ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์ 128
(ตักเตือนกัน)
แปลและเรียบเรียง....เพจวันละหนึ่งความคิด
-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ไม่ว่าเวลาใดที่ท่านฝ่าฝืนอัลลอฮฺ หรือในทรัพย์สิน ชื่อเสียง เกียรติยศ ความรู้ และการกระทำใดๆ ที่มีการฝ่าฝืนอัลลอฮฺร่วมอยู่ในนั้น มันย่อมส่งผลร้ายกลับมาหาเจ้าของ ไม่เป็นผลดีสำหรับเขาผู้นั้นแต่อย่างใด
ดังนั้น เวลาชีวิต ทรัพย์สิน กำลังวังชา เกียรติยศ ความรู้และการกระทำนั้น จะไม่ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา ไม่ส่งผลดีใดๆ แก่เขา นอกเสียจากสิ่งที่เขาได้ใช้ไป ในการเชื่อฟังทำตามคำสั่งของอัลลอฮฺเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงมีคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ 100 ปี หรือประมาณนั้น แต่อายุจริงของเขา (ที่มีประโยชน์) อาจเพียงไม่ถึง 20 ปี หรือประมาณนั้น
เช่นเดียวกับที่มีบางคนครอบครองขุมสมบัติจากเงินและทองไว้มากมายมหาศาล แต่ความจริง ทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับเขาจริงๆ กลับไม่ถึงหนึ่งพันดิรฮัม หรือประมาณนั้น
ฉันใดก็ฉันนั้นกับเกียรติยศชื่อเสียงและวิชาความรู้ ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
"พึงทราบเถิดว่า แท้จริงดุนยานั้น ต่ำต้อยน่าชิงชัง และสิ่งที่อยู่ในดุนยา ก็ล้วนต่ำต้อยน่าชิงชังเช่นกัน
ยกเว้นเพียงการรำลึกถึงอัลลอฮฺ และการงานอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผู้รู้ และผู้แสวงหาความรู้เท่านั้น"
(บันทึกโดย อิมามอัตติรมีซีย์)
( الجواب الكافي ص75-76 )
- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ไม่ได้เป็นเรื่องน่าตำหนิแต่อย่างใด หากคนเราจะขอให้อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการดำรงชีพของเขาให้ดีขึ้น
ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
" วะอัศลิฮฺลี ดุนยาย่ะ อัลละตี ฟีฮา มะอาชีย์ "
( และขอพระองค์โปรดทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดุนยาของข้าพระองค์ อันเป็นที่ดำรงชีวิตอยู่ของข้าพระองค์)
ทุกคนต่างปรารถนาการมีชีวิตที่ดีในดุนยา เพราะหากชีวิตในดุนยาแย่ นั่นย่อมเป็นสาเหตุที่ทำให้การมีศาสนาของเขา เสื่อมเสียตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
เพราะคนเราเมื่อยุ่งวุ่นวายอยู่แต่กับเรื่องการหาปัจจัยยังชีพแล้ว บางทีสิ่งนั้นอาจกีดกั้นขัดขวางเขา จากสิ่งต่างๆ มากมายในเรื่องศาสนาก็เป็นได้
(ชัรฮฺ บุลูฆุล มิรอม 10/548)
-อัลฮาฟิศ อิบนิ รอญับ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
หากต้องมีแต่คนที่ไม่มีความผิดเลย (มะอฺซูม) เท่านั้น ที่สามารถทำหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้หันเหไปจากความถูกต้องได้
ก็คงไม่มีใครเลยสักคนเดียว ที่จะตักเตือนซึ่งกันและกัน ภายหลังจากท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم อีกแล้ว
เพราะหลังจากท่านแล้ว ไม่มีใครเลยที่บริสุทธิ์ปราศจากข้อผิดพลาดใดๆ
(ละฏออิฟุ้ล มะอาริฟ19)
- ท่านอิบนุ อับดิ้ล บัร ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ –
"คนที่รักท่าน เขาจะคอยห้ามปรามตักเตือนท่าน
ส่วนคนที่โกรธเกลียดท่าน เขาจะคอยก่อกวนสร้างปัญหาให้ท่าน"
(อัลอาด๊าบ อัชชัรอียะฮฺ ลิ อิบนิมุฟลิฮฺ 185)
-ท่านอิบนิ อฏียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
ไม่ได้นับว่าเป็นเงื่อนไขแต่อย่างใด ในการที่ผู้กำชับห้ามปรามไม่ให้ทำผิด จะต้องเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ไร้ความผิด หากแต่สนับสนุนให้ผู้ที่ยังทำผิด ตักเตือนห้ามปรามซึ่งกันและกัน
(تنبيه الغافلين ١/٢٣)
-เชค ซอลิห์ เฟาซาน ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -
เมื่อท่านได้แนะนำคนอื่นสู่ความดี และได้เตือนให้ระวังจากความชั่ว เท่ากับว่า ท่านได้ทำศ่อดาเกาะฮฺที่ยิ่งใหญ่แก่เขาแล้ว
เพราะแท้จริง อัลลอฮฺอาจทรงทำให้เขา ได้รับประโยชน์จากคำตักเตือนนั้น มากกว่าที่ทรัพย์สินได้ให้ประโยชน์แก่เขาเสียอีก
(อัลมินฮะฮฺ อัรรอบบานียะฮฺ 222)
-เชค อับดุลอาซี๊ซ บิน บ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
คนที่เป็นพี่น้องกับท่านที่แท้จริง คือ คนที่คอยตักเตือน คอยกระตุ้น คอยเตือนสติท่าน
คนที่ลืมท่าน ผินหลังให้ท่าน ไม่ห้ามไม่เตือนท่าน แต่ก็ยังคงใช้ชีวิตร่วมกับท่าน ไม่นับว่าเป็นพี่เป็นน้องกับท่าน
มิตรแท้ จึงหมายถึง คนที่คอยตักเตือน คอยบอกสอน คอยเตือนสติ เชิญชวนท่านไปสู่อัลลอฮฺ
ชี้บอกแนวทางที่รอดพ้นปลอดภัยให้แก่ท่าน เพื่อให้ท่านยึดถือดำเนินตาม
เตือนท่านให้ระวังจากแนวทางที่นำไปสู่ความหายนะ
บอกกล่าวกับท่านถึงบั้นปลายที่เลวร้ายของมัน เพื่อให้ท่านปลีกตัวออกห่าง
(مجموع الفتاوى)
- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
การอ่านชีวประวัติของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ส่งผลอย่างน่าอัศจรรย์ต่อหัวใจ
เพราะการอ่านประวัติจะคอยกระตุ้นเตือนมนุษย์เรา เสมือนว่าเขาอยู่กับบรรดาศ่อฮาบะฮฺ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หัวใจของเขาอ่อนโยน นุ่มนวล
(นูรุน อะลัด ดัรบิ 2/24)
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
