ความบริสุทธิ์ใจของผู้รู้
  จำนวนคนเข้าชม  101

ความบริสุทธิ์ใจของผู้รู้

 

เรียบเรียงโดย : อิสมาอีล กอเซ็ม

 

     มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

 

          ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งความรู้ ซึ่งส่งเสริมให้มุสลิมแสวงหาวิชาการอย่างจริงจัง และถือว่าการแสวงหาความรู้นั้นเป็นหนึ่งในรูปแบบของการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ทั้งนี้ อายะฮฺแรกที่ถูกประทานลงมายังท่านนบีมุฮัมมัด ﷺ คือคำสั่งให้ “อ่าน” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาในอิสลาม

 

          แบบอย่างของกลุ่มชนในยุคแรก ซึ่งได้รับการรับรองจากท่านนบี ﷺ ว่าเป็นประชาชาติที่ประเสริฐ ได้แก่บรรดาศอฮาบะฮฺและตาบิอีน ได้วางรากฐานของการศึกษาทางศาสนาไว้ด้วยหลักการที่มั่นคง หนึ่งในหลักสำคัญเหล่านั้น คือ “ความบริสุทธิ์ใจ (الإخلاص)” ซึ่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของการงานทุกประเภทในศาสนา

 

1. ความบริสุทธิ์ใจในการแสวงหาความรู้

 

          ความบริสุทธิ์ใจ (الإخلاص) หมายถึง การมีเจตนามุ่งหวังต่ออัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียวในการประกอบการงาน ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้การงานนั้นได้รับการตอบรับจากพระองค์

     อิบนุลก๊อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า:

 

“การงานใดก็ตามจะไม่ถูกตอบรับ เว้นแต่ต้องประกอบด้วยความบริสุทธิ์ใจ (الإخلاص)

และการปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านนบี ﷺ (المتابعة)”

 

     อัลกุรอานระบุไว้อย่างชัดเจนถึงเจตนาที่ต้องบริสุทธิ์ต่อพระองค์:

وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ

 

“และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำสิ่งใด นอกจากเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ด้วยความบริสุทธิ์ใจในการนับถือศาสนา”

(ซูเราะฮฺ อัลบัยยินะฮฺ: 5)

 

          การศึกษาและการเผยแผ่ศาสนานั้น ย่อมต้องมีเจตนาเพื่ออัลลอฮฺ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางโลก เช่น ชื่อเสียง เงินทอง หรือการยกย่องจากผู้คน

 

 

2. ตัวบทหะดีษเกี่ยวกับผลร้ายของการขาดอิคลาส

 

         ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮฺ รายงานว่า ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า:

 

“แท้จริง บุคคลกลุ่มแรกที่ไฟนรกจะถูกจุดด้วยพวกเขาในวันกิยามะฮฺ มีอยู่สามจำพวก 

หนึ่งในนั้นคือ ชายผู้ศึกษาหาความรู้และสอนผู้อื่น รวมถึงผู้ที่อ่านอัลกุรอาน ...

แล้วเขาถูกนำมาให้พระองค์ทรงถามถึงการกระทำของเขา 

เขาตอบว่า: ฉันได้เรียนรู้และสอนวิชา และอ่านอัลกุรอานเพื่อพระองค์

พระองค์ตรัสว่า: เจ้าโกหก เจ้าทำไปเพื่อให้ผู้คนกล่าวว่า ‘เขาเป็นผู้รู้’ 

และ ‘เขาเป็นนักอ่านอัลกุรอาน’ และก็มีผู้กล่าวเช่นนั้นจริง แล้วเขาถูกลากใบหน้าไป และถูกโยนลงในไฟนรก”

(บันทึกโดย มุสลิม เลขที่ 1905)

 

          หะดีษนี้ชี้ชัดว่าการขาดอิคลาส (ความบริสุทธิ์ใจ) ในการแสวงหาความรู้และการเผยแผ่ศาสนา เป็นภัยร้ายแรงที่อาจนำพาผู้กระทำสู่การลงโทษในอาคิเราะฮฺ แม้ภายนอกจะดูเหมือนเป็นการงานที่ดีงาม

 

 

3. ผลของความไม่บริสุทธิ์ใจในการเผยแผ่ศาสนา

 

          ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ในบรรดาผู้ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนา บางคนอาจมีเจตนาเพื่อผลประโยชน์ทางโลก อาทิเช่น ชื่อเสียง การยอมรับจากสังคม หรือผลตอบแทนทางวัตถุ ซึ่งเป็นสิ่งที่ศาสนาอิสลามได้ตักเตือนไว้อย่างหนักหน่วง การเผยแผ่ศาสนาควรเป็นภารกิจที่ตั้งอยู่บนความหวังในความพอพระทัยของอัลลอฮฺเท่านั้น

 

     อิบนุร็อญับ อัลหัมบะลีย์ กล่าวว่า:

 

          “ความรู้คือสิ่งประเสริฐ แต่หากความรู้มาคู่กับการแสวงหาชื่อเสียง ก็จะกลายเป็นภัยที่ใหญ่หลวง ยิ่งกว่าความเขลาเสียอีก”

 

          การแสวงหาความรู้และการเผยแผ่ศาสนาอิสลามนั้นเป็นภารกิจอันสูงส่งที่ต้องอาศัยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ผู้รู้ในยุคแรกของอิสลามถือเอา ความบริสุทธิ์ใจ เป็นรากฐานในการศึกษาและการถ่ายทอด ซึ่งเป็นแบบอย่างที่มุสลิมในยุคปัจจุบันควรยึดถือ และพึงระวังมิให้ความรู้กลายเป็นเพียงเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ของดุนยา เพราะแท้จริง ความรู้เป็นของอัลลอฮฺ และต้องถูกใช้เพื่อพระองค์เท่านั้น