มัดคอลีย์  หรือ  สลาฟีย์ 

เรียบเรียงโดย  อิสมาอีล  กอเซ็ม 

          การชี้แจงข้อคลุมเครือในศาสนา (البيان عن الشبهات في الدين) นั้น เป็นภาระหน้าที่สำคัญของบรรดานักวิชาการที่มีความเที่ยงธรรมและยำเกรงต่ออัลลอฮฺ (تعالى). เมื่อลัทธิ แนวคิด หรือคำกล่าวที่ผิดเบี่ยงเบนได้แพร่หลายขึ้นในหมู่ผู้คน และนำไปสู่การเข้าใจผิดเกี่ยวกับศาสนา บรรดาผู้มีความรู้จำเป็นต้องออกมาชี้แจงอย่างชัดเจน ด้วยหลักฐานจากอัลกุรอาน, ซุนนะฮ์ และแนวทางสะละฟุศศอลิห์ เพื่อปกป้องศาสนา และปกป้องประชาชนจากความหลงผิด

          หนึ่งในเรื่องที่ต้องมีการชี้แจงในยุคปัจจุบันคือ การเย้ยหยันหรือเรียกขานกลุ่มที่ยึดมั่นในหลักการศาสนาอย่างเข้มงวดด้วยชื่อที่บิดเบือนหรือในเชิงดูถูก, เช่น การเรียกกลุ่มผู้เดินตามแนวทางสะลัฟที่เข้มงวดในการตอบโต้ บิดฮะ มัดคอลีย์ ในขณะที่ความเป็นจริง กลุ่มดังกล่าวไม่ได้ก่อตั้งลัทธิใหม่ หรือบัญญัติแนวทางใหม่ขึ้นมาแต่อย่างใด หากแต่พวกเขายึดมั่นกับอัลกุรอาน ซุนนะฮ์ และความเข้าใจของสะลัฟศอลิห์ (รุ่นซะฮาบะฮ์, ตาบิอีน, ตาบิอิตตาบิอีน) พวกเขาปกป้องหลักการเหล่านี้จากการเบี่ยงเบนของกลุ่มต่าง ๆ ที่ออกนอกแนวทางสะลัฟ

          การติดฉายาให้ผู้อื่นด้วยชื่อในเชิงดูถูก (التلقيب بالألقاب السيئة) เป็นสิ่งต้องห้ามตามบทบัญญัติอิสลาม โดยอัลลอฮฺ ตาอาลา  ตรัสว่า: 

{وَلَا تَنَابَزُوا بِالْأَلْقَابِ}"และพวกเจ้าอย่าเรียกขานกันด้วยฉายาที่ไม่ดี “

[อัลหุญุร๊อต 49:11] 

          ดังนั้น ผู้ศรัทธาที่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ จึงไม่ควรเย้ยหยันผู้ที่ยึดมั่นในหลักการศาสนาด้วยฉายาเสียดสี แต่ควรให้เกียรติพวกเขา และรับฟังสิ่งที่พวกเขาเสนอแนะหรือตักเตือนอย่างมีความเป็นธรรม. และจากหลักฐานของบรรดานักวิชาการที่เที่ยงธรรม เช่น เชครอบีอฺ อัลมัดคอลีย์ (حفظه الله) และบรรดานักวิชาการสะลัฟีย์ท่านอื่น ๆ ได้ย้ำชัดว่า จุดยืนของพวกเขาคือ การตักเตือนด้วยหลักฐาน ไม่ใช่การตัดสินผู้คนอย่างอคติ และไม่ถือเอาความผิดส่วนตัวเป็นเหตุให้ตีตราผู้ใดยกเว้นเมื่อหลักฐานศาสนายืนยันชัดเจน

          การปกป้องชื่อเสียงของกลุ่มผู้ยึดมั่นในแนวทางสะลัฟ และการชี้แจงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกเขา เป็นหนึ่งในภารกิจของนักวิชาการที่เที่ยงธรรม เพื่อปกป้องศาสนาของอัลลอฮฺ (تعالى) และเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนตกอยู่ในกับดักของความเข้าใจผิด การเย้ยหยันหรือใส่ร้ายกลุ่มผู้ยึดมั่นในแนวทางสะลัฟนั้น ถือเป็นการละเมิดหลักการศาสนา และเป็นสิ่งที่มุสลิมทุกคนควรหลีกเลี่ยง

          ถ้อยคำของเชค อับดุลอะซีซ อิบนุ บาซ (رحمه الله) ที่กล่าวยกย่องและรับรอง เชค รอเบี๊ยะ อัลมัดคอลีย์ (حفظه الله) อย่างชัดเจน: เชคอิบนุบาซกล่าวว่า: 

          "เชค รอเบี๊ยะ อัลมัดคอลีย์ เป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ยึดมั่นในแนวทางซุนนะฮ์ และเป็นนักตอบโต้บรรดาผู้เบี่ยงเบนด้วยหลักฐาน เขาเป็นหนึ่งในนักวิชาการสะลัฟีย์ที่มั่นคงยืนหยัด ขออัลลอฮฺประทานความสำเร็จแก่เขา" 

(อ้างอิง: บันทึกจากคำแนะนำของเชคอิบนุบาซเมื่อมีผู้สอบถามเกี่ยวกับเชครอบีอ์) 

          อีกแหล่งหนึ่ง เชคอิบนุบาซยังกล่าวในลักษณะชัดเจนว่า: "เชค รอเบี๊ยะ เป็นผู้มีความรู้และอะกีดะฮ์ที่ดี เป็นผู้ยึดมั่นในซุนนะฮ์ และเป็นผู้ปกป้องแนวทางของสะลัฟ

สรุปใจความ

      - เชคอิบนุบาซรับรองความรู้ (العلم) และความถูกต้องในอะกีดะฮ์ (العقيدة) ของเชครอบีอ์ - ยกย่องว่าเป็นนักตอบโต้กลุ่มเบี่ยงเบน (الرد على أهل البدع) บนพื้นฐานของหลักฐานและแนวทางสะลัฟ -อวยพรขอความสำเร็จและความมั่นคงให้แก่ท่าน 

     หมายเหตุ:** ในยุคของเชคอิบนุบาซ เชครอบีอ์ มีบทบาทสำคัญในการตอบโต้กลุ่มอิควานุลมุสลิมีน (الإخوان المسلمون) และกลุ่มแนวคิดตักฟีรีร่วมสมัยอย่างหนักหน่วง จึงได้รับการหนุนเสริมจากเชคอิบนุบาซและนักวิชาการสะลัฟีย์คนอื่น ๆ เช่น เชคอุซัยมีน และเชคอัลอัลบานีย์ด้วย

     ถ้อยคำคำชมเชยและการยืนยันจาก เชคมุฮัมมัด อิบนุ ศอลิหฺ อัลอุซัยมีน (رحمه الله) ที่กล่าวถึง เชค รอเบี๊ยะ อัลมัดคอลีย์ (حفظه الله) อย่างชัดเจน:

     เชคอุซัยมีนถูกถามว่าบางคนพูดว่า เชครอบีอ์ อิบนุฮาดีย์ อัลมัดคอลีย์ ไม่ใช่นักวิชาการ

     เชคอุซัยมีนตอบว่า : ไม่เป็นความจริง เชครอเบียะ เป็นหนึ่งในนักวิชาการที่มีความรู้ 

(قال رحمه الله: هذا غير صحيح، الشيخ ربيع من العلماء وهو من أهل العلم.)

     อีกครั้งหนึ่งมีการถามเชคอุซัยมีนว่า: "เราควรอ่านหนังสือของเชครอบีอ์ไหม?

     เชคอุซัยมีนตอบว่า:  "ใช่ จงอ่านหนังสือของเขา เพราะเขาเป็นผู้ที่มีความรู้ซึ่งมีความชัดเจน และตั้งอยู่บนบรรทัดฐาน"

     เชคอุซัยมีนยืนยันว่าเชครอบีอ์เป็น นักวิชาการที่แท้จริง หนังสือของเชครอบีอ์ ควรอ่าน และ มีแนวทางที่ถูกต้องและตรงไปตรงมา การใส่ร้ายว่าเชครอบีอ์ไม่ใช่นักวิชาการ คือ การกล่าวหาเท็จ

     คำพูดของ เชคมุฮัมมัด นาศิรุดดีน อัลอัลบานีย์ (رحمه الله)

     เชคอัลบานีย์กล่าวถึงเชครอบีอ์อย่างชัดเจนว่า: "เชครอบีอ์ อัลมัดคอลีย์ เป็นผู้ปกป้องซุนนะฮ์และแนวทางของสะลัฟในยุคของเรา"

     อีกครั้งหนึ่ง เชคอัลบานีย์ยังกล่าวเสริมว่า : "หากท่านอยากได้คนที่สามารถวิเคราะห์ความเบี่ยงเบนและวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างแม่นยำ ก็จงไปหาเชครอบีอ์"

สรุป

          เชครอบีอ์ได้รับ การยืนยันอย่างชัดเจน จากบรรดานักวิชาการระดับสูงที่สุดในยุคของเขา ทั้งเชคอิบนุบาซ, เชคอุซัยมีน และเชคอัลบานีย์ ว่าเป็น:ผู้ปกป้องซุนนะฮ์

สาเหตุหลักที่เชค รอเบียะ อัลมัดคอลีย์ (حفظه الله) ถูกวิพากษ์วิจารณ์ มีดังนี้:

1. ความเข้มงวดในการวิพากษ์กลุ่มอิควานและกลุ่มซูฟีย์

     เชค รอเบียะ เป็นหนึ่งในนักวิชาการสลัฟีย์ร่วมสมัยที่โดดเด่นในการ วิพากษ์กลุ่มอิควานุลมุสลิมีน (ภราดรภาพมุสลิม) และ กลุ่มซูฟีย์ อย่างตรงไปตรงมา

     ท่านเขียนหนังสือและทำการบรรยายโดย ชี้แจงข้อผิดพลาด ของกลุ่มเหล่านี้อย่างเปิดเผย เช่น เรื่อง บิดอะฮ์ในอะกีดะฮ์ และ แนวทางการเมืองแบบปฏิวัติ ของพวกเขา ความตรงไปตรงมานี้ทำให้ผู้ที่มีแนวคิดใกล้เคียงกับอิควานและซูฟีย์ ไม่พอใจ และตอบโต้ด้วยการใส่ร้ายท่าน

2. ความขัดแย้งในบางประเด็นกับนักวิชาการสุนนะห์บางท่าน

     แม้เชครอบีอ์จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากเชคใหญ่อย่าง อิบนุบาซ และ อุซัยมีน แต่ก็มีนักวิชาการสุนนะห์บางท่านในยุคหลังที่ มีความเห็นแตกต่างในบางประเด็น เช่น:

1. วิธีการวิจารณ์บุคคลหรือกลุ่ม

2. การประเมินสถานะของนักดะอีย์บางคนที่อยู่ในแนวทางสลัฟ(ว่าไม่ใช่สลัฟ)

     ความแตกต่างเหล่านี้บางครั้งถูกขยายผลโดยผู้ไม่หวังดี ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการ "ตัดขาด" หรือ "ทะเลาะ" กัน ทั้งที่ความจริงเป็น ความขัดแย้งทางวิชาการปกติ ระหว่างนักวิชาการ

3. การถูกโยนข้อหาและบิดเบือนจากฝ่ายตรงข้าม

     กลุ่มที่ไม่ชอบแนวทางสะละฟีย์ (โดยเฉพาะแนวทางที่เข้มงวดของเชครอบีอ์) สร้างวาทกรรมกล่าวหา เช่น เรียกผู้ตามเชครอบีอ์ว่า "มัดคอลีย์" ในเชิงเยาะเย้ย ทั้งที่ในความเป็นจริง เชครอบีอ์และผู้ที่ตามแนวทางนี้ ยังยึดมั่นในหลักการสะละฟียะฮ์แท้จริง โดยอิงอัลกุรอาน ซุนนะฮ์ และความเข้าใจของสะลัฟ