง 

     ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงบางคน   -والعياذ بالله-  (ขออัลลอฮฺ ทรงคุ้มครองให้พ้นไปด้วยเถิด) ยังอาจหาญกว่านั้น กล้าที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับสามีทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นความลับที่ไม่ควรมีใครรู้เห็นนอกจากสามีของเธอเท่านั้น แต่เธอกลับพูดบอกมันออกไป

     ผู้หญิงที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ นับว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ  ในหมู่ผู้หญิงที่ดีเลย ! เพราะเธอได้สูญเสียความเป็นคนดี ตามปริมาณที่เธอได้สูญเสียการรักษา (ความลับระหว่างสามีภรรยา)ไปนั่นเอง !

 

 

 

- ท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ -

 

      ท่านทั้งหลายไม่ละอายไม่หึงหวงกันบ้างหรือ ที่ปล่อยให้ผู้หญิงของพวกท่านพากันออกมา ?

      ฉันได้รู้มาว่า ผู้หญิงของพวกท่านออกมาตามท้องตลาด พวกเธอต้องมาปะปนกับชายที่ดุดันก้าวร้าว (ไร้ซึ่งมารยาท)

(บันทึกโดย อิมามอะฮฺมัด)

 

 

 

- ชัยคุล อิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ –

 

การปะปนกันระหว่างชายหญิง นับเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดฟิตนะฮฺ (ความวุ่นวายปั่นป่วน)

เมื่อพวกผู้ชายไปร่วมปะปนอยู่กับพวกผู้หญิงแล้ว สถานะของเขาก็เป็นเช่น ไฟที่ปะปนอยู่กับฟืน 

(อัลอิสติกอมะฮฺ 1/361)

 

 

 

- อิมาม อิบนิ ก็อยยิม อัลเญาซียะฮฺ -

 

การปะปนกันระหว่างชายหญิง คือต้นตอของความชั่วช้าลามก และการผิดประเวณีอย่างมากมายดาษดื่น

 

 

 

- อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

สาเหตุหลักของการตายหมู่ก็คือ การแพร่หลายของการผิดประเวณี (ซินา) 

อันเนื่องมาจากการที่ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วม ในการคลุกคลีปะปนกับพวกผู้ชาย

และออกมาเดินเพ่นพ่านท่ามกลางกลุ่มผู้ชาย โดยที่เธอแต่งกายสวยงามอวดโฉมประเจิดประเจ้อ 

(الطرق الحكمية 239 )

 

 

 

- เชค บิน บ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

การปะปนกันระหว่างหญิงชาย คือ สื่อกลางของความชั่วช้าอันมากมาย

คือ ความเสียหายอันหนักหน่วง ไม่อนุโลมให้ประพฤติปฏิบัติ

 

 

 

- อบู ฏ็อลฮะฮฺ มุฮัมมัด ยูนุส บิน อับดุสสัตตาร  -

 

     ในเมื่อการที่ผู้ชายละหมาดในแถวแรกถือว่าประเสริฐสุด และการที่ผู้หญิงละหมาดในแถวหลังสุดเป็นสิ่งประเสริฐยิ่ง

     การละหมาดที่แท้จริงแล้วย่อมจะหักห้ามเราจากการประพฤติผิด และการจ้องมองในสิ่งต้องห้าม ฯลฯ

     การแยกกันระหว่างชายหญิงเช่นในการละหมาดนี้ ชวนให้คิดว่าจะไม่ประเสริฐ ไม่สมควรกว่าหรือ หากชายหญิงแบ่งแยก และไม่ปะปนกันนอกละหมาด?!

     เหตุใด เราจึงไม่มองว่าการปะปนกันระหว่างชายหญิงเป็นเรื่องน่าตำหนิ เรื่องน่ารังเกียจ ?!

     ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว มันคือการหาความเท่าเทียมจอมปลอม ที่มีแต่จะฉุดเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้หญิงให้ต่ำลง !!

( สรุปความจาก ส่วนหนึ่งของหนังสือ " ผู้นอบน้อมในการละหมาดอยู่ที่ไหน" )

 

 

 

-เชค สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

     ทรัพย์สินเงินทอง ความสวยความหล่อ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยสำหรับการเผชิญหน้ากับ พันธกิจต่างๆ ของการใช้ชีวิตคู่ 

     หากแต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดของการใช้ชีวิตคู่ คือ การมีศาสนาและมีมารยาท เพราะหนทางของการใช้ชีวิตคู่นั้นยาวไกลนัก

     และเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ให้ดำเนินอยู่ต่อไป จำเป็นเหลือเกินที่ทั้งสามีและภรรยาจะต้องอาศัย ทั้งการมีศาสนาและมีมารยาท !

(ฮักกุศ เซาญัยน์ )

 

 

 

๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓