ละหมาด(มีรางวัล)ทุกขั้นตอน
  จำนวนคนเข้าชม  71

ละหมาด(มีรางวัล)ทุกขั้นตอน...

 

แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก

 

การอาบน้ำละหมาดช่วยชำระล้างบาปเล็กน้อยให้แก่ผู้ศรัทธา

     ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:

     "เมื่อบ่าวของอัลลอฮฺ ทั้งผู้ที่เป็นมุสลิมและมุอฺมิน อาบน้ำละหมาด

     แล้วเขาล้างใบหน้า ความผิดบาปทั้งหมดที่เขามองด้วยดวงตาของเขา ก็จะหลุดออกมาพร้อมกับน้ำ หรือหยดน้ำสุดท้าย

     เมื่อเขาล้างมือ ความผิดบาปทั้งหมดที่เขาได้กระทำด้วยมือ ก็จะหลุดออกมาพร้อมกับน้ำ หรือหยดน้ำสุดท้าย

     และเมื่อเขาล้างเท้า ความผิดบาปทั้งหมดที่เขาได้เดินไปหาด้วยเท้าของเขา ก็จะหลุดออกมาพร้อมกับน้ำ หรือหยดน้ำสุดท้าย จนกระทั่งเขาออกมาสะอาดบริสุทธิ์จากบาป"

(บันทึกโดยมุสลิม/ 244)

 

 

 

ชัยคฺ บิน บาซ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

การนั่งหลังละหมาดฟัรฎูเป็นการนั่งที่มีคุณค่า

     นักวิชาการกล่าวว่า : การนั่งหลังจากให้สลามในละหมาดฟัรฎูนั้น เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งความเมตตาจากอัลลอฮฺจะถูกประทานลงมาแก่บ่าวของพระองค์

อย่ารีบลุกขึ้นยืนในทันที...!!!

     ควรขออภัยโทษ (อิสติฆฟาร)กล่าว ซุบฮานัลลอฮฺ (มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ) อัลฮัมดุลิลลาฮฺ (สรรเสริญอัลลอฮฺ) ลาอิลาฮะ อิ้ลลัลลอฮฺ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ) อัลลอฮุอักบัร (อัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด) อ่านอายะฮฺอัลกุรซีย์ อย่าลืมว่าท่านกำลังอยู่ในสภาพที่เป็นแขกของพระผู้ทรงเมตตา

     อัลลอฮฺตรัสว่า:

"ดังนั้นเมื่อเจ้าสร็จสิ้นภารกิจแล้ว จงทุ่มเทอย่างเต็มที่ และจงมุ่งสู่พระเจ้าของเจ้าด้วยความหวัง" 

(อัชชัรฮฺ7-8)

 

 

อิบนุ บัฏฏอล -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- กล่าวว่า:

 

     "ผู้ใดที่มีบาปมากมาย และปรารถนาให้อัลลอฮฺลบล้างบาปเหล่านั้นโดยไม่ต้องเหนื่อยยาก จงรีบฉวยโอกาสอยู่ในที่ละหมาดของเขาหลังจากการละหมาด เพื่อให้ได้รับการขอดุอาและการขออภัยโทษจากบรรดามลาอิกะฮฺแก่เขา" 

(ชัรฮฺ อัลบุคอรีย์ 3/114)

"ช่างเป็นการนั่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้เลย และยังเป็นก้าวหนึ่งสู่สวรรค์"

 

 

 

อิบนุล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

ผลของการกล่าวศอละวาตต่อท่านนบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

     "และผลของการกล่าวศ่อละวาตต่อท่านนบีมุฮัมมัด ﷺ อีกประการหนึ่งก็คือ เป็นสาเหตุให้เท้ายืนหยัดมั่นคงบนสะพาน (ศิรอต) และผ่านพ้นมันไปได้"

[ جلاء الأفهام (ص 453)]

 

 

 

อิบนุล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

ซูเราะฮฺอัลฟาติฮะห์ใช้เยียวยารักษาโรคภัย

     ฉันได้ยินชัยคุล อิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-  กล่าวบ่อยครั้งว่า:

     "อี้ยากะ นะอฺบุดุ" (เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เหล่าข้าพระองค์เคารพอิบาดะฮฺ) จะช่วยขจัด -ริยาอฺ- ความโอ้อวด

     "อี้ยากะ นัสตะอีน" (เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เหล่าข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือ) จะช่วยขจัด -กิบริยาอฺ- ความหยิ่งยโส

      ดังนั้น หากผู้ใดรอดพ้นจากโรค -ริยาอฺ- (ความโอ้อวด) ด้วย "อี้ยากะ นะอฺบุดุ" 

     และรอดพ้นจากโรค -กิบริยาอฺ- (ความหยิ่งโส หลงตนเอง) ด้วย "อี้ยากะ นัสตะอีน"

     และรอดพ้นจากโรค -ฎ่อล้าล- (ความหลงผิด) และ -ญะฮฺล- (ความไม่รู้) ด้วย "อิฮฺดินัศศิรอฏ้อลมุสตะกีม" (ขอพระองค์ทรงชี้นำเราสู่ทางที่เที่ยงตรง)

     ผู้นั้นจะได้รับการเยียวยาจากทุกโรคภัยและสวมใส่อาภรณ์แห่งความสุขสบาย พร้อมทั้งได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ และเขาจะเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่ของ "ผู้ที่พระองค์ทรงประทานความโปรดปราน"

     "ฆ็อยริลมัฆฎูบิอะลัยฮิม" (มิใช่แนวทางของพวกที่ถูกกริ้ว) ซึ่งหมายถึงบรรดาผู้ที่ได้รับสัจธรรมความจริงแต่ทว่ากลับดื้อรั้นไม่ยอมรับไม่ปฏิบัติ (ยิว)

     "วะลัฎฎอลลีน" (และมิใช่แนวทางของพวกที่หลงผิด) อันเนื่องจากพวกเขาคือกลุ่มชนที่ไม่รู้ความจริง และไม่รู้ว่าอะไรถูกต้อง (คริสต์)

     ดังนั้น ซูเราะฮฺ อัลฟาติฮะห์ จึงมีองค์ประกอบของการเยียวยา 2 ประการนี้ (คือการขจัดโรคร้ายทางใจและการชี้นำสู่ทางที่ถูกต้อง) จึงเป็นซูเราะฮฺที่เหมาะแก่การเยียวยาทุกโรค นี่คือความเข้าใจอันลึกซึ้งของบรรดานักวิชาการอิสลามในการตีความอัลกุรอ่าน

ﻣﺪﺍﺭﺝ ﺍﻟﺴﺎﻟﻜﻴﻦ (ﺝ1-ﺹ 127)

 

 

ท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า:

     " หัวขโมยที่ชั่วช้าที่สุด คือ คนที่ลักเล็กขโมยน้อยจากการละหมาดของเขา "

     บรรดาศ่อฮาบะฮฺต่างถามว่า:"ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺครับ จะขโมยจากการละหมาดได้อย่างไรกันครับ?"

     ท่านตอบว่า :"เขาไม่ได้รุกั๊วะอย่างสมบูรณ์ ไม่ได้สุญูดอย่างสมบูรณ์ และไม่มีความนอบน้อม (คุชั้วะ) อย่างสมบูรณ์"

(บันทึกโดย อิมามอะฮฺมัด)

 

 

 

ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า:

     "ชายคนหนึ่งจากประชาชาติของฉัน เขาตื่นขึ้นในเวลากลางคืน พยายามฝืนตัวเองเพื่อที่จะอาบน้ำละหมาด

     อัลลอฮฺ -ตะอาลา- จึงตรัส (แก่บรรดามะลาอิกะฮฺ) ว่า:

"พวกเจ้าทั้งหลายจงดูบ่าวของข้าผู้นี้เถิด เขาพยายามฝืนตัวเองเพื่อที่จะวิงวอนขอต่อข้า 

หากเขาขอสิ่งใดจากข้า ข้าจะมอบสิ่งนั้นแก่เขา 

และหากเขาขอสิ่งใดจากข้า ข้าจะมอบสิ่งนั้นแก่เขา"

(บันทึกโดย อะฮฺหมัด และ อิบนุ ฮิบบาน)

 

 

 

•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈•