ทำไมต้องเป็นวัน ?
  จำนวนคนเข้าชม  79

ทำไมต้องเป็นวัน ?

 

เรียบเรียง .... อ.จรวด นิมา

 

          เพื่อให้เกิดความพร้อมของสรรพสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสร้าง พระองค์จึงสร้าง วัน ณ ที่พระองค์เท่ากับ 1000 ปี โดยทรงตรัสแก่มันว่า "จงเป็น" วันก็จะทำหน้าที่ที่รับผิดชอบตามความเหมาะสมเพื่อสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างและเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะเกิดขั้นตามวันเวลาของมัน

 

          มนุษย์เป็นผู้ใช้เวลา หากเหตุการณ์ต่างๆ ต้องใช้วันหนึ่งเท่ากับ 5 หมื่นปี พระองค์ก็จะบันดาลให้วันหนึ่งเท่ากับ 5 หมื่นปี และหากมนุษย์ใช้เวลาถึง 1 ล้านปี จากเหตุการณ์ต่างๆ พระองค์ก็จะบันดาลวันหนึ่ง ณ อัลลอฮฺ เท่ากับ 1 ล้านปี เพื่อเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ 

 

          และวันกิยามะฮฺ เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด ? เป็นเรี่องเร้นลับสำหรับเรา เราไม่สามารถรู้ได้นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงแจ้งให้เรารู้ในอัลกรุอ่าน ว่าพระองค์ทรงสร้างวันกิยามะฮฺ เวลาของวันกิยามะฮฺจะขยายออกไปให้แก่ทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ 

 

          โดยมนุษย์ทั้งหมดจะมารวมกันในสถานที่เฉพาะ และไม่มีเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ใด จะเลื่อนเวลาออกไปอีกวันหนึ่ง พระองค์ทรงสร้างวันกิยามะฮฺเพื่อให้เหตุการณ์ต่างๆ เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในวันนี้ 

 

          เช่นนี้แหละ วันกิยามะฮฺ อาจจะหลายชั่วโมง หลายปี พันปี ล้านปี ตามแต่พระองค์ทรงกำหนดเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดขึ้นในวันนี้ 

 

          เพราะเหตุไร ? อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงเรียก กิยามะฮฺ นำหน้าด้วย วัน เพื่อให้เรารู้ว่าจะไม่มีการสอบสวนมนุษย์หลังจากวันนี้ การสอบสวนมนุษย์จะไม่เสร็จเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง และเลื่อนเวลาออกไปอีกวันหนึ่ง

 

          การสอบสวนมนุษย์ จะเริ่มตั้งแต่มนุษย์ที่อยู่ในสมัย นบีอาดัม อะลัยฮิสสลาม จนถึงมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ และเห็นการเกิดขึ้นของวันสิ้นโลก

 

          มนุษย์จะรวมกัน ณ อัลลอฮฺ และดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จะไม่มีคนหนึ่งคนใดหายไปจากการสอบสวน

 

          มีบางคนถามว่า มนุษย์ตั่งแต่สมัยนบีอาดัม จนถึงวันสิ้นโลกมีจำนวนมหาศาล แล้วจะใช้เวลาการสอบสวนเท่าไรกัน ? 

           และคิดว่า การสอบสวนมนุษย์ให้เสร็จสมบูรณ์ คงต้องใช้เวลาเป็นล้านปี เพราะแต่ละคนต้องอ่านบันทึกความชั่วความดีของพวกเขา

          ความเข้าใจของผู้ถาม เขาพิจารณาการสอบสวนตามความสามารถที่มีขีดจำกัดของมนุษย์ แต่เดชานุภาพของอัลลอฮฺไม่มีขอบเขตจำกัด

 

          ท่าน อาลี รอฎิยัลลอฮุอันฮุ เคยถูกถามว่า อัลลอฮฺ จะทรงสอบสวนมนุษย์ทั้งหมดในเวลาเดียวกันหรือ ?

          ท่านตอบว่า ก็เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงประทานริสกีให้มนุษย์ในเวลาเดียวกันนั้นแหละ 

 

          บางคนถามอีกว่า อัลลอฮฺ ตะอาลา จะทรงให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮฺ ด้วยรูปร่างหน้าตาเหมือนที่เคยอยู่บนโลกนี้เลยหรือ ? 

          เราขอบอกว่า อัลลอฮฺ ทรงอยู่ใกล้ชิดกับความนึกคิดของเรา สิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรามาพิจารณามนุษย์ที่อยู่บนโลกนี้ แต่ละคนจะมีพิมพ์ลักษณะ หรือเอกลักษณ์บุคคลไม่ซ้ำกัน

 

          กระทั่ง กลิ่นกายของมนุษย์ยังไม่เหมือนกัน เช่นเรานำผ้าเช็ดหน้าของคนหนึ่งที่อยู่ร่วมกับคนอื่นร้อยกว่าคน ให้สุนัขตำรวจดมกลิ่น สุนัขจะรู้ว่าใครคือเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น เพราะกลิ่นเหงื่อของเขาไม่เหมือนคนอื่น

 

          หรือการปลูกถ่ายอวัยวะจากร่างกายหนึ่งไปสู่อีกร่างกายหนึ่ง เพื่อแทนที่อวัยวะที่เสียหายหรือขาดหายไป บางที่แพทย์ก็พบกับปัญหาการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะนั้น

          เนื่องจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การปลูกถ่ายที่ล้มเหลว และจำเป็นต้องนำอวัยวะนั้น ออกจากผู้รับโดยทันที่ เพราะมนุษย์แต่ละร่างมีรหัสของตนเอง

 

          หรือขณะที่เรามีบาดแผล หากไม่ถึงกับเซลล์ผิวหนังตายจริงๆ ผิวหนังก็สามารถสมานกันจนกลับมาปกติได้อีก 

          หรือตับของมนุษย์สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ ในกรณีที่เนื้อตับถูกทำลาย หรือถูกตัดออกไปเหลือแค่ 1ใน 4 หากอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม แล้ว ตับที่เหลืออยู่เพียง 25 เปอร์เซ็นต์ สามารถงอกขึ้นเป็นตับใหม่ทั้งอันได้ เช่นเดียวกับผม และเล็บทุกครั้งที่ถูกตัดก็จะขึ้นมาใหม่

 

           อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงประสงค์ให้วิชาการของมนุษย์มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อจะให้วิชาการสมัยใหม่ได้เผยความจริง จากความเร้นลับในองค์ประกอบร่างกายมนุษย์ทุกๆระบบในร่างกายจะทำงานประสานกันอย่างลงตัว 

 

ดังที่ อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า

وَفِي أَنفُسِكُمْ ۚ أَفَلَا تُبْصِرُونَ (الذاريات: ٢١)

 

“และในตัวของเจ้าเองก็มีหลักฐานดังกล่าวเจ้าไม่เห็นหรือ? “

( อัซซาริยาต : 21)

 

          ซึ่งทั้งหมดนี้ บ่งชึ้ถึงเดชานุภาพของพระองค์ จะทรงให้เราฟื้นคืนชีพมีรูปร่างหน้าตาเหมือนที่เคยอยู่บนโลกนี้ เพื่อจะทรงสอบสวนในสิ่งที่ผ่านมา